logo-heading

สมพร ยศ ผู้รักษาประตูมือ 1 ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เวลานี้ เดิมทีเขาไม่ได้มีความคิดจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพราะจริงๆแล้วเขาแค่อยากเป็นช่างไฟอยู่ที่บ้านเกิดที่กำแพงเพชร

แม้ว่าจะมีชื่อจากการเป็นประตูมือ 1 ยู23 ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2016 ที่ประเทศกาตาร์ แต่หลังจากนั้นชื่อเสียงของ สมพร หายไปจากสารบบบอลไทย หลังต้นสังกัดบีอีซี เทโรศาสน มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ทำให้เขาถูกส่งตัวมาอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ในเวลานั้นไม่มีตำแหน่งตัวจริงให้เขา และต้องออกไปเล่นในสัญญายืมตัวกับพัทยา ยูไนเต็ด และพีที ประจวบ หลังการเข้ามาของอเล็กซานเดร กาม่า พร้อมทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชคู่ใจบราซิเลี่ยน ทำให้ "ต้น" สมพร ยศ อยู่ในแผนการทำทีมและต่อสู้เบียดแย่งตำแหน่งกับ ดัง วัน ลัม นายทวารมือ 1 ทีมชาติเวียดนาม และก็ได้รับโอกาสมา 2 เกมติดต่อกันในไทยลีก มันเป็นการรอคอยโอกาสที่จะพิทักษ์ปากประตูให้ทีมกิเลนผยองเกือบ 4 ปีเต็ม แต่รู้หรือไม่ว่า กว่าที่สมพร ยศ จะกลายเป็นนายทวารดังกับทีมชั้นแถวหน้าของเมืองไทย ชีวิตในวัยเด็กเขาไม่มีความฝันที่จะเข้ามาเป็นนักฟุตบอลในเมืองหลวงเลยด้วยซ้ำ เพราะในความจริงแล้ว เขาอยากเรียนหนังสือให้จบ และผันตัวเองมาทำงานเป็นช่างไฟฟ้าฯ ตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆหรือหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำเงินมาดูแลจุนเจือครอบครัว สมพร ถูกสั่งสอนให้รู้จักคำว่าขยันอดทนต่อสิ่งที่เผชิญหน้า เขาจึงเป็นคนที่รู้จักคำว่าเสียสละดูแลน้องสาวและครอบครัว ส่วนฟุตบอลไม่ได้เล่นจริงจัง ทว่าในระหว่างที่เรียนโรงเรียนเทศบาลกำแพงเพชร "ต้น" ฉายแวว การเป็นผู้รักษาประตูชั้นดีจนไปเข้าตา “โค้ชเสก”เสกสรร ศิริพงษ์ จึงชักชวนให้มาเป็นผู้รักษาประตูให้กับ จ.กำแพงเพชร รายการเยาวชนโค้กคัพ ชิงแชมป์ภาคเหนือ โดยที่ขึ้นรถรับส่งไปฝึกซ้อม กระทั่ง.ชยุต กระต่ายทอง โค้ชฟุตบอลของสมพร หลอกเขากับเพื่อนร่วมทีมว่าจะพาไปแข่งบอลเดินสายในกรุงเทพ แต่ในความเป็นจริงคือพามาคัดตัวที่สนามฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือว่า แพทสเตเดี้ยม ในปัจจุบัน กับ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ณ สนามแห่งนี้ สุดท้ายทำให้ “ต้น” เป็นหนึ่งในขุนพลสถานศึกษาแห่งนี้ในที่สุด โดยนักเตะชุดเดียวกันยุคนั้นในตำแหน่งนี้คือ “เจ”วรุฒ เมฆมุสิก
logoline