เล่าเรื่องราว! เอล กุน ตอนยังเด็กเคยเกือบเสร็จ เสือใต้

2 มิถุนายนที่ผ่านมา คือวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 32 ขวบ ของ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ดาวยิงตีนคมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่กับทัพ "เรือใบ" มาจะ 10 ปีแล้ว ผลิตสกอร์ไม่หยุดหย่อน เป็นตัวหลักที่ทีมแทบจะขาดไม่ได้

สมัยอยู่กับ แอต.มาดริด ก็ยิงกระจายตาข่ายขาดเช่นกัน เรียกได้ว่าเขาคนนี้แทบไม่เคยมีช่วงเวลาที่ฟอร์มตกเลยดีกว่า ถือเป็นหนึ่งในดาวยิงชั้นยอดที่รักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีมากๆ แต่หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบว่าก่อนที่ "ตราหมี" จะดึง อเกวโร่ เข้ามาเสริมคมในปี 2006 เจ้าตัวเคยเกือบได้ย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค มาแล้ว แต่สุดท้ายดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้น ว่าแล้ววันนี้เราไปย้อนดูเรื่องราวตอนที่ อเกวโร่ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนเกือบเสร็จ "เสือใต้" กันหน่อยดีกว่าว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ย้อนกลับไปในปี 2003 "เอล กุน" ในวัย 15 ปี ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร อินดิเพนเดนเต้ ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศอาร์เจนติน่า และได้ลงเล่นเปิดซิงตั้งแต่อายุแค่ 15 ปี กับอีก 35 วันเท่านั้น ซึ่งถือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นลีกสูงสุดแดนฟ้า-ขาวด้วย โดยเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสลงเล่นบ้าง ถูกจับไปเล่นทีมสำรองบ้าง จนกระทั่งกระดูกเริ่มแข็ง ฤดูกาล 2005/06 ก็เป็นฤดูกาลที่เขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ แถมทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นกองหน้าดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนนึงของอาร์เจนติน่า และตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมดังในยุโรป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บาเยิร์น มิวนิค

เล่าเรื่องราว! เอล กุน ตอนยังเด็กเคยเกือบเสร็จ เสือใต้

ว่ากันว่า "เสือใต้" เป็นยักษ์ใหญ่ทีมแรกๆ เลยที่เห็นแววของ กุน อเกวโร่ และได้ติดต่อสอบถามราคาค่าตัวไปยัง อินดิเพนเดนเต้ ก่อนใครเพื่อน แต่ก็ต้องผงะ ถอนสมอกลับมาคิดอีกหลายตลบ หลังโดนแจ้งว่าสินสอดในการสู่ขอตัว "เอล กุน" ไปร่วมทีมนั้นอยู่ที่ 12 ล้านปอนด์ ซึ่งในเวลานั้นถือว่าแพงมากสำหรับเด็กดาวรุ่งวัย 17 ปี และ คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ที่ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค ในเวลานั้นก็คิดเช่นเดียวกัน โดยเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า "กุน อเกวโร่ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากๆ เราต้องการคว้าตัวเขามาร่วมทีมให้ได้ก่อนพวกทีมจาก อิตาลี หรือ สเปน แต่ก็นะ ค่าตัวของเขามันแพงเกินไปจริงๆ" แม้ ซีอีโอ อย่าง "รุมเม่" จะเหมือนยอมตัดใจไม่เอา ไม่ต่อรองราคา ไม่สนใจ กองหน้าร่างเล็กรายนี้แล้ว ทว่า อูลี่ เฮอเนส ผู้จัดการทั่วไปของ "เสือใต้" ในตอนนั้น ไม่ยอมแพ้ ยังอยากได้ตัว "เอล กุน" มาปลุกปั้น ถึงขนาดลงทุนเดินทางข้ามทวีปไปนั่งในสนามเพื่อเช็คฟอร์มให้เห็นกับตา แต่ทว่าดูเหมือนจะทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะหลังบินกลับมาเยอรมัน เฮอเนส ก็ต่อสายตรงหา อินดิเพนเดนเต้ พร้อมขอต่อจาก 12 ล้านปอนด์ เหลือ 4 ล้านปอนด์ ขาดตัว! .. .. ซึ่งแน่นอนว่าโดนปฏิเสธทันควัน [caption id="attachment_116817" align="aligncenter" width="450"]

