ในโลกลูกหนังเคยมีคำกล่าวเอาไว้ว่า "ถ้าทีมของคุณมีฟลูแบ็กระดับเวิลด์-คลาส ทั้งซ้ายและขวา มันจะเป็น 90 นาที แห่งฝันร้ายของคู่แข่ง" ซึ่งคำกล่าวนี้ในยุคหลังๆ ก็เริ่มจะจริง เด่นชัดมากขึ้น เพราะทุกวันนี้หลายทีมให้ความสำคัญกับตำแหน่งฟลูแบ็กมากขึ้นกว่าเดิม
หากย้อนไปสักก 5 ปีที่แล้ว ยอดคู่หูฟลูแบ็กของโลกก็คงหนีไม่พ้น ดานี อัลเวส กับ จอร์ดี้ อัลบา หรือ ฟิลิปป์ ลาห์ม กับ ดาวิด อลาบา แต่ทว่ายุคนี้มันไม่ใช่แล้ว มีเด็กใหม่เกิดขึ้นมา มีการปรับแผนถอยปรับตำแหน่งต่างๆ จนตำแหน่งนี้มีสว่นสำคัญอย่างมาก ฉะนั้นวันนี้เราจะมาจัดอันดับ 10 คู่หูฟลูแบ็กที่เจ๋งที่สุดใน 5 ลีกดังยุโรป ณ เวลานี้ กันดีกว่า (อ้างอิงจาก squawka.com)
10.เฆซุส นาบาส - เซร์คิโอ เรกูลอน (เซบีย่า)
ต้องยอมรับตามตรงว่า เฆซุส นาบาส กับ เซร์คิโอ เรกูลอน มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ เซบีย่า บินสูงขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง ลา ลีกา สเปน ในเวลานี้ โดยมีสถิตินึงที่น่าเหลือเชื่อมากคือ นาบาส ในวัย 34 ปี เป็นนักเตะที่ลงเล่นมากนาทีที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ที่ 2,249 นาที จาก 2,430 นาที ซึ่งด้วยวัยนี้ ลงเล่นถี่แบบนี้ ฟอร์มควรจะตก อาการบาดเจ็บน่าจะมารบกวน แต่ไม่ใช่เลย แถมแม้จะอายุเยอะแต่ด้วยความเป็นปีกเก่า ก็ยังมีจังหวะกระชากลากเลื้อยไปเปิดบอลให้ได้ลุ้นอยู่เรื่อยๆ ด้วย
ส่วน เรกูลอน ที่ เรอัล มาดริด ปล่อยให้ เซบีย่า ยืมตัวมาใช้งานผลงานก็ไม่ธรรมดาไชยามิตรชัย เกมรับไว้ใจได้ เกมรุกก็บุกสนั่นเช่นกัน สร้างสรรค์โอกาสจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดากองหลังทุกคนของ ลา ลีกา ฤดูกาลนี้
9.สเตฟาน ไลเนอร์ - รามี่ เบนเซไบนี่ (กลัดบัค)
ฤดูกาลนี้ กลับบัค ถือว่ามีผลงานที่ดีเกินคาด โผล่ขึ้นมาอยู่แถวหัวตาราง โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูกาลนี่มีลุ้นแชมป์เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าตอนนี้จะเหลือแค่ลุ้นพื้นที่ยุโรปแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเกินคาดอยู่ดี ซึ่งแน่นอนตัวเด่นที่ถูกพูดถึงเยอะก็คือ มาร์คัส ตูราม กับ อลาสซาน เพลอา 2 ตัวรุก แต่จริงๆ แล้ว 2 ฟลูแบ็ก ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ทั้งคู่จะเป็นแบ็กสายบุกสายลุยขึ้นมาเติมเกมรุก โดย ไลเนอร์ มีสถิติเปิดบอลจากจังหวะโอเพ่นเพลย์เข้าเป้าแบบแจ่มๆ ไปแล้ว 19 ดอกในฤดูกาลนี้ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของลีก และทำไปได้อีก 4 แอสซิสต์ ส่วน เบนเซไบนี่ ก็ซัดไปแล้ว 5 ประตูในฤดูกาลนี้
8.ฮันส์ ฮาเตบัวร์ - โรบิน โกเซ่นส์ (อตาลันต้า)
70 จาก 25 นัดเป็นสถิติที่บ้าคลั่งมากที่ อตาลันต้า ทำได้ในการลงเล่น กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามากที่สุดในลีก และมากกว่า ยูเวนตุส จ่าฝูงถึง 20 ประตู แถมลงแข่งน้อยกว่า 1 นัดด้วย! ซึ่งนอกจากจะต้องชื่นชมเกมรุกแล้ว เกมบุกริมเส้นที่ 2 คู่หูฟลูแบ็กนี้เติมเกมก็ควรได้รับเครดิตไม่แพ้กัน
