วันนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว หรือ 19 พฤษภาคม 2012 นับเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่สาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทุกคนต้องจำได้ขึ้นใจแน่นอน
เพราะ เชลซี ทีมรักของพวกเขานั้นสามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรกจากการพลิกนรกโค่น "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ถึงสังเวียน อัลลิอันซ์ อารีน่า ด้วยการยิงจุดโทษแม่นกว่า ชนะไป 4-3 หลังเสมอกัน 1-1 ในเวลา 120 นาที และเพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบกับความสำเร็จนั้นวันนี้ทาง "ขอบสนาม" จะพาทุกท่านไปตามติดชีวิตของเหล่าผู้เล่น "เดอะ บลูส์" ชุดนั้นกันว่าปัจจุบันพวกเขาทำอะไรกันอยู่ ? และเป็นอย่างไรกันบ้าง ???
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
ปีเตอร์ เช็ก จัดว่าเป็นหนึ่งในตำนานของ เชลซี ในยุคที่กอบโกยความสำเร็จมากมาย และในวันที่ เชลซี ไปถึงฝันกับแชมป์ UCL สมัยแรกส่วนหนึ่งตกยกเครดิตให้พี่แกเช่นกันกับการเซฟเป็นพัลวันจนมือแทบหัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเซฟลูกจุดโทษของ อาร์เยน ร็อบเบน จัดว่าเป็นการต่อลมหายใจสุดๆ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าวันนั้น เชลซี เป็นรอง บาเยิร์น มิวนิค ทุกอย่างแบบชัดเจน ปัจจุบัน ปีเตอร์ เช็ก หลังจากรีไทร์แขวนถุงมือกับ อาร์เซน่อล ตอนนี้พี่แกได้กลับมาใช้ชีวิตที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ เชลซี
>>> ยลโฉม! 5 สตาร์ดัง บุนเดสลีกา เป้าหมายเสริมทัพ เชลซี
แบ็กขวา : โชเซ่ โบซิงวา
เกมนัดชิงชนะเลิศที่เจอกับ บาเยิร์น มิวนิค นั่นคือเกมสุดท้ายของ โชเซ่ โบซิงวา ในสีเสื้อ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาพี่จะย้ายไปค้าแข้งกับทีมเล็กๆ อย่าง ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แต่ก็ดีที่ยังได้โลดแล่นบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไป แต่จากนั้นอีก 1 ปีเราก็แทบไม่ได้ข่าวคราวความคืบหน้าของเขาเท่าไหร่ เพราะพี่แกหนีไปค้าแข้งอยู่ในลีกตุรกีกับ แทร็บซอนสปอร์ อีก 3 ปีก่อนจะรีไทร์แขวนสตั๊ดไป ปัจจุบันหารู้ไม่ว่าตำแหน่งของ โชเซ่ โบซิงวา ไม่ธรรมดาเลยเลยทีเดียว พราะพี่แกมีดีกรีเป็นถึงทูตแอมบาสเดอร์ของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ "ยูฟ่า" ที่เรารู้จักกันดี
เซ็นเตอร์แบ็ก : ดาวิด ลุยซ์
ดาวิด ลุยซ์ เก็บข้าวของเช็คเอาท์จากรั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปครั้งหนึ่งตอนปี 2014 ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่จากนั้น 2 ปีก็กลับมาตายรังอีกครั้ง แต่ในปัจจุบัน ดาวิด ลุยซ์ ได้กลายเป็นศัตรูของ เชลซี ไปแล้วหลังตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับทีมคู่อริร่วมกรุงลอนดอนอย่าง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ส่วนเหตุผลก็ง่ายๆ เพราะพี่แกไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด นั่นเอง
เซ็นเตอร์แบ็ก : แกรี่ เคฮิลล์