เฮอเนส (ซ้าย) และ รุมเมนิกเก้ (ขวา)[/caption] โดยในปี 2011 หรือ 5 ปีต่อมา เฮอเนส ได้ยอมรับว่าคิดผิดมหันต์ที่ไม่ยอมทุ่มซื้อ อเกวโร่ แต่ก็ยืนยันว่าฟอร์มวันนั้นที่บินไปดู ไอหมอนี่เล่นไม่ได้เรื่องจริงๆ โดยได้เปิดใจกับ "บิลด์" สื่อดังเมืองเบียร์ถึงเรื่องนี้ว่า "ตอนผมไปดูเขาลงเล่น ก่อนเกมเพื่อนร่วมทีมเขาออกมาวอร์มอบอุ่นร่างกายกันหมด แต่ อเกวโร่ กับยืนพิงรั้วชิวๆ สบายใจเฉิบ และสิ่งเดียวที่เขาทำตลอดทั้งเกมนั้นคือการยิงประตูชัยให้ทีมชนะ ด้วยลูกจุดโทษ" อย่างไรก็ตาม แม้ฟอร์มที่บินไปส่องจะไม่น่าประทับใจ แถมค่าตัว 4 ล้านปอนด์ที่ยื่นไป ก็ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย แต่ เฮอเนส ก็ยังติดใจ ดูออกว่าลึกๆ ไอหมอนี่มันมีของ จึงตัดสินใจส่ง เฟลิกซ์ มากัธ กุนซือชุดใหญ่ในเวลานั้น ไปเช็คฟอร์มอีกสักทีเพื่อความชัวร์ เผื่อตัวเองจะตาถั่วดูไม่ถี่ถ้วนดี [caption id="attachment_116818" align="aligncenter" width="450"]

มากัธ[/caption] แต่หลังจากที่ มากัธ ลงทุนบินไปอเมริกาใต้ดูฟอร์ม อเกวโร่ ได้แค่เกมเดียว ก็ตัดสินใจบินกลับมาทันทีด้วยอารมณ์หงุดหงิด พร้อมตรงดิ่งไปหา เฮอเนส และพูดเสียงดังฟังชัดว่า "อย่าทำลายวันหยุดกูแบบนี้อีกนะ แม่งเสียเวลามากกับการบินไปดูนักเตะที่โคตรขี้เกียจ มันไม่คิดจะทำอะไรเลย นอกจากยืนอยู่เฉยๆ ตลอดทั้งเกม" ซีอีโอ ตัดใจแต่แรกเพราะแพงไป ส่วนผู้จัดการทั่วไป เช็คฟอร์มแล้วก็ไม่เวิร์ค ต่อรองราคาก็ไม่ได้ ขณะที่กุนซือนี่แล้วใหญ่ด่าเละเทะว่าเป็นไอเด็กขี้เกียจ ไม่เอาเข้าทีมแน่ๆ ฉะนั้น บาเยิร์น มิวนิค จึงถอนสมอเลิกล้มความตั้งใจที่จะคว้าตัว เซร์คิโอ อเกวโร่ เข้ามาร่วมทีม [caption id="attachment_116821" align="aligncenter" width="450"]

วันเปิดตัวกับ แอต.มาดริด[/caption] สุดท้ายจบฤดูกาล 2005/06 กุน ลงเล่นไป 36 นัด ซัด 18 ประตู ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ มากกว่าที่เสนอขายให้ "เสือใต้" ด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย 5 ฤดูกาลกับ "ตราหมี" กดไป 101 ประตู จาก 234 นัด ก่อนจะย้ายไปกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ดังและประสบความสำเร็จมากมายก่ายกองกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ลีกคัพ 5 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย ยิงกระจาย 254 ประตู จาก 368 นัด