logo-heading

ถ้าพูดถึงชายที่ชื่อ ดีเอโก้ คอสต้า แน่นอนว่าภาพจำสำหรับหลายๆ คนเขาคือ "สัตว์ร้าย" ที่เต็มเปี่ยมด้วยไป พฤติกรรมความ ถ่อย ดิบ เถื่อน แบบฟูลออปชั่น เรื่องลูกไม้สกปรกๆ เล่นตุกติกตบตา เล่นนอกเกม นี่งานถนัดของพี่แกเลย

แต่ถ้าเกิดคุณรู้จัก ดีเอโก้ คอสต้า จริงๆ คุณจะรู้ได้เลยว่ายามอยู่นอกสนามพี่แกไม่ได้มีพิษภัยอะไรเลย เป็นคนหน้าโหดก็จริง แต่อยู่ในโหดคิตตี้ เพื่อนร่วมทีมบางคนยังบอกเลยว่า "ไอ้คอสต้าเนี่ยจริงๆ มันติ๋มเหมือนลูกหมาเลยนะ" นี่คือเรื่องจริง! และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหลงรักผู้ชายคนนี้นอกจากเรื่องตลกโปกฮาแล้ว ดีเอโก้ คอสต้า ยังมีความหล่ออยู่ในจิตใจเพียบเลย ยกตัวอย่างเช่น...

สร้างโรงเรียนให้เด็กในบราซิล

เห็นหน้าเถื่อนๆ ลุค bad bad แบบนี้แต่หารู้ไม่ว่าจิตใจของ ดีเอโก้ คอสต้า ไม่ได้โหดเหมือนหน้าตาเลยนะ แถมยังจัดว่าเป็นนักเตะที่ใจบุญสุดๆ คนนึงเลยเหมือนกัน ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อนว่ากันว่า ดีเอโก้ คอสต้า เป็นตัวตั้งตัวตีเลยในการสร้างโรงเรียนในชุมชนเล็กๆ ที่ เมืองลาการ์โต้ ในบ้านเกิดที่บราซิล เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่มีฐานะยากจนให้ได้รับโอกาสเรียนหนังสือ รวมไปถึงเปิดสอนทักษะด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเด็กๆ เหล่านั้นฟรีด้วย ซึ่งตัวของ คอสต้า เองตอนเด็กๆ ชีวิตก็ไม่ได้ดีเลิศเลออะไรเลย พี่แกจึงมองว่าปัญหาความยากจนมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนเมือง ลาการ์โต้ เพราะมันส่งผลต่อการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการของเด็ก สำหรับ ดีเอโก้ คอสต้า พี่แกเป็นคนรักเด็ก ไม่ว่าอะไรที่สามารถช่วยให้กลุ่มเด็กยากไร้มีชีวิตที่ดีขึ้นพี่แกจะยื่นมือเข้าไปช่วยทันทีแบบไม่มีรีรอแต่อย่างใด

เพื่อ ลาการ์โต้

ความพยายามในการช่วยเหลือเด็กๆ ในบ้านเกิดที่ เมืองลาการ์โต้ ให้มีชีวิตที่ดี มีการศึกษาที่ดี กินดีอยู่ดี และเติบโตมาเป็นคนดี นี่คือความปรารถนาของ ดีเอโก้ คอสต้า แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วความฝันที่พี่แกวาดภาพเอาไว้มันยิ่งใหญ่กว่านั้น ย้อนกลับไปสมัยที่ ดีเอโก้ คอสต้า มีปัญหากับ อันโตนิโอ คอนเต้ คุณจำได้ไหม ? ที่ คอสต้า หนีไปกบดานอยู่บ้านเกิดใน บราซิล และไม่ยอมกลับมารายงานตัวกับ เชลซี จนกว่าจะถึงเวลาย้ายทีม แน่นอนว่าช่วงนั้นเหล่าบรรดาสื่อต่างๆ เอาแต่เล่นข่าวนี้ บางสำนักนี่ถึงขั้นส่งคนไปตามติดเลยว่าไอ้เจ้า คอสต้า มันทำอะไรอยู่ และใช้ชีวิตอย่างไรบ้างที่นั่น  ภาพที่คุณเห็นตามสื่ออาจจะเป็นภาพที่ ดีเอโก้ คอสต้า ปล่อยเนื้อปล่อยตัวออกไปสังสรรค์เฮฮาและทำกิจกรรมร่วมกับผองเพื่อน แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ พี่แกเองก็ใช้ช่วงเวลานั้นทำตามความฝันเหมือนกัน และไอ้ความฝันที่พูดถึงนั้นก็คือ การพัฒนายกระดับ เมืองลาการ์โต้ ให้สูงและน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดย ชอซิเลด คุณแม่ของ ดีเอโก้ คอสต้า เธอเล่าให้ฟังว่า ลูกชายของเธอนั้นได้บริจาคเงินมากมายให้กับหลายมูลนิธิเพื่อพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง แต่ที่ไม่เกิดเป็นข่าวเพราะ คอสต้า ไม่อยากทำให้มันดูเป็นเรื่องใหญ่ ขอบอกเลยว่าซีนนี้ได้ความหล่อไปเต็มๆ  >>> เรื่องราวดีๆ! คอสต้า ฉลองยิงประตูได้ ด้วยการชูเสื้อแข้งทีมหญิงที่ป่วยเนื้องอกในสมอง

จบแค่ในเกม

อีกหนึ่งความหล่อของ ดีเอโก้ คอสต้า ที่นักฟุตบอลทุกคนควรทำตามนั่นก็คือ "การทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในเกมๆ นั้น" ย้อนกลับไปตอนปี 2013 ในศึก โกปา เดล เรย์ ที่ แอตฯ มาดริด เจอกับ เรอัล เบติส ทาง ดีเอโก้ คอสต้า พี่แกสามารถใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ดจากการทำผิดพลาดของ อันโตนิโอ อมาย่า มิหนำซ้ำพี่แกยังไปเยาะเย้ยใส่ในอุโมงค์ตอนหลังจบเกมด้วยว่า "ขอบคุณนะสำหรับของขวัญ" ก่อนจะมีเหตุชุลมุนตะลุมบอนกันเกิดขึ้น พออีก 2 สัปดาห์ต่อมา ดีเอโก้ คอสต้า ได้โอกาสเผชิญหน้ากับ เรอัล เบติส อีกครั้งในเกมลีก และเกมนั้นพี่แกตกเป็นเป้าโจมตีโดนหมายหัวจากคู่แข่งฝั่งตรงข้ามทุกคน คอสต้า โดนทั้งอัดทั้งเตะ โดนสับศอก และที่หนักสุดคือโดนโจทย์เก่าอย่าง อมาย่า ถ่มน้ำลายใส่ด้วย แต่ที่น่าแปลกใจคือเกมนั้น ดีเอโก้ คอสต้า ไม่ได้มีการตอบโต้ในแบบฉบับของพี่แกเลย นับเป็นผิดแปลกไปมากๆ แต่จากนั้นพี่แกก็ได้พ่นถ้อยคำเด็ดๆ ฟังแล้วชวนสตั๊นออกมาว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามก็ปล่อยให้มันอยู่ในสนาม ผมไม่เอามันกลับบ้านหรอก" ว่ากันว่า ดีเอโก้ คอสต้า ใช้ข้อความนี้เป็นเครื่องเตือนใจและคอยขจัดอารมณ์อันรุนแรงที่คล้ายกับหมาบ้าออกไป อย่างน้อยมันก็สะท้อนให้เห็นเรื่องความเป็นมืออาชีพ ไม่เจ็บแค้นอาฆาต ให้มันจบลงในสนามไปแค่นั้น

ออกงานสังคมพบปะแฟนบอล

ย้อนกลับไปสมัยยังค้าแข้งกับ เชลซี หารู้ไม่ว่า ดีเอโก้ คอสต้า เป็นหนึ่งในผู้เล่นของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมการกุศล งานสังคม และพบปะกับแฟนบอลมากที่สุด ไม่ว่ามูลนิธิ "เชลซี ฟาวเดชั่น" จะมีการรณรงค์หรือมแคมเปญใดๆ ผุดขึ้นมาพื้นที่หน้างานตรงนั้นจะมี ดีเอโก้ คอสต้า ปรากฏกายอยู่เสมอ เขาเป็นนักเตะที่มีอารมณ์ขัน ตลกโปกฮา และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง ชอบช่วยเหลือคน รักเด็ก นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไม ดีเอโก้ คอสต้า ถึงเป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมทุกคนรวมถึงแฟนบอล ทั้งที่จริงๆ พี่แกก็อยู่ค้าแข้งกับ เชลซี แค่ 3 ปีเท่านั้น

เพื่อ ชาเปโคเอนเซ่

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2016 เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นในวงการฟุตบอลเมื่อสโมสร ชาเปโคเอนเซ่ ประสบเหตุเครื่องบินตกในขณะที่กำลังเดินทางไปแข่งฟุตบอล โคปา ซูดาเมริกาน่า รอชิงชนะเลิศที่ โคลอมเบีย และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 71 ราย และเหลือรอดอยู่ 6 คนด้วยกัน นับเป็นเหตุการณ์ที่ชวนสลดใจสุดๆ ต่อผู้คนทั้งโลก และในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพนักฟุตบอล ดีเอโก้ คอสต้า เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ โดยพี่แกได้ประกาศตั้งประมูลเสื้อชุดแข่งของตัวเองพร้อมแนบลายเซ็น และเงินจำนวนทั้งหมดที่ได้มาก็จะนำไปบริจาคช่วยเหลือสโมสร ชาเปโคเอนเซ่

เพื่อ ตอร์เรซิญ่า

โมเมนต์ดีๆ เรื่องล่าสุดที่ ดีเอโก้ คอสต้า ได้สร้างเอาไว้นั้นเกิดขึ้นในเกม ลา ลีกา สเปน นัดล่าสุดที่ แอตเลติโก มาดริด บุกไปเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 1-1 โดยในจังหวะที่พี่แกยิงประตูตีเสมอให้กับต้นสังกัด "ตราหมี" คอสต้า วิ่งไปที่ข้างสนามพร้อมหยิบเสื้อของ ตอร์เรซิญ่า นักเตะทีมหญิงของ แอตฯ มาดริด มาชูในสนาม เพื่อเป็นการให้กำลังใจในช่วงที่เธอกำลังต่อสู้กับเนื้องอกในสมอง พอตัวของ ตอร์เรซิญ่า ได้เห็นสิ่งที่ ดีเอโก้ คอสต้า ทำเพื่อเธอก็เลยโพสต์ข้อความขอบคุณ คอสต้า ผ่านทางโลกโซดชี่ยลโดยระบุว่า “ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย คุณเป็นคนที่น่าอัศจรรย์ !! ขอบคุณจากใจ” 

HaMu Dos Santos

ส่วนหนึ่งของข้อมูล : legit ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline