logo-heading

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกทีมที่มีแฟนบอลไม่น้อย และส่วนใหญ่มักจะเป็นพันธ์แท้ระดับเข้าเส้น เหลือที่เราๆ เรียกกันว่า "ทูน อาร์มี่" ความบ้้าดีเดือด บวกกับความรักสโมสรยิ่งชีพ ทำให้เหล่า "ทูน อาร์มี่" ถูกยกให้เป็นหนึ่งในฮูลิแกนเบอร์ต้นๆ ของอังกฤษ

แต่ทีมที่มีแฟนบอลหนุนหลังมากมายขนาดนี้ กลับตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของเจ้าของสโมสรที่ทั้งโลกต่างรู้ว่า ขี้งก เห็นแก่ตัว และเอาแต่ได้มากที่สุด คนๆ นั้นก็คือ ไมค์ แอชลี่ย์ ผู้เข้ามาเทคโอเวอร์เป็นเจ้าของทัพ "สาลิกาดง" มาแล้วถึง 13 ปี แต่เป็น 13 ปีที่แฟนๆ ต่างรวมหัวกันก่นด่าและสาปแช่งรอวันให้ เฮียตือ ออกไปจากสโมสรนี้เสียที   [caption id="attachment_110800" align="aligncenter" width="450"] ทูนอาร์มี่ รอมานาน! กว่าจะมีวันนี้ วันที่ สาลิกา จ่อได้เจ้าของใหม่ที่โคตรรวย ไมค์ แอชลี่ย์[/caption] และแล้ววันที่สาวกนิวคาสเซิ่ล รอคอยก็ใกล้จะมาถึงเต็มที เมื่อสื่อหลายสำนักต่างรายงานไปในทางเดียวกันว่าอีตา ไมค์ แอชลี่ย์ ยอมตกลงขายทีมให้ กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 350 ล้านปอนด์ เหลือเพียงรอการประกาศอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ และเผื่อหลายท่านไม่ทราบว่า กลุ่มทุนซาอุฯ ที่ว่านี้คือกลุ่มทุนไหน รวยมั้ย มีใครอยู่เบื้องหลัง วันนี้ขอบสนามหามมาแนะ จะเซาะแซะแกะเกาเอามาเล่าให้ท่านฟังเอง แต่บอกเลยว่าแม่งรวยชิพหาย!! แต่ๆ ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกลุ่มทุนนี้ ผมขอแนะนำอีกหนึ่งตัวละครสำคัญคนนั้นมีชื่อว่า อแมนด้า สเตฟลีย์ นักธุรกิจสาววัย 47 ปี ที่มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับด้านการเงินในแถบตะวันออกกลางมานับ 10 ปี เธอคนนี้แหละเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่แนะนำกลุ่มทุนซาอุฯ ให้เข้ามาซื้อ นิวคาสเซิ่ล [caption id="attachment_110797" align="aligncenter" width="450"] ทูนอาร์มี่ รอมานาน! กว่าจะมีวันนี้ วันที่ สาลิกา จ่อได้เจ้าของใหม่ที่โคตรรวย อแมนด้า สเตปลี่ย์[/caption] ว่ากันว่า สเตฟลี่ย์ เป็นแฟนบอลนิวคาสเซิ่ล ตัวยง และเมื่อปี 2017 ก็เคยติดต่อขอซื้อ "สาลิกาดง" ด้วยตัวเองมาแล้ว แต่โดน ไมค์ แอชลี่ย์ ปฏิเสธ พร้อมกับบอกเธอว่า "เสียเวลาที่ต้องมานั่งคุยกับคนอย่างเธอ" แต่สาวใหญ่รายนี้ก็ไม่ย่อท้อในเมื่อเธอเงินไม่ถึง ทำให้ แอชลี่ย์ หันมาเหลียวไม่ได้ ก็ผันตัวไปเป็นนายหน้า ทาบทามให้กลุ่มทุนจากยูเออี มาเจรจาขอซื้อทีมกับ อีตาไมค์ อีกครั้งในปี 