5 ประเด็นเด็ด บุนเดสลีกา ต้องจับตาก่อนรีสตาร์ทซีซั่น

วันเวลาที่ทุกคนรอคอย บุนเดสลีกา เยอรมัน ลั่นกลองรบ กลับมารีสตาร์ท ฤดูกาล 2019-20 กันอีกครั้ง หลังจากต้องเลื่อนไปมากกว่า 1 เดือน ด้วยพิษ "โควิด-19" ที่ระบาดไปทั่วโลก

ในช่วงเวลาอันแสนเงียบเหงา ฟุตบอลจะทำให้คอลูกหนัง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และ บุนเดสลีกา เยอรมัน จะเป็นลีกที่ทุกคนจับตาทั่วโลก ฉะนั้นก่อนที่ 18 สโมสร จะฟาดแข้งกันนั้น จะพาไปดู 5 ประเด็นน่าสนใจ ก่อนที่ลีกลูกหนังเมืองเบียร์ จะคัมแบ็กอีกครั้ง

1. ทีมขับเคี่ยวลุ้นแชมป์

การลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำฤดูกาล 2019-20 บอกเลยว่าสนุกและตื่นเต้นเหลือเกิน เพราะไม่ได้ผูกขาดแค่ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งจะเป็นแชมป์แบบ "แบเบอร์" อีกแล้ว ต่อให้ "เสือใต้" จะนำเป็นจ่าฝูง แข่ง 25 นัด มีอยู่ 55 คะแนน แต่กระนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ตามจี้ตูดอยู่เพียงแค่ 4 คะแนน เหลือการแข่งขันอีกถึง 9 นัด มีให้เก็บอีก 27 แต้ม อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะฤดูกาลนี้ "เสือเหลือง" ทำผลงานได้ดีมากจริงๆ อาจจะมีสะดุดไปบ้าง แต่ก็สามารถเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์แบบสุดมันส์ อย่างไรก็ตาม บุนเดสลีกา เยอรมัน ไม่ได้ลุ้นแชมป์กันแค่ 2 ทีม เนื่องจาก ไลป์ซิก อันดับ 3 ก็ไล่ตาม "อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ" มี 50 แต้ม ตามหลัง ดอร์ทมุนด์ 1 คะแนน และ บาเยิร์น มิวนิค 5 คะแนน ซึ่งถือว่าไม่เยอะเลย ฉะนั้นการกลับมาของลีกลูกหนังเมืองเบียร์ ให้ติดตามกันดีๆเลยว่า จะมีทีมไหนสามารถล้มบัลลังค์ "เสือใต้" ได้สำเร็จ

2. เปิดหัวด้วยดาร์บี้แมตช์แคว้นรูห์ 

ไม่รู้ว่าหลายๆคนจะรู้จัก "ดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นรูห์" หรือไม่ แต่เชื่อว่าคอลูกหนัง บุนเดสลีกา เยอรมัน จะต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะนี่คือ ดาร์บี้แมตช์ลำดับต้นๆของยุโรป ซึ่งเป็นการฟาดแข้งกันระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ ชาลเก้ 04 "ดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นรูห์" บาดหมางกันมาตั้งแต่ในอดีต ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น มันมีเรื่องของอาชีพ และ เศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลาที่ใครทำผลงานดีกว่าย่อมสามารถข่มขวัญคู่แข่งได้เสมอ พูดง่ายๆคือ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเป็นอันดับ 1 ของแคว้นกันมาตลอด ศักด์ศรีครั้งนี้ "ใครแพ้มีอาย" บางทีความเกลียดชังของทั้ง 2 ทีม อาจเพราะทุกอย่างมันเหมือนกันมาก ทั้งความยิ่งใหญ่, เศรษฐกิจ หรือ อาชีพทำเหมืองถ่านหิน หรือ ช่างตีเหล็ก หากไม่ใช่อันดับ 1 ของลีก อย่างน้อยก็อันดับ 1 ของแคว้นรูห์ ฉะนั้นศึก ระหว่าง "เสือเหลือง" กับ "ราชันสีน้ำเงิน" น่าจะสนุกสุดมันแน่นอน

