logo-heading

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โรนัลโด้ อ้วนบราซิล, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ, โรแบร์โต้ บาจโจ้, จานลุยจิ บุฟฟ่อน พวกเขาเหล่านี้คือยอดแข้งที่ไม่เคยมีวาสนาคว้าแชมป์ "บิ๊กเอียร์" ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลยสักครั้ง

แม้ว่าผลงานจะดีแค่ไหน เล่นทีมใหญ่มามากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถคว้ามาครองได้ แต่กับบางคนที่อาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่โด่งดังนัก หรืออาจเป็นแค่ส่วนเกินของทีม แต่ก็ดันอยู่ในทีมชุดที่คว้าแชมป์ยุโรป เลยได้เหรียญทองมาคล้องคอไปกับเขาด้วย อย่างว่าแหละครับ แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งไม่ได้ และนี่คือ 6 นักเตะที่คุณอาจลลืม หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยคว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว    โจนาธาน กรีนนิ่ง - แมนฯ ยูไนเต็ด 1998/99 แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงปลายยุค 90 คือช่วงที่กำลังกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยชายที่ชื่อว่า เซอร์  อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ฉะนั้นน้อยมากที่จะเห็น "ผีแดง" ซื้อแข้งโนเนมจากลีกรอง แต่ป๋าเฟอร์กี้ ก็นำสินสอด 5 แสนปอนด์ ยื่นสู่ขอ กรีนนิ่ง ในวัย 19 ปี จาก ยอร์ค ซิตี้ มาร่วมทีม ในปี 1998  หลังลงเล่นให้ทีมสำรองตลอดทั้งฤดูกาล 1998/99 ซีซั่นถัดมาซึ่งก็คือปีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า "ทริปเปิ้ล แชมป์" กรีนนิ่ง ที่เล่นได้ทั้งปีกและมิดฟิลด์ตัวกลาง ก็ได้รับโอกาสให้เปิดซิงกับทีมชุดใหญ่ ผลงานก็ไม่แย่ แต่ไม่โดดเด่น สรุปทั้งฤดูกาลได้ลงเล่นไป 7 นัดถ้วน ทว่าไม่ได้ลงเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลย อย่างไรก็ตามการที่เขามีชื่อเป็นตัวสำรองไม่ได้ใช้งานในนัดชิงสุดดราม่ากับ บาเยิร์น มิวนิค มันก็เพียงพอแล้วต่อการได้เหรียญแชมป์มาประดับบารมี สุดท้าย กรีนนิ่ง ที่ถูกมองว่าอาจจะเป็นอะไหล่ชั้นดียาม ไรอัน กิ๊กส์ หรือ เดวิด เบ็คแฮม ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นแค่นักเตะฝีเท้าธรรมดาๆ คนนึง ถูกขายทิ้งไปให้ มิดเดิลสโบรซ์ ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ ในปี 2001 หยุดสถิติลงเล่นให้ แมนยู เอาไว้ที่ 4 ฤดกาล 27 นัด 0 ประตู    อิบัน คัมโป - เรอัล มาดริด 1999/00 , 2001/02 คัมโป ย้ายจาก เรอัล มายอร์ก้า มาอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 1998 ก็ได้ลงเป็นตัวจริงบ้าง สำรองบ้างสลับๆ ผลัดๆ กันไป แต่ในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1999/00 เขาถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริง และยืนอยู่ในสนามครบ 90 นาที ช่วยให้ทัพ "ราชันชุดขาว" ถล่ม บาเลนเซีย ไป 3-0 คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่หลังจากนั้น คัมโป ก็เริ่มตกเป็นส่วนเกินของทีม โอกาสในการลงเล่นก็น้อยลงเรื่อยๆ ในฤดูกาล 2001/02 เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อีกหน แต่คราวนี้ คัมโป ไม่มีชื่อในนัดชิงแม้กระทั่งตัวสำรอง สุดท้ายก็ถูกปล่อยให้ โบลตัน ยืมตัวไปใช้งานก่อนขายขาดไปในที่สุด   ฌิมี่ ตราโอเร่ - ลิเวอร์พูล 2004/05 ต้องยอมรับว่า ตราโอเร่ คือหนึ่งในตัวตลกสำหรับแฟนบอลคู่อริของ ลิเวอร์พูล เพราะความเฟอะฟะ ที่มักจะเล่นผิดพลาดอยู่บ่อยๆ บวกกับลูก "ตราโอเร่ เทิร์น" ในตำนานที่พยายามจะเลียนแบบ "ซีดาน เทิร์น" แต่เสือกไปทำหน้าประตูตัวเอง ก็เรียบร้อยสิครับ เข้าประตูตัวเอง! มันก็เลยกลายเป็นภาพจำว่า ไอนี่คือตัวตลกตัวโจ๊กประจำทัพ "หงส์แดง" ในยุคนั้น แต่ขอโทษ ตราโอเร่ อยู่กับ ลิเวอร์พูล นานถึง 8 ปีเลยทีเดียวนะครับ ลงเล่นไปเกือบ 150 นัด ได้แชมป์มา 3 รายการ ลีกคัพ, เอฟเอ คัพ และแน่นอน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2004/05 ที่ "หงส์แดง" แสดงอภินิหารไล่ตามตีเสมอ เอซี มิลาน ในครึ่งหลังจาก 3-0 เป็น 3-3 ก่อนจะชนะการดวลจุดโทษพลิกคว้าแชมป์ไปได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่ง ไอเจ้าตราโอเร่ นี่ก็ได้ลงเล่นในแมตซ์ประวัติศาสตร์นี้ครบ 120 นาทีเลยด้วย!   พอล แลมเบิร์ต - ดอร์ทมุนด์ 1996/97 แลมเบิร์ต อาจจะถูกจดจำว่าเป็นตำนานแข้งของ เซลติก และทีมชาติสก็อตแลนด์ เพราะมีส่วนพาทัพ "ม้าลายเขียวขาว" คว้าแชมป์ลีก และ บอลถ้วย ไปอย่างละ 4 สมัย แต่หารู้ไม่แชมป์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่าง UCL แลมเบิร์ต ก็เคยสัมผัสมาแล้ว ตอนไปเล่นที่เยอรมันกับ ดอร์ทมุนด์ แม้ แลมเบิร์ต จะอยู่กับ "เสือเหลือง" แค่ช่วงสั้นๆ เพียง 1 ปีครึ่ง แต่ผลงานจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว เพียงแค่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาก็ยึดตัวจริงในแดนกลางได้ทันที และเป็นส่วนสำคัญช่วยพา ดอร์ทมุนด์ อัด ยูเวนตุส 3-1 ในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวลงเล่นครบ 90 นาทีซะด้วย ฤดูกาลถัดมา แลมเบิร์ต ก็ยังโชว์ฟอร์มโดดเด่น ลงตัวจริงเสมอ แต่มันดันเด่นไปเข้าตา เซลติก ที่รอจบฤดูกาลไม่ไหว ขอกระชากตัวมาเสริมทัพตั้งแต่กลางฤดูกาลซะเลย ปิดฉากการค้าแข้งกับ "เสือเหลือง" ของ แลมเบิร์ต ก่อนจะสถาปนากลายเป็นตำนานของ เซลติก แทนในเวลาต่อมา   โอริโอล โรเมอู - เชลซี 2011/12 ดาวเตะวัย 28 ปีที่ตอนนี้ยืนบัญชาเกมแดนกลางให้ เซาธ์แฮมป์ตัน มีประวัติการค้าแข้งที่ไม่ธรรมดานะ เพราะเคยอยู่กับ บาร์เซโลน่า และ เชลซี มาแล้ว และที่สำคัญเคยคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วด้วย กับ เชลซี ในฤดูกาล 2011/12 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขาย้ายจาก บาร์ซ่า มาซบ สิงห์บลูส์ เรียกได้ว่าย้ายมาถูกจังหวะมาก ย้ายปุ๊ปแชมป์ยุโรปปั๊ป ฤดูกาลนั้น โรเมอู ได้ลงเล่นในบอลยุโรปไป 3 เกม ส่วนนัดชิงที่ เชลซี แม่นโทษชนะ บาเยิร์น มิวนิค โรเมอู มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าตัวมีเหรียญแชมป์ยุโรปมาคล้องคอตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี อย่างไรก็ตามฝีตีนของ โรเมอู ดูจะต่ำกว่าที่คาดเอาไว้ ฤดูกาลถัดมาถูกส่งลงเล่นรวมแล้วแค่ 9 นัด ก่อนจะโดนปล่อยให้ บาเลนเซีย และ สตุ๊ทการ์ต ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งก็ยังดูไม่มีแวว สุดท้ายก็ขายทิ้งให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปในปี 2015 สนนราคาแค่ 5 ล้านปอนด์เท่านั้น    มาร์โก อเนาโตวิช - อินเตอร์ มิลาน 2009/10 กองหน้าทีมชาติออสเตรีย เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ ทเวนเต้ ในลีกฮอลแลนด์ และทำผลงานได้โดดเด่นจนไปเตะตา โชเซ่ มูรินโญ่ เข้าให้ จึงได้ยื่นข้อเสนอขอยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาล 2009/10 ทว่าตอนนั้น อเนาโตวิช ในวัย 20 ปี ยังไม่โตพอที่จะทำตัวให้ดีๆ ระเบียบวินัยก็ไม่ดีพอ เกเร มาซ้อมสาย ทำให้ "น้ามู" ไม่พอใจ ถึงขั้นประชดด้วยการซื้อนาฬิกาให้เลยทีเดียว สุดท้ายฤดูกาลนั้นเขาก็ได้ลงเล่นทุกถ้วยทุกรายการไปแค่ 3 นัด แต่ก็ได้รับเหรียญแชมป์มาประดับบารมีถึง 3 เหรียญ เพราะปีนั้น อินเตอร์ มิลาน ประกาศศักดาคว้า "ทริปเปิ้ล แชมป์" และแน่นอนหนึ่งในนั้นคือแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้จะไม่เคยได้ลงเล่นเลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่การมีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมกับ ซีเอสเคเอ มอสโก และ บาร์เซโลน่า ก็เพียงพอต่อการได้รับเหรียญแชมป์แล้ว

ชิน ชินพัฒน์

logoline