โกเซ่นส์ กดไปแล้ว 7 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ในลีกฤดูกาลนี้ ส่วน ฮาเตบัวร์ แม้ว่าจะเน้นหนักไปทางเกมรับมากกว่า แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่ค่อยมีจุดบกพร่อง หนำซ้ำยังคอยเติมเกมรุกบุกขึ้นไปในยามที่จำเป็นได้อีกด้วย
7.ดานี การ์บาฆาล - แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด)
ฤดูกาลนี้ในวัย 33 ปี ต้องยอมรับว่า มาร์เซโล่ ได้เลยจุดพีคไปแล้ว นั่นจึงทำให้คลื่นลูกใหม่อย่าง แฟร์กล็องด์ เมนดี้ โผล่ขึ้นมาแย่งสัมปทานในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทัพ "ราชันชุดขาว" และก็ทำผลงานได้ดีซะด้วย เด่นทั้งเกมรับ และเกมรุก เรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบจาก มาร์เซโล่ ในช่วงพีคๆ มาเลยก็ว่าได้
เมนดี้ ในวัย 24 ปี สร้างสรรค์โอกาสสำคัญให้เพื่อนได้ถึง 14 ครั้งในฤดูกาลนี้ จากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ และเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้ถึง 2.47 ครั้งต่อเกม ซึ่งมากกว่ากองหลังทุกคนที่ลงเล่นมากกว่า 500 นาที ในศึก ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลนี้
ฝั่งซ้ายไปแล้ว ย้ายมาดูฝั่งขวากันบ้าง การ์บาฆาล เป็นเจ้าของสัมปทานตัวจริงในตำแหน่งนี้ และทำผลงานได้ดีมาหลายปีติดต่อกันแล้ว สร้างโอกาสทองให้เพื่อนเฉลี่ยเกมละ 1.64 ครั้งในฤดูกาลนี้ มากที่สุดในบรรดากองหลังทุกคน เท่านั้นไม่พอพี่แกยังทำไปแล้ว 5 แอสซิสต์ และมากที่สุดในบรรดาแนวรับ ลา ลีกา ฤดูกาลนี้อีกเหมือนกัน
6.เนลสัน เซเมโด้ - จอร์ดี้ อัลบา (บาร์เซโลน่า)
เรียกได้ว่ากลับมาเกิดใหม่อีกครั้งก็ว่าได้สำหรับ เนลสัน เซเมโด้ ที่ดูเหมือนจะหมดอนาคตกับ บาร์ซ่า ไปแล้ว ตอนที่ เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ คุมทีม เพราะแทบไม่ได้ลงเล่นเลย ถึงต่อให้ได้ลงก็ฟอร์มไม่ดีนัก แต่พอ กีเก้ เซเตียน กุนซือคนปัจจุบันเข้ามาคุม เซเมโด้ ก็ได้รับโอกาสบ่อยขึ้น พอได้ลงเล่นสม่ำเสมอ ก็มีความมั่นใจ เมื่อมั่นใจแล้วฟอร์มก็ดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ แถมเข้าแผนกุนซือคนใหม่อย่าง เซเตียน ที่เน้นเกมรุกทางริมเส้นด้วย
ส่วนทางฝั่งซ้าย ไม่ต้องสาธยายอะไรกันมากสำหรับ จอร์ดี้ อัลบา ที่ปัจจุบันจะอายุเข้าหลัก 3 ไปแล้ว แต่ก็ยังยึดตำแหน่งตัวจริงไว้ได้ และรักษามาตรฐานตัวเองไว้ได้ด้วยเช่นกัน แม้ฤดูกาลนี้จะมีการแอสซิสต์ที่น้อยลงไป เพราะเพิ่งทำได้แค่ลูกเดียว แต่ส่วนร่วมกับเกมรุกนั้นเยอะมาก อัลบา มีสถิติการผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายสำเร็จเฉลี่ยสูงมากถึง 22.22 ครั้งต่อเกม มากที่สุดในบรรดากองหลังทุกคนของ ลา ลีกา และความจริงคือมีแค่ ลิโอเนล เมสซี่, เอแด็น อาซาร์ และ โทนี่ โครส เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าเขา
