logo-heading

เชื่อเลยว่าแฟน แมนฯ ยู ส่วนใหญ่ พอได้ยินชื่อ เจสซี่ ลินการ์ด ก็จะร้องยี้ไปตามๆ กัน เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่สุดแสนจะย่ำแย่ แต่ก็ดันได้ลงเล่นอยู่เรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นลูกรักของกุนซือทุกคน ไหนจะบ้าโซเชียล ทำอะไรเพี้ยนๆ เกรียนๆ ให้ชาวโลกได้หมั่นไส้ คือถ้าผลงานในสนามดี แฟนผีก็คงไม่กด่าถ้ามึงจะบ้าโซเชียล แต่นี่มันไม่ใช่เลย

อย่างไรก็ตาม น้อยคนนักแหละที่จะรู้ว่ากว่าที่ เจสซี่ ลินการ์ด จะก้าวผ่านขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ เขาต้องผ่านอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้ ขอบสนามเรื่องเฟี้ยวเลี้ยวมาเล่า ขอลองเล่าอีกมุมนึงในชีวิตของ ลินการ์ด ที่หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าเขาต้องฝ่าฟันมามากพอสมควร กว่าจะมาเป็นแข้งชุดใหญ่ของทัพ "ปีศาจแดง" ได้ เจสซี่ ลินการ์ด ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1992 เขาเป็นแฟนบอล "ปีศาจแดง" ตั้งแต่เด็ก และก้าวเข้าสู่ทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ 7 ขวบ ก่อนจะได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพเมื่อปี 2011 แต่ก็ไม่ได้จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แบบจริงๆ จังๆ เขาถูกปล่อยยืมตัวไปถึง 4 ครั้ง กับ เลสเตอร์ ซิตี้, เบอร์มิงแฮม, ไบร์ทตัน และ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ก่อนจะกลับมาอยู่กับ ผีแดง อีกครั้งในฤดูกาล 2015/16 และได้ลงบ้างไม่ได้ลงบ้าง เล่นดีบ้าง เล่นเหี้ยบ้าง แม้ส่วนใหญ่จะค่อนไปทางเหี้ย แต่เขาก็ยังอยู่กับทีมมาจวบจนทุกวันนี้ที่อายุ 27 ปีเข้าไปแล้ว เอาหละ เรามาเข้าเรื่องเข้าราวกันดีกว่าว่ากว่าที่ ลินการ์ด จะฝ่าฟันอุปสรรคจนกลายเป็นแข้งในทีมชุดใหญ่ของ "ปีศาจแดง" ได้เหมือนทุกวันนี้นั้น เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง  หุ่นผอมบาง กับรูปร่างเล็กจิ๋ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เตี้ย ถือเป็นอุปสรรคที่ ลินการ์ด ต้องเจอมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาจะดูแคระกว่าเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกัน คำเหยียดหยามเย้ยหยันถาโถมเข้าหาเขามาตลอด แต่เขาก็กัดฟันทนสู้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งไม่นานมานี้เจ้าตัวก็เคยเล่ารำลึกความหลังผ่านสื่อให้ฟังแบบติดตลกเอาไว้ด้วยว่า "ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่ารูปร่างสัดส่วนของผม มันมักจะถูกครหา แม้ผมจะเริ่มโตขึ้นแต่ผมก็ยังว่ายน้ำในสระเด็กอยู่เลย มันมีรูปของผมตอนนั้นด้วยนะ น้องผมจะขำตลอดถ้าเห็นรูปนั้น"  "ตอนผมอายุ 15 ผมแข่งบอลทัวร์นาเม้นท์เจอกับ อาแอส โรม่า แต่ผมดูเหมือนเด็กอายุแค่ 10 ขวบ แต่ฝั่งโรม่า เด็ก 15 แต่ตัวใหญ่เหมือนคนอายุ 25 เลย ผมจำได้แม่นว่าผมเดินลงไปในสนามและเห็นคู่แข่ง ผมได้แต่คิดในใจว่า 'เชี่ยแล้ว ทำไมตัวใหญ่จังวะ' คุณต้องเห็นภาพการแข่งในวันนั้น ผมเหมือนเป็นเด็กมาสคอตที่วิ่งเล่นอยู่ในสนามเลย" นอกจากนี้ ลินการ์ด ยังเปิดเผยอีกว่า ตอนเด็กๆ พอรู้ว่าหุ่นของตัวเองเล็กกว่าคนปกติทั่วไป และอาจจะเป็นอุปสรรคในการเติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบที่ใฝ่ฝันเอาไว้ คุณตาของเขาก็แนะนำให้พยายามออกกำลังกายทุกวิถีทาง พร้อมกับอีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือ พยายามกิน แม็คโดนัลด์ ทุกวันเพราะต้องการให้น้ำหนักขึ้น ซึ่งมันก็ถือว่าได้ผลพอสมควรเลยทีเดียว เรื่องรูปร่าง ก็ถือเป็นหนึ่งอุปสรรคในการก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ทัพ "ปีศาจแดง" อีกหนึ่งอุปสรรค์ คือโอกาสลงเล่นและพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่าการที่อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ 7 ขวบ ลินการ์ด คงผูกพันธ์กับทัพ "ปีศาจแดง" อย่างมาก แต่การถูกปล่อยยืมตัว 4 ปี ติด กับ 4 สโมสร จนอายุปาเข้าไป 22 ปี เพิ่งจะเคยเล่นให้ชุดใหญ่ของ แมนฯ ยู แค่นัดเดียว หากเขาท้อถอดใจ ก็คงไม่มีทุกวันนี้ แถมผลงานตอนถูกปล่อยยืมตัวไป 4 ปี ก็ไม่ได้ดีด้วย ไม่ได้เป็นตัวจริงด้วยซ้ำ แต่ ลินการ์ด ไม่ย่อท้อเขา มุ่งมั่นก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อม ทำให้ดีที่สุดเมื่อได้รับโอกาส ตอนปรี-ซีซั่นผลงานโดดเด่น จน หลุยส์ ฟาน กัล ตัดสินใจเก้บไว้ใช้งานเองในฤดูฏาล 2015/16 ก่อนจะแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อไม่นานมานี้ ลินการ์ด ก็ออกมายอมรับผ่านสื่อแบบตรงๆ ว่าเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีทุกวันนี้ได้ โดยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "เราทุกคนต่างก็มี 2 ด้าน และมีอีกหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่รู้หรือไม่เห็นในตัวคุณ คุณรู้มั้ยสำหรับผมอะไรคือสิ่งที่บ้าที่สุด?.. .. เมื่อปี 2012 ผมยังนั่งเล่นในโรงแรมกินขนม ขณะที่เพื่อนๆ เลสเตอร์ ลงสนามอยู่เลย ผมแทบไม่ได้โอกาสลงเล่นเลยด้วยซ้ำ" "ตอนนั้นผมอยู่ในห้องแต่งตัวเดียวกันกับ เจมี่ วาร์ดี้ และ แฮร์รี่ เคน ด้วยนะ ตอนนั้นพวกเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ ผมแหละ เราทั้ง 3 คนต่างพยายามเต็มที่เพื่อได้ลงเล่นในเวที แชมเปี้ยนชิพ แต่ 6 ปีถัดมา เราทั้ง 3 คน เป็นตัวแทนทีมชาติอังกฤษ ไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก คุณคิดว่ายังไงหละ? นี่แหละชีวิต"

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการฝ่าฟันที่ไม่ธรรมดาของ นักฟุตบอลที่โดนแฟนบอลทีมตัวเองเกลียดมากที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ เรื่องหัวจิตหัวใจต้องยอมรับว่า ลินการ์ด สู้ไม่ถอย และเป็นสาวก "ปีศาจแดง" พันธ์แท้มาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ก็เหลือแค่เรียกฟอร์มเก่งเหมือนตอนถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แรกๆ ให้ได้ เพื่อกลับมากุมหัวใจแฟนบอลผีแดงอีกครั้ง. .. คุณคิดว่า เขาจะทำได้มั้ย?

ชิน ชินพัฒน์

logoline