logo-heading

แฮร์รี่ เคน กำลังตกเป็นข่าวหนักมากเรื่องการย้ายมาโลดแล่นผจญภัยกับความท้าทายครั้งใหม่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า

ก่อนหน้านี้เจ้าของฉายา 'เดอะ เฮอร์ริเคน' เล่นทำเอาแฟนๆ สเปอร์ส โดนสตั๊นไปตามๆ กันเลย เมื่อได้ออกมาเปรยๆ ว่า ถ้าทีมยังไม่พัฒนาหรือก้าวหน้าขึ้นในการลุ้นแชมป์พี่แกก็อาจจะขอ เซย์ กู๊ด บาย ย้ายออกจากทีมไปก็เป็นได้ ก่อนที่จากนั้นจะมีหลายๆ กระแสที่ยุและเชียร์ให้ แฮร์รี่ เคน เลือกย้ายทีมไปเลยหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเหตุผลหลายประการเลยที่สวนทางกัน และวันนี้ทาง 'ขอบสนาม' ขอวิเคราะห์ 6 เหตุผลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ควรกระชากตัว แฮร์รี่ เคน มาล่าสกอร์ ?

ค่าตัว

ก่อนหน้านี้ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร สเปอร์ส เหมือนจะฉุนขาดเมื่อ แฮร์รี่ เคน ได้ออกมาแบะท่าเรื่องการย้ายออกจากทีม จึงได้ประกาศลั่นไว้ว่า ทีมใดที่อยากได้ เคน ก็จ่ายมาเลย 200 ล้านปอนด์ซึ่งจำนวนตัวเลขดังกล่าวนั้นมีไม่เพียงกี่ทีมบนโลกที่สามารถจ่ายเงินในระดับนี้ได้ คำถามก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกล้าจ่ายเงินในระดับนี้จริงเหรอ ? โอเค จริงอยู่ที่พวกเขามีกำลังทรัพย์ที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง ดังนั้นเงินในจำนวนดังกล่าวกับนักเตะแค่คนเดียวมันคุ้มจริงเหรอ ? สมมติต่อให้เจรจาต่อรองเหลือสัก 120-140 ปอนด์ก็ยังดูแพงเว่อร์วังไปอยู่ดีนั่นแหละ สู้เอาเงินก้อนนี้กระจายๆ ไปหาตำแหน่งที่ยังขาดดีกว่าไหม ?

พวกสวยแต่รูป

กูรูจากสื่อค่าย ESPN หลายคนกระตุ้นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาตัว แฮร์รี่ เคน มาร่วมทีมให้ได้ แต่ทาง เครก เบอร์เลย์ กลับเห็นต่างโดยให้เหตุผลว่า 'ปีศาจแดง' ควรหลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญานักเตะที่สวยแต่เปลือกนอกเท่านั้น เขาไม่ได้สื่อว่า แฮร์รี่ เคน ไม่เก่งหรืออะไรนะ แต่สิ่งที่แกมองก็คือเจ้าของฉายา 'เดอะ เฮอร์ริเคน' ไม่ใช่นักเตะประเภท เดอะ แบก และถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด อยากได้ตัวเขาจริงๆ พวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นก่อนว่าพวกเขาคือทีมที่ดีพอที่จะท้าทายความสำเร็จได้ ถ้าเกิดพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าจริง การเซ็นสัญญา แฮร์รี่ เคน จะเป็นแง่ที่ทำให้ทีมได้เปรียบคู่แข่งมากกว่า ย้อนกลับไปดูเรื่องราวประวัติในอดีต แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เซ็นสัญญากองหน้าเก่งๆ ดังๆ มาหลายคนนะ ไม่ว่าจะเป็น ดไวท์ ยอร์ค ของ แอสตัน วิลล่า ในปี 1998, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปี 2008 หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของ อาร์เซน่อล ในปี 2012 และในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ลุ้นและเข้าใกล้ความสำเร็จอยู่ตลอด พวกเขาไม่เคยจบอันดับต่ำกว่าที่ 3 เลยตลอดช่วง 2 ทศวรรษ แต่พอตัดภาพกลับมาที่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในจุดๆ นั้นเลย

ประวัติอาการบาดเจ็บ

แฮร์รี่ เคน ได้ลงเล่นครบ 38 นัดตอนพี่แกคว้ารางวัล โกลเด้น บูท ของ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรก ตอนฤดูกาล 2015-16 จากการซัลโวไป 25 ประตู ถัดมาอีก 1 ซีซั่นก็ซัดไปอีก 29 ประตูจาก 30 เกมและก็คว้ารางวัลดังกล่าวได้อีกเช่นกัน ตลอดจนในฤดูกาล 2017-18 พี่แกก็ยังคงอยู่ในเส้นทางการล่าถ้วย 'รองเท้าทองคำ' จากการระเบิดไป 30 ประตูจาก 37 เกม แต่ในช่วง 2 ฤดูกาลล่าสุดปัญหาอาการบาดเจ็บค่อยๆ เข้ามาหาเขาเรื่อยๆ และก็ได้โอกาสลงสนามน้อยลงเรื่อยๆ โดยในฤดูกาล 2018-19 เคน ได้ลงแค่ 28 เกมเท่านั้น พอปีนี้ก็ได้ลงแค่ 20 จาก 29 นัดเท่านั้น มันก็สอดคล้องกับข้อด้านบนเลย มันคุ้มเสี่ยงเหรอ ? กับนักเตะในระดับค่าตัว 150-200 ล้านปอนด์ ? ถ้า โอเล กุนนาร์ โซลชา อยากท้าทายล่าแชมป์จริงๆ เงินจำนวนนี้เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม ?

เพดานค่าเหนื่อยทีม

นอกจากเรื่องค่าตัวที่แพงจนหูฉี่แล้วถ้าเกิด แฮร์รี่ เคน ย้ายมาล่าสกอร์ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงๆ อีกหนึ่งปัญหาที่จะตามมาคือเรื่องเพดานค่าเหนื่อยของทีม ปัจจุบัน เคน รับค่าเหนื่อยกับ สเปอร์ส อยู่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ดังนั้นถ้าเกิดพี่แกย้ายมาจริงๆ ก็คงได้ค่าเหนื่อยไม่น้อยกว่านี้แน่ๆ เผลอๆ อาจจะมากกว่านี้เลยด้วย ซึ่งมันอาจทำให้เกิดปัญหาเหมือนตอน อเล็กซิส ซานเชซ ย้ายมาใหม่ๆ ถ้ายังจำกันได้ อเล็กซิส ได้รับค่าเหนื่อยในระดับที่แตะหลัก 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จากนั้นก็มีรายงานมาว่า ดาบิด เด เคอา ก็เรียกร้องสัญญาใหม่และต้องการค่าเหนื่อยในระดับเดียวกัน ส่วนสาเหตุนั้นว่ากันว่าเป็นเพราะพี่แกอยู่มานานกว่า ลงสนามต่อเนื่องมากกว่า และมีความสำคัญกับทีมมากกว่า และสุดท้าย เด เคอา ก็ได้ในสิ่งที่เขาต้องการนั่นคือค่าเหนื่อย 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จากนั้นมันก็มีนักเตะหลายคนที่อยากได้สัญญาใหม่และได้ค่าเหนื่อยที่แพงขึ้นพอๆ กัน อาทิเช่น อันเดร เอร์เรร่า เป็นต้น แต่โชคร้ายที่เขาไม่สมหวัง เพราะการเจรจามันไม่ลงตัว ก่อนจะตัดสินใจขอบายและย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ดีกว่า

ขัดขวางการเติบโตของ น้องมาร์ก

อองโตนี่ มาร์กซิยาล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการกดไป 16 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาลนี้ ส่วนสไตล์การเล่นและทักษะส่วนตัวของพี่แกก็ถือว่าทำประโยชน์ให้กับทีมเยอะมาก เล่นบอลฉลาด ครองบอลได้ดี วิ่งทำทางได้ดี และ สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆ ก็ได้เหมือนกัน ตลอดจนการยิงประตูในเกมสำคัญๆ จนทำให้หลายๆ คนเริ่มเอาชื่อของ 'น้องมาร์ก' ไปเปรียบเทียบกับ เอริค เดอะ คิง คันโตน่า เอาง่ายๆ คือตอนนี้ มาร์กซิยาล กำลังอยู่ในช่วงเติบโต กำลังเล่นได้ดี ดังนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรไปขัดขวางและควรสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆ บทบาท ถ้าเกิดพวกเขาไปทุ่มเงินกระชาก แฮร์รี่ เคน มาจริงๆ ด้วยการลงทุน 200 ล้านปอนด์เท่ากับเขาจำเป็นต้องได้โอกาสลงเล่นทุกนัดซึ่งนั่นอาจเป็นเชือกที่หยุดรั้งการยกระดับศักยภาพฝีเท้าของ มาร์กซิยาล ได้

ติโม แวร์เนอร์ อาจคุ้มกว่า

ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการกองหน้าตัวใหม่จริงๆ ในช่วงจบฤดูกาล พวกเขาควรมองถึงข้อดีและความคุ้มค่าในหลายๆ ด้าน ไล่ตั้งแต่สไตล์การเล่นเข้ากับระบบทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา หรือเปล่า ?, ความครบเครื่อง ?, ฟอร์มและอายุการใช้งาน ? ถ้าพูดถึงนักเตะในตำแหน่งกองหน้าอีกคนที่มีข่าวด้วยก็คือ ติโม แวร์เนอร์ ที่เหมือนจะมีองค์ประกอบพวกนี้มากกว่า แฮร์รี่ เคน ทุกข้อ ผลงานการระเบิดสกอร์ก็กว่า, อายุก็น้อยกว่า, ได้ลงสนามต่อเนื่องมากกว่า แถมยังพลิกบทบาทนอกจากกองหน้าตัวเป้าไปเล่นเป็นปีกก็ได้ และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ค่าตัวของ ติโม แวร์เนอร์ ตามรายงานมันอยู่แค่ 65 ล้านยูโรเท่านั้น
logoline