3. ดาวซัลโว

นับตั้งแต่ที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เก็บข้าวของย้ายออกจากรังซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ก็แทบไม่มีคู่แข่งขึ้นมาต่อกรลุ้นดาวซัลโวกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เลยสักคนเดียว ไม่มีคนที่โพสต์ท้ายิงแข่งกันบนโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ค อีกแล้ว โดยตลอด 2 ซีซั่นหลังสุด ดาวเตะทีมชาติโปแลนด์ คว้ารางเท้าทองคำ ได้แบบชิวๆ ไม่มีคู่แข่งที่ขึ้นมาสมน้ำสมเนื้อ กระทั่งมาฤดูกาลนี้ เลวาน ก็ยังนำเป็นดาวซัลโวเหมือนเดิม ซัดไปแล้ว 25 ประตู แต่อันดับอาจจะไม่อยู่จีรังก็เป็นได้ เพราะรองดาวซัลโว ที่ไล่หลังมา กำลังเนื้อหอมสุดๆ สโมสรยักษ์ใหญ่รุมตอมกันเพียบ คนๆนั้นคือ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าแห่งค่าย ไลป์ซิก ซึ่งกดใส่คู่แข่งถึง 21 ตุง เป็นสถิติที่ดีที่สุดของเจ้าตัว ไม่รู้ว่าอนาคตของ แวร์เนอร์ จะเป็นอย่างไร จะต้องย้ายทีมเมื่อถึงช่วงซัมเมอร์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆเขาคงโฟกัสช่วยทีมเต็มที่ ทั้งเรื่องการลุ้นแชมป์ และ รางวัลดาวซัลโว การตามหลัง 4 ประตู อะไรก็เกิดขึ้นได้ เชื่อว่า แวร์เนอร์ พร้อมจะทิ้งทวนด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม และ มารอดูกันว่า แวร์เนอร์ จะแย่งดาวซัลโวมาจาก เลวานดอฟสกี้ ได้หรือไม่

4. ทีมลุ้นหนีตกชั้น

ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล สิ่งที่เดือดไม่แพ้กับการลุ้นแชมป์ ก็คือบรรดาทีมหนีตาย เพราะสโมสรเหล่านี้ พร้อมสู้หลังชนฝา แบบหมาจนตรอก ซึ่ง พาเดอร์บอร์น อันดับบ๊วย ดูแล้วลำบากมาก เพราะแข่ง 26 นัด เพิ่งมีแค่ 17 คะแนน ตามหลังโซนเพลย์ออฟตกชั้น 6 แต้ม ตามหลักปฏิบัติที่จะก้าวขึ้นมา ช่างยากเย็นเหมือน "เข็นครกขึ้นภูเขา" เช่นเดียวกับ แวร์เดอร์ เบรเมน รองบ๊วยที่มีแค่ 18 คะแนน แต่ทว่าอันดับ 13 ถึง อันดับ 16 บอกเลยว่า มีโอกาสร่วงมาสู่โซนสีแดงด้วยกันทั้งนั้น ไล่จากอันดับ 13 ลงมา ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต 28 คะแนน / เอาก์สบวร์ก 27 คะแนน / ไมนซ์ 26 คะแน และ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ อันดับ 16 โซนเพลย์ออฟตกชั้น 23 คะแนน จะเห็นได้เลยว่า หากมีใครพลาด 2-3 นัดต่อจากนี้ มีสิทธิ์จะร่วงมาอยู่โซนสีแดงสูงมาก ซึ่งหากทีมเหล่านี้ ที่กล่าวไป ต้องไปโคจรพบเจอกับใคร บอกเลยว่า งานหนักแน่นอน เพราะพวกเขาจะสู้ประหนึ่งว่าทุกนัดคือ "เกมชิงชนะเลิศ" อย่างน้อยก็เพื่อการได้ค้าแข้งบนเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ต่อไป

5. การรับมือกับโรค โควิด-19

ภายหลังจากโรค โควิด-19 ระบาดไปทั่วทุกหนแห่ง การกลับมาเตะฟุตบอล ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องพร้อม มาตรการทุกอย่างต้องปลอดภัย และ บุนเดสลีกา เยอรมัน จะเป็นเหมือน "ต้นแบบ" ว่าพวกเขาจะมีวิธีรับมืออย่างไร และ สิ่งใหม่ๆที่คอลูกหนังจะได้เห็นจาก บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นที่แรกของโลก อาทิ เหล่าตัวสำรอง หรือ บรรดาสตาฟฟ์โค้ช จะมีการใส่หน้ากากป้องกันตรงซุ้มม้านั่ง, การเข้าปะทะถึงเนื้อถึงตัวแบบที่ทุกคนอย่างเห็น, การเปลี่ยนตัวสำรองได้ถึง 5 คน เพื่อช่วยเหลือสภาพร่างกายของนักเตะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนกับการแข่งขันในแมตช์อย่างเป็นทางการ [caption id="attachment_113714" align="aligncenter" width="1280"] สนาม ดอร์ทมุนด์ พร้อมสำหรับแข่งขัน[/caption] ไม่เพียงเท่านั้น คอลูกหนัง อาจจะได้เห็นไอเดียของแต่ละสโมสร ที่จะจัดทำขึ้นมารับมือกับการต้องลงเตะแบบไร้แฟนบอล อย่างสโมสร โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ก็ปริ้นท์หน้าแฟนบอลไปติดไว้ตามอัฒจันทร์ ประหนึ่งว่ามีกองเชียร์มาให้กำลังใจแบบติดขอบสนาม ดีไม่ดีอาจจะได้เห็นท่าดีใจใหม่ๆแปลกๆ ในยุคที่ โควิด-19 ระบาดด้วย เพราะก็มีจังหวะที่ห้ามถูกเนื้อต้องตัวกัน