เซร์คิโอ โรเมโร่ นายทวารตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่าถึงเหตุการณ์อันตึงเครียด เมื่อครั้งต้องฝ่าวิกฤตเชื้อร้าย "โควิด-19" เดินทางกลับไปยังประเทศอาร์เจนติน่า และ ต้องพบปะผู้คน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีใครติดเชื้อบ้าง โดยเฉพาะบนเครื่องบิน อีกทั้งยังต้องถูกกักตัวไว้ 14 วัน แต่โชคดีที่ผลตรวจแสดงให้เห็นว่า "ไมติดเชื้อ"
นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ เล่าว่า "ผมกลับไปที่ อาร์เจนติน่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม การเดินทางของผมตอนนั้นมันยากลำบากเหลือเกิน เพราะผมต้องนั่งรถยนต์จากแมนเชสเตอร์ ไป ลอนดอน และผมถึงนั่งเครื่องบินจาก ลอนดอน ไป ปารีส ที่สนามบินมีผู้คนไม่เยอะนักหรอก แต่ผู้คนต่างก็รักษาระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย"
"แต่ทุกคนดูประหม่าและรู้สึกไม่ดีเวลาเจอใครต่อใคร เพราะมันก็มีคนที่จามออกมา จริงๆแล้วพวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นอะไรก็ได้ แต่ทุกคนต่างระแวงกันและกัน และ ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมไว้"
"ตอนที่ผมอยู่บนเครื่องบิน เพื่อเดินทางจาก ปารีส ไปยังกรุง บัวโนส ไอเรส ผมนั่งประจำที่โดยไม่ลุกไปไหน ไม่กิน และ ไม่เดินไปเข้าห้องน้ำ เป็นเวลา 14 ชั่วโมง เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าคนที่อยู่บนเครื่องบิน จะมีใครเป็นหรือเปล่า"
"เมื่อผมเดินทางถึง อาร์เจนติน่า ผมถูกส่งไปโรงแรม ซึ่งเป็นศูนย์กักกัน โดยใช้เวลา 14 วัน มีผู้คนมากมายเดินทางมาจากยุโรป และ พวกเราจำเป็นจะต้องกักตัวอยู่ตามลำพัง ผมกักตัวอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ และ หลังผ่านพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้ว พวกเขาก็พาผมไปตรวจหาเชื้อทั้งทางจมูกและทางปาก ผมรอผลตรวจที่โรงแรมมากกว่า 3 วัน และ พบว่าผมไม่ติดเชื้อ จากนั้นผมถึงได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว"
