logo-heading

สื่อต่างประเทศเปิดเผยรายชื่อเหล่า 5 แข้ง พรีเมียร์ลีก ที่เคยผ่านประสบการณ์การหนีตายหรือตกชั้น ก่อนได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

Robertson did not have an ideal introduction to English football but is now a Premier League champion. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน นับเป็นพ่อค้าแข้งที่มีเส้นทางค้าแข้งสุดมหัศจรรย์จนน่าอิจฉาจริงๆ เพราะในระยะเวลาไม่ถึง 1 ทศวรรษพี่แกสามารถไต่จากดินสู่ดวงดาวได้ ย้อนกลับภาพเมื่อปี 2012 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยังเป็นนักเตะของ ควีนส์ปาร์ค ทีมในลีก ดิวิชั่น 3 ของ สกอตแลนด์ อยู่เลย แต่จากนั้นก็เริ่มยกระดับตัวเองขึ้นทีละนิดทีละน้อย เขาได้โอกาสที่ดีขึ้นกับ ดันดี ยูไนเต็ด บนสังเวียนลีกสูงสุด สกอตติช พรีเมียร์ลีก จากนั้นอีก 1 ปีโชคชะตาก็พา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เดินทางมาใช้ชีวิตในอังกฤษ โดยปักหลักอยู่กับ ฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2014 แต่วงจรชีวิตก็ได้แต่วนไปวนมา ไม่หนีตกชั้นใน พรีเมียร์ลีก ก็ร่วงไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ แค่นั้น แต่ด้วยความทุ่มเท, ทักษะและพรสวรรค์ส่วนตัวที่โดดเด่นมันเลยทำให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในโปรเจ็กต์ล่าความสำเร็จของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ ลิเวอร์พูล และตอนนี้เขาคือแบ็กซ้ายที่ดีสุดของอังกฤษ มีจุดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์เกม ได้แชมป์ สโมสรโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และตอนนี้ก็มีชื่อจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์ ลิเวอร์พูล แล้วกับการแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรก

ไมเคิ่ล คาร์ริค

Before winning multiple Premier League titles with Manchester United, Carrick experienced relegation with West Ham ไมเคิ่ล คาร์ริค ชื่อของเขาไดรับการจารึกไปแล้วว่าเป็นหนึ่งในตำนานดังของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พี่แกอยู่ค้าแข้งนานตลอด 12 ซีซั่น ลงเล่นไปทั้งหมด 464 เกม ยิงได้ 24 ประตู คว้าแชมป์มาหมดทุกถ้วยแล้วทั้ง พรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รวมไปถึง สโมสรโลก แต่หารู้ไม่ว่ากว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมาเหมือนกัน ย้อนเวลากลับไปช่วงต้นปี 2000 ไมเคิ่ล คาร์ริค สมัยเป็นเด็กปั้นของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พี่แกได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1999 และจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมเหมือนๆ ในเจเนเรชั่นเดียวกันกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ โจ โคล แต่พอถึงฤดูกาล 2000-03 สถานการณ์ของพลพรรค "เดอะ แฮมเมอร์ส" ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะพวกเขาต้องโดนถีบตกชั้นไปด้วยผลงานอันย่ำแย่เล่นทำเอาเพื่อนคนอื่นๆ ต่างเช็คเอาท์ย้ายออกไปกันเป็นแถว แต่ ไมเคิ่ล คาร์ริค ไม่ได้ย้ายไปไหนก็เลยอยู่ช่วยทีมฝ่าฟันต่อในเวที ดิวิชั่น 1 และถึงแม้สุดท้ายจะคว้าโควต้าเพลย์ออฟมาได้ในปีนั้น แต่สุดท้าย เวสต์แฮม เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก็เลยโดนปฏิเสธการกลับไปโลดแล่นบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง แต่ยังดีที่ตอนนั้น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นคนเสนอตัวมาพรากตัวพี่แกไปพอดี

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม

Wijnaldum was one of few bright sparks for Newcastle as they went down from the Premier League in 2016. จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มีชีวิตที่ดีมากๆ สมัยอยู่ในบ้านเกิดที่ ฮอลแลนด์ ทั้งตอนอยู่กับ เฟเยนูร์ด และ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เพราะมีสถานะเป็นนักเตะตัวจริงและก็มีโปรไฟล์ที่แจ่มแมวเฟี้ยวเงาะด้วย เป็นกองกลางที่ยิงได้เยอะ และก็มีแชมป์ติดไม้ติดมือมากมาย ตลอดจนการย้ายมาปักหลักในรั้ว แอนฟิลด์ เมื่อปี 2016 จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการทวงคืนความยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เหมือนกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน นั่นแหละ ตอนนี้เขาคือหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ พรีเมียร์ลีก มีผลงานคงเส้นคงวา และตอนนี้ก็มีแชมป์ถ้วยใหญ่ๆ อย่าง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประดับไว้ในโปรไฟล์แล้วด้วย ถ้าจะถามถึงช่วงเวลาที่ตกอับสุดๆ ของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ก็คงเป็นช่วงที่ฤดูกาล 2015-16 สมัยย้ายมาใช้ชีวิตในอังกฤษใหม่ๆ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่จริงๆ ส่วนตัวผลงานของพี่จัดว่าดูดีสุดๆ เพราะสถานะของพี่แกเหมือนเป็น "เดอะ แบก" ของทีม เพราะ ไวจ์นัลดุม เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมที่ 11 ประตูในปีนั้นทั้งที่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่สุดท้ายเขากับกองหน้าอย่าง อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช ไม่สามารถแบกทีมได้ไหว นิวคาสเซิ่ล ก็เลยต้องตกชั้นไป แต่เส้นทางชีวิตของ ไวจ์นัลดุม ดีกว่าคนอื่นๆ ในลิสต์นิดนึงตรงที่ไม่ต้องลงไปผจญภัