logo-heading

เป็นไปตามการคาดสำหรับการหากุนซือคนใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค เพราะในที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องไปหาใครใหม่และเลือกที่จะแต่งตั้ง ฮานซี่ ฟลิค นี่แหละให้รับหน้าที่คุมทีมไปยาวๆ

เพื่อเป็นเกียรติและแสดงความยินดีกับตำแหน่งนายใหญ่แห่งก๊วน 'เสือใต้' แบบเต็มตัว วันนี้ทาง 'ขอบสนาม' ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักชายที่ ฮานซี่ ฟลิค แบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุมกัน

ประวัติพอสังเขป

ฮานซี่ ฟลิค หรือชื่อเต็มๆ คือ ฮานส์-ดีเทอร์ ฟลิค เกิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 1965 ที่ ไฮเดลบูร์ก ประเทศเยอรมัน ปัจจุบันอายุ 55 ปี ส่วนสูง 177 เซนติเมตร ปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมของสโมสร บาเยิร์น มิวนิค แบบถาวรแล้วโดยได้สัญญาถึงปี 2023

สมัยเป็นนักเตะ

ฮานซี่ ฟลิค เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ ซานด์เฮาเซ่น ในลีกล่างของเยอรมัน และเมื่ออยู่ได้ 3 ปีตั้งแต่ปี 1982-1985 บาเยิร์น มิวนิค ก็ได้จัดการพรากตัวไปร่วมทีมตอนวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น โดยเจ้าตัวได้ใช้เวลาค้าแข้งอยู่กับทัพ 'บาวาเรี่ยนส์'  5 ปี ได้ลงเล่นไป 137 เกม พาทีมคว้าแชมป์ 4 โทรฟี่ ต่อมาก็ย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่กับ เอฟซี โคโลญจน์ แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่หลอกหลอนเป็นวิญญาณตามติดก็เลยทำให้ ฟลิค ตัดสินใจแขวนสตั๊ดทันทีในปี 1993 ตอนอายุแค่ 28 ปีเท่านั้น และตลอดเส้นทางอาชีพ ฟลิค ก็ไม่เคยได้ประสบการณ์ติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่เลยสักครั้งเดียว

จุดเริ่มต้นของเส้นทางโค้ช

หลังจากรีไทร์จากเส้นทางนักฟุตบอล ฮานซี่ ฟลิค ก็ไปใช้ชีวิตอยู่กับ วิคตอเรีย แบมเมนทัล ในลีกล่างระดับท้องถิ่นเพื่อทำตามฝันในการเป็นโค้ระดับอาชีพ อย่างไรก็ตามถึงแม้ทีมจะต้องตกชั้นไปอีกในปี 1999 แต่ ฟลิค ก็ยังอยู่ทำงานเป็นโค้ชต่ออีกปี ก่อนจะได้โอกาสเข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ที่ตอนนั้นอยู่โลดแล่นอยู่ในลีกล่างๆ อยู่เลย ในขณะเดียวกันนั้น ฮานซี่ ฟลิค ก็ไปเรียนและอบรมหลักสูตรการเป็นโค้ชระดับอาชีพด้วยเหมือนกัน และก็ได้ใบอนุญาตมาตอนปี 2003 แถมยังทำคะแนนได้สูงสุดในคลาสด้วย โดยประสบการณ์ 5 ปีในรั้ว ฮอฟเฟ่นไฮม์ เจ้าตัวช่วยให้สโมสรพัฒนาขึ้นมากและเลื่อนชั้นจาก ดิวิชั่น 4 มาอยู่ใน ดิวิชั่น 3 ก่อนที่ ราล์ฟ รังนิก จะมารับช่วงต่อ ส่วนตัวของ ฟลิค ก็ผจญภัยต่อโดยย้ายไปอยู่กับ เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก ในประเทศออสเตรีย โดยเป็นทั้งมือขวาทั้งในยุคของ จิโอวานนี่ ตราปัตโตนี่ และ โลธาร์ มัตเธอุส

ประสบการณ์กับทีมชาติ

ถึงแม้สมัยเป็นนักเตะจะไม่เคยได้เล่นให้ ทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ เลยสักครั้ง แต่การมาของ ฮานซี่ ฟลิค ในการเป็นมือขวาของ โยอัคคิม เลิฟ ตอนปี 2006 ก็ช่วยยกระดับศักยภาพทีมขึ้นมาก โดยใน ฟุตบอลยูโร 2008 เยอรมัน คว้าตำแหน่งรองแชมป์ ถัดมา ฟุตบอลโลก 2010 เยอรมัน ก็คว้าอันดับ 3 ส่วนใน ยูโร 2012 ก็ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ปี 2014 ที่ประเทศบราซิล เยอรมัน สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกมานอนกอดได้สำเร็จ หลังจากนั้นว่ากันว่า ฮานซี่ ฟลิค ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชที่ เยอรมัน เพื่อไปรับงานเป็นผู้อำนวยการกีฬาที่ สมาคมฟุตบอลเยอรมัน หรือ 'เดเอฟเบ' และในขณะเดียวกันนั้นตัวของ ฟลิค ก็มีเวลากลับไปที่ แบมเมนทัล แถบบ้านเกิดที่ ไฮเดลบูร์ก เพื่อเปิดกิจการขายอุปกรณ์กีฬาร่วมกับภรรยาของตนด้วย