5.ริคาร์โด้ เปร์เรร่า - เบน ชีเวลล์ (เลสเตอร์ ซิตี้)
"จิ้งจอกสยาม" ทุ่มเงิน 22 ล้านปอนด์ คว้าตัว ริคาร์โด้ เปร์เรร่า มาจาก เอฟซี ปอร์โต้ ตั้งแต่ปี 2018 แต่ผลงานปีที่ผ่านๆ มาถือว่ายังไม่ค่อยโดดเด่นนัก มีเล่นผิดพลาดอยู่บ่อยประปราย แต่มาซีซั่นนี้ หลังจากปรับตัวกับ พรีเมียร์ลีก ได้แล้ว เปร์เรร่า ก็งัดฟอร์มเทพออกมาโชว์ให้แฟนๆ เลสเตอร์ ได้เห็นเป็นบุญตา โดดเด่นทั้งรับ และรุก โดยเฉพาะเกมบุกที่ถือว่าสะเด็ดสะเด่า และหากนับตั้งแต่เขาโญกตูดย้ายมาเล่นในแดนผู้ดีพี่แกเลี้ยงผานคู่แข่งไปแล้ว 128 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของ พรีเมียร์ลีก หากนับในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนทางฝั่งซ้าย เบน ชีเวลล์ พัฒนาตัวเองจากเด็กเยาวชนของ เลสเตอร์ ขึ้นมาเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และตอนนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่เนื้อหอมที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปี โดยซีซั่นนี้ ชีเวลล์ ทำไปแล้ว 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ให้ เลลสเตอร์ ซิตี้
4.ฮวน กวาดราโด้ - อเล็กซ์ ซานโดร (ยูเวนตุส)
ฤดูกาลนี้ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ฮวน กวาดราโด้ ถูกถอยจากตำแหน่งตัวรุกริมเส้น ไปเล่นเป็นฟลูแบ็กฝั่งขวา แต่พี่แกก็ทำได้ดี ไม่มีปัญหา แถมยังใช้สกิลการเป็นปีกเก่าด้วยการพาบอลลากเลื้อยขึ้นหน้า รวมถึงบังบอลแย่งบอลจากกลับมาครองได้ดี เฉลี่ยเกมละ 6.17 ครั้งเลยทีเดียว
ขณะที่ อเล็กซ์ ซานโดร ทางฝั่งซ้าย คนนี้จะมีดีเรื่องการอ่านเกมและเข้าไปตัดบอลแย่งบอล โดยซีซั่นนี้พี่แกฉกบอลจากตีนคู่แข่งไปแล้ว 38 ครั้ง มากที่สุดในทัพ "ไอ้ม้าลาย" ซึ่งเอาจริงๆ ถือว่าทั้ง 2 คนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ ซาร์รี่ เลยก็ว่าได้ เพราะ กวาดราโด้ ดูเหมือนจะหมดอนาคตกับ ยูเว่ แล้วเพราะแนวรุกมีสตาร์ให้เลือกใช้มากมาย สุดท้ายจับมาเล่นแบ็กก็ดันเล่นดี ส่วน อเล็กซ์ ซานโดร ก็ฟอร์มตกไปเกือบ 2 ปี มาคราวนี้ก็เฉิดฉาย ถือว่าแจ่มแมวแวววับ
3.เบนจาแม็ง ปาวาร์ - อัลฟอนโซ่ เดวีส์ (บาเยิร์น มิวนิค)
คู่ฟลูแบ็กจากทัพ "เสือใต้" คู่นี้ถ้าเปรียบก็คงเหมือน หยินกับหยาง เพราะทางฝั่งซ้าย เดวีส์ ก็บ้าเกมรุกบุกสนั่น ส่วนอีกฝั่ง ปาวาร์ ก็เน้นรับเพลย์เซฟ คอยเขยิบเข้ามาช่วยเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งแม้จะดูจ่างกันสุดขั้ว แต่พอมันมาผสมกันแล้วลงตัวอย่างบอกไม่ถูก
ซึ่งจริงๆ แล้วจะว่าไปก็ต้องยกเครดิตความดีความชอบนี้ให้กับ ฮันซี่ ฟลิค กุนซือที่เพิ่งเข้ามารับงานคุม "เสือใต้" เมื่อปลายปี 2019 ด้วย เพราะเหมือนพี่แกเป็นคนวางระบบนี้ และปลดล็อครวมถึงให้โอกาส อัลฟอนโซ่ เดวีส์ ได้ปล่อยของ ให้อิสระในการเติมเกมรุก ส่วนเกมรับก็ให้ ปาวาร์ ขยับเข้ามาช่วย ซึ่งมันลงตัวจริงๆ
โดยนับตั้งแต่ ฟลิกซ์ เข้ามาคุมทีม เดวีส์ กระชากลากเลื้อยผ่านคู่แข่งไปแล้ว 49 ครั้ง มากที่สุดในเวที บุนเดสลีกา และชนะการครองบอล 141 ครั้ง มากที่สุดในทีมบาเยิร์น มิวนิค หากนับในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วน ปาวาร์ แม้จะโดนสั่งให้เน้นเกมรับ แต่เกมรุกถ้ามีโอกาสก็เติมไปสร้างสรรค์เกมได้ดีเช่นกัน เพราะฤดูกาลนี้ซัดไป 3 ตุงกับอีก 5 แอสซิสต์
2.อัชราฟ ฮาคิมี่ - ราฟาเอล เกร์เรโร่ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ต้องบอกว่าช่วงต้นๆ ซีซั่น 2 ฟลูแบ็กของ "เสือเหลือง" ยังไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่นัก ทว่าพอ ลูเชียง ฟาร์ฟ ปรับระบบการเล่นเป็น เซ็นเตอร์ 3 ตัว และให้อิสระฟลูแบ็กทั้ง 2 ข้างเติมเกมขึ้นสูงได้มากขึ้นเท่านั้นแหละ ฮาคิมี่ กับ เกร์เรโร่ ก็ผนึกกำลังกันปล่อยของออกมาแบบสุดๆ ชนิดที่ว่า เรอัล มาดริด คงเสียดายว่ากูปล่อย ฮาคิมี่ มาให้ยืมตัวได้ยังไง
อย่างที่บอกไปทั้งคู่เติมรุกได้สะเด่าเร้าใจสุดๆ ผุดขึ้นไปยิงประตูและแอสซิสต์ได้บ่อยๆ อย่างเกมที่ชนะ โวล์ฟสบวร์ก ไป 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็แบ่งกันยิงคนละลูก ทำให้ตอนนี้มีสถิติที่เเหลือร้ายมาก โดย ฮาคิมี่ ซัดไปแล้ว 3 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ ส่วน เกร์เรโร่ จัดไป 8 ตุงกับ 2 แอสซิสต์ โผล่เข้ามาในลิสต์อันดับที่ 2 ของยอดฟลูแบ็ก
1.เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ - แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
เชื่อว่าแฟนบอลเกิน 95% คงเดาไม่ผิดว่าอันดับ 1 คือ 2 คู่หูคู่เทพจากทัพ "หงส์แดง" ซึ่งมันก็คงไม่ต้องพูดหรืออธิบายความเก่งกาจหรือจุดเด่นอะไรกันให้เสียเวลา เพราะเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว ฉะนั้นเราไปดูสถิติกันดีกว่า เพื่อยืนยันว่า 2 คนนี้คือฟลูแบ็กที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
ความสุดยอดของทั้งคู่เริ่มก่อตัวเด่นชัดตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว โดยทั้งคู่ร่วมกันจัดไป 23 แอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก และอีก 5 ครั้งใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้เป็นสมัยที่ 6
ส่วนซีซั่นนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กดไปแล้ว 12 แอสซิสต์ โรเบิร์ตสัน จัดไป 7 รวมกัน 19 แอสซิสต์ และด้วยระบบของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นจุดสูญกลางในการขึ้นเกมรุกแต่ละทีของ "หงส์แดง" เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าสำคัญ และฟอร์มคงเส้นคงมากๆ สมกับเป็นที่ 1 จริงๆ
และนี่คือ 10 คู่หูฟลูแบ็กสุดเจ๋งแห่งยุคนี้ แล้วคุณหละชอบคู่ไหนบ้าง?
ชิน ชินพัฒน์