แกรี่ เคฮิลล์ ก็เป็นกองหลังของ เชลซี อีกคนหนึ่งที่กลายมาเป็นคู่อริร่วมเมืองในฤดูกาลนี้ หลังตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายไปเฝ้าหลังบ้านกับ คริสตัล พาเลซ แต่แฟนๆ เข้าใจได้ดี เพราะ เคฮิลล์ ก็อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนมานาน ไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่น และการย้ายไปรับใช้ทัพ "ปราสาทเรือนแก้ว" ก็ไม่ใช่ศัตรูโดยตรงของ เชลซี เหมือน อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส และก็เชื่อมั่นอย่างมากว่าถ้าเกิด เคฮิลล์ ได้กลับมาเยือนบ้านเก่าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งพี่แกจะยังได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเสมอ เพราะนี่คือกัปตันทีม เชลซี คนล่าสุดที่ได้ชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับอีกหนึ่งกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่อย่าง จอห์น เทอร์รี่
แบ็กซ้าย : แอชลี่ย์ โคล
ถึงแม้จะเคยมีสถานะเป็นเด็กปั้นของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล แต่ในหน้าประวัติศาสตร์ของ เชลซี แอชลี่ย์ โคล ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตำนานคนสำคัญ เพราะที่ผ่านมาก็ช่วยทีมกวาดแชมป์ได้มากมาย และในช่วงชีวิตที่ เชลซี ชื่อของ แอชลี่ย์ โคล ได้รับการยกย่องว่าเป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกด้วย ส่วนช่วงชีวิตของพี่ท่านตอนเมื่อปีที่แล้ว โคล ได้เป็นนักเตะในสังกัดของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ที่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นผู้จัดการทีม ปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังร่วมงานกันที่ต้นสังกัด เชลซี เพียงแต่ แอชลี่ย์ โคล ได้รีไทร์ไปเรียบร้อย และก็ผันตัวเองไปรับหน้าที่เป็นโค้ชทีม เชลซี ชุดเยาวชน
มิดฟิลด์ : จอน โอบี มิเกล
หลังปิดฉากชีวิตตัวเองที่ เชลซี จอน โอบี มิเกล ก็เก็บข้าวของไปหาความท้าทายครั้งใหม่ บวกกับโกยเงินที่ประเทศจีนกับสโมสร เทียนจิน เทด้า ใน ไชนีส ซูเปอร์ลีก เมื่อปี 2017 แต่ก็มีแว๊บๆ ที่กลับมาอังกฤษโดยการย้ายไป มิดเดิ้ลสโบรช์ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานนักก่อนที่ มิเกล จะย้ายทีมอีกครั้งโดยไปอยู่กับ แทร็บซอนสปอร์ ใน ซูเปอร์ลีก ตุรกี อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานะของ จอน โอบี มิเกล คือเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ไร้สังกัด เพราะพี่แกเพิ่งฉีกสัญญาตัวเองทิ้ง สืบเนื่องจากลีกตุรกียังคงประกาศให้ฟุตบอลแข่งกันตามปกติช่วงที่เชื้อไวรัส โควิด-19 ระบาดหนักช่วงเดือนมีนาคม
มิดฟิลด์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
สำหรับผู้ชายคนนี้คงไม่ต้องถามนะว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เพราะทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว สำหรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะระดับตำนานที่ดีที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ของ เชลซี เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรที่ 211 ประตูทั้งที่พี่แกเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ส่วนเรื่องของถ้วยแชมป์ไม่ต้องพูดถึง เพราะกวาดมาหมดแล้วทุกรายการ ปัจจุบันในฐานะกุนซือใหญ่ "สิงโตน้ำเงินคราม" แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียวทั้งที่จริงๆ ปีนี้ เชลซี ต้องเจอกับปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลูกทีมเล่นกันเป็นระบบ ให้โอกาสดาวรุ่งหลายคนแถมแต่ละคนผลงานก็ดีๆ ทั้งนั้น เกมรุกก็จัดจ้าน และก็มีโอกาสลุ้นตีตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าด้วย