บาเยิร์น มิวนิค

กรกฏาคม ปี 2019 บาเยิร์น มิวนิค ประกาศแต่งตั้งให้ ฮานซี่ ฟลิค เข้ามารับตำแหน่งมือขวาให้กับ นิโก้ โควัช แต่เนื่องด้วยทรงบอลและผลงานที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของ 'เสือใต้' ทำให้ โควัช ต้องตกงานไปในท้ายที่สุดโดยฟางเส้นสุดท้ายคือการพาทีมบุกไปโดน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ถล่มยับเยิน 5-1 และนั่นก็ทำให้ ฟลิค ได้ก้าวขึ้นมาเป็นรักษาการคุมทีมนับจากนั้น ส่วนผลงานในยุคของ ฮานซี่ ฟลิค เขาคุมทีม 21 นัด ชนะ 18 เสมอ 1 แพ้ 2 นัด ยิงได้ 67 ประตู เสีย 14 ประตู มีเปอร์เซนต์ Win Rate อยู่ที่ 85.71 % และที่สำคัญคือแกสามารถพา บาเยิร์น มิวนิค ทะยานกลับมาครองจ่าฝูง บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้อีกครั้ง ส่วนในรายการใหญ่ๆ อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องด้วย และนั่นก็นำมาซึ่งสัญญาถาวรในท้ายที่สุด

เหตุผลที่ ฮานซี่ ฟลิค ได้สัญญาใหม่

อันนี้อ้างอิงมาจากสื่อต่างประเทศเขาว่ากันว่าเหตุผลข้อแรกเลยก็คือการทำทีมได้อยู่ในระดับเดียวกันกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะหลังจากแพ้ให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค บาเยิร์น ไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกัน 11 นัด และเก็บได้ 40 คะแนนจาก 48 คะแนนซึ่งต่างจากตอน เป๊ป คุม เมื่อซีซั่น 2013-14 ที่ทำได้ 46 จาก 48 คะแนนแค่นิดเดียวเท่านั้น ข้อต่อมาก็คือศักยภาพเกมรุก เพราะตั้งแต่ ฮานซี่ ฟลิค เข้ามากุมบังเหียน บาเยิร์น ก็กลับมามีเกมรุกที่จัดจ้านและอันตรายสุดๆ อีกครั้ง โดย 73 ประตูที่เกิดขึ้นใน บุนเดสลีกา ซีซั่นนี้ 48 ประตูมาเกิดจากช่วงเวลาของ ฮานซี่ ฟลิค แถมยังเก็บได้ถึง 12 คลีนชีท และเสียแค่ 14 ประตูเท่านั้นรวมทุกรายการ เรียกได้ว่าตอนนี้ 'พี่เสือ' กำลังแกร่งสุดๆ ทั้งเกมรุกและเกมรับ และพร้อมรบกับทุกทีม

นักเตะหลายคนแจ้งเกิด

อีกหนึ่งเหตุผลที่ ฮานซี่ ฟลิค คู่ควรกับสัญญาถาวรก็คือการผลักดันนักเตะและปั้นจนเกิดนั่นเอง อาทิเช่น แซร์จ นาบรี้ ถึงแม้จะเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกแต่พอมาอยู่ในมือของ ฟลิค ขอบอกเลยว่าโหดจัดๆ เลยกับการซัดไป 8 ประตู และทำอีก 15 แอสซิสต์ในตอนนี้ นอกจากนี้พวกดาวรุ่งอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส และ โจชัว เซิร์คซี ก็ถูกดันขึ้นมาจากอคาเดมี่และก็ฉายแววได้โดดเด่นสุดๆ เหมือนกันด้วย แต่ที่พีคจัดๆ เลยก็คือการชุบชีวิต โธมัส มุลเลอร์ ให้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในวัย 30 ปี เพราะถ้าย้อนกลับไปในยุคของ โควัช สำหรับ มุลเลอร์ สถานะของพี่แกเหมือนโดนตัดหางปล่อยวัด แต่พอมาอยู่ในมือของ ฟลิค แกจับ มุลเลอร์ ไปยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำหรือตัวอิสระนั่นแหละ และผลออกมาเป็นไงรู้ไหม ? โธมัส มุลเลอร์ เป็นตัวจริงเกือบทุกนัด เขายิงได้ 6 ประตูและทำไป 16 แอสซิสต์ซึ่งมากที่สุดใน บุนเดสลีกา ณ เวลานี้ งานนี้ขอบอกเลยว่า ฮานซี่ ฟลิค รับความดีความชอบไปเต็มๆ
logoline