2018 ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้สวย แต่ดีลก็ดันล่มไปซะอย่างงั้น แต่แม้จะการเจรจาจะพังไป 2 รอบ สเตฟลี่ย์ ก็ไม่ย่อท้อกลุ่มทุนยูเออี ไม่เวิร์คคราวนี้ก็เลยไปติดต่อ กลุ่มทุนจากซาอุฯ ดูบ้าง กลับกลายเป็นคุยถูกคอรู้ใจ ถึงขนาดแว่วๆ ว่าจะให้ สเตฟลี่ย์ เนี่ยเลื่อนชั้นจาก "นายหน้า" มาเป็น "ผู้ซื้อ" เองเลย โดยกลุ่มทุนซาอุฯ นี่แหละจะคอยเป็นแบ็คอัพสนับสนุนเรื่องเงินให้ เอาหละทีนี้คงอยากรู้แล้วสินะครับว่า กลุ่มทุนซาอุฯ ที่ว่านี้มันมีดีขนาดไหน รวยกี่แสนล้าน. .. กลุ่มทุนกลุ่มนี้มีชื่อว่า “ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์” และมีเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย เป็นหัวหน้าใหญ่คอยบริหารอยู่ [caption id="attachment_110798" align="aligncenter" width="450"] ทูนอาร์มี่ รอมานาน! กว่าจะมีวันนี้ วันที่ สาลิกา จ่อได้เจ้าของใหม่ที่โคตรรวย บิน ซัลมาน[/caption] ใช่แล้วครับ ชื่อคุ้นๆ ใช่มั้ยหละ เจ้าชาย บิน ซัลมาน คนเดียวกับที่เคยมีข่าวว่าจะเทคโอเวอร์สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้วนั่นแหละครับ ฉะนั้นเรื่องความรวยไม่ต้องพูดถึง 350 ล้านปอนด์นี่ขนหน้าแข้งไม่มีทางร่วงแน่ๆ ซึ่งว่ากันว่าพระองค์ทรงมีทรัพย์สินรวมมากถึง 260,000 ล้านปอนด์ จากการทำธุรกิจต่างๆ ในประเทศ และลงทุนตามบริษัทชั้นนำของโลกมากมาย ซึ่งทรัพย์สินที่ว่านี้แม่งมากกว่า ชีค มันซูร์ เจ้าของทีม แมนฯ ซิตี้ 15 เท่าตัว!! ส่วนเรื่องของการถือหุ้นในสโมสร ตามรายงานระบุว่า กลุ่มทุน “ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์” จะถืออยู่ที่ 80% อแมนด้า สเตฟลี่ย์ 10% ส่วนอีก 10% เป็นของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวอังกฤษตระกูล รูเบน ซึ่งการถือหุ้นมากถึง 80% ของกลุ่มทุนนี้ ก็น่าจะบ่งชี้แล้วว่า พี่ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะถ้าเจ๊ง หรือตกชั้นก็คงเสียหน้าเสียชื่อแย่ ฉะนั้นทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ไม่ต้องถามเลยะครับว่าสาวก "ทูน อาร์มี่" จะดี๊ด๊าและเฝ้ารอการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนนี้อย่างใจจดใจจ่อขนาดไหน เพราะอยู่ๆ ก็เหมือนหนูตกถังทอง จากไออ้วนขี้เหนียว กลายเป็นเจ้าชายผู้ร่ำรวย ฉะนั้นหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งไม่น่ามีอะไรพลิก เรารอดูการใช้เงินอย่างบ้าคลั่งของ นิวคาสเซิ่ล ได้เลย บอกเลยว่า แมนฯ ซิตี้ มีคู่แข่งแน่นอน แถมเป็นคู่แข่งที่รวยกว่ามากๆ ด้วย!

ชิน ชินพัฒน์

logoline