ปีกขวา : ซาโลมง กาลู
ต่อจาก โชเซ่ โบซิงวา ทาง ซาโลมง กาลู ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ลงเล่นกับ เชลซี นัดสุดท้ายในแมตช์นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2012 เช่นกัน แต่ปัจจุบันเส้นทางชีวิตของพี่แกยังดูดีอยู่ เพราะนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ กาลู ยังคงโลดแล่นอยู่บนสังเวียน 5 ลีกดัง ไล่ตั้งแต่การเล่นให้กับ ลีลล์ ใน ลีก เอิ ฝรั่งเศส จนถึงตอนนี้อยู่กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ใน บุนเดสลีกา เยอรมัน แต่ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้ว ชีวิตเริ่มโรยราขึ้นทุกวันๆ ผลงานดร็อปลงแบบเห็นได้ชัด เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเข้ามาถามไถ่อยู่บ่อยๆ เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงต้องรีไทร์แล้วแหละ
ปีกซ้าย : ไรอัน เบอร์ทรานด์
เชื่อว่าแฟนบอล เชลซี เองคงรู้สึกเซ็งจนต้องส่ายหัวอยู่บ่อยๆ ยามเห็น ไรอัน เบอร์ทรานด์ ลงสนาม เช่นเดียวกับนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น ที่พี่แกได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งปีกซ้าย แต่ปัจจุบัน ไรอัน เบอร์ทรานด์ พี่แกก็ถือว่าโตและฝีเท้าพัฒนาขึ้นเยอะจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ เซาธ์แฮมป์ตัน และยึดตำแหน่งตัวจริงมายาวๆ 6 ซีซั่นติดต่อกัน
มิดฟิลด์ตัวรุก : ฆวน มาต้า
ฆวน มาต้า ปัจจุบันอายุปาเข้าไป 32 ปีแล้วแต่ก็ยังเล่นอยู่กับทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ต้องยอมรับว่าพี่แกไม่ได้โอกาสลงสนามแบบต่อเนื่องมานานแล้ว ปัญหาหลักๆ ก็คือเรื่องของสไตล์การเล่น จริงอยู่ที่ มาต้า เป็นนักเตะจอมเทคนิค มีทักษะสกิลสูง แต่มักมีความเฉื่อยในการสร้างจังหวะเกม ส่วนเรื่องอนาคตว่ากันว่าพี่แกยังคงไม่รีบเลิกเล่นในเร็วๆ นี้หรอก เพราะมีข่าวว่าอาจจะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดที่ สเปน กับทีมเก่าอย่าง บาเลนเซีย ที่ทำให้พี่แกแจ้งเกิดขึ้นมาจนโด่งดัง
กองหน้า : ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา นี่คือฮีโร่ของ เชลซี ในค่ำคืนที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ทั้งจังหวะโหม่งตีเสมอ 1-1 ช่วงท้ายเกม รวมไปถึงคนปลิดชีพประตูสุดท้ายในช่วงการดวลจุดโทษที่ส่งให้ เชลซี ซิวแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรก นอกจากนี้ในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรเขาก็ถูกจดจำในฐานะกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งด้วยเช่นกัน ถึงแม้ ดร็อกบา จะไม่ใช่กองหน้าประเภทถล่มประตูในระดับ 20-30 ประตูทุกซีซั่น แต่จัดว่าเป็นผู้เล่นที่สร้างปัญหาให้ฝั่งตรงข้ามได้เยอะมาก ขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมกับทีมตัวเองเสมอๆ และมักยิงประตูสำคัญได้เสมอๆ เช่นเดียวกัน ปัจจุบันหลังจาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา รีไทร์ไปในปี 2018 ตอนนี้พี่แกดำรงตำแหน่งเป็นเข้าของทีมร่วมที่ ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง สโมสรในลีกรองของ สหรัฐอเมริกา
HaMu Dos Santos (หมู ขอบสนาม)
ที่มา : 90min
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
