logo-heading

เคมีไม่เข้ากันก็ไปด้วยกันไม่ได้ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น สั่งปลด วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ออกจากตำแหน่งกุนซือทีมซามูไรบลูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้โค้ชชาวบอสเนียน หมดสิทธิ์ทำทีมในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ไปโดยปริยาย

สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ตัดสินใจแยกทางกับ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช โค้ชชาวบอสเนียน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ (9 เมษายน 2018) รายงานจากเจแปน ไทม์ ระบุว่า โคโซ ทาชิม่า นายกสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ได้ทำการพูดคุยกับ ฮาลิลฮอดซิช เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งกุนซือวัย 65 ปี ยินดีลงจากตำแหน่ง หลังผลงานการเตรียมทีมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีปัญหาภายในทีมตามมากมาย ทั้งเรื่องนักเตะไม่พอใจระบบการเล่น การเลือกผู้เล่นติดทีมชาติ รวมถึงการที่ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชนแดนปลาดิบ จนกลายเป็นปัญหาบานปลายไปในที่สุด ฮาลิลฮอดซิช มีความดีความชอบ พาขุนพลลูกหนังแดนซามูไร ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย กลางปีนี้ ในฐานะคว้าแชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ที่มีทีมชาติไทย ร่วมสาย ซึ่งคว้าชัยเหนือทัพช้างศึก 2 นัด เก็บ 6 แต้มเต็ม จากการบุกชนะ 2-0 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน และเกมเหย้าที่เปิดบ้านที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม ถล่มขาดลอย 4-0 สำหรับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ทีมซามูไรบลู จะมีการคัดสรรในเร็วๆนี้ ก่อนที่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายจะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า ฮาลิลฮอดซิด เคยนำ ไอวอรี โคสต์ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกในปี 2010 แต่ไม่ได้อยู่คุมทีมรอบสุดท้าย เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ ถัดจากนั้นสร้างชื่อพา แอลจีเรีย ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เวิล์ด คัพ ที่บราซิลกลางปี 2014 ก่อนจะมาคุมทีมชาติญี่ปุ่น ต่อจาก ฮาเวียร์ อากีร์เร่ เมื่อเดือนมีนาคม 2015 พาทัพนิปปอนไปโลดเล่นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก 6 สมัยติดต่อกัน อย่างไรก็ดีอดีตดาวเตะทีมชาติยูโกสลาเวีย หมดสิทธิ์เป็นกุนซือที่จารึกชื่อทำทีมลงแข่งฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัยติดต่อกันไปโดยปริยาย  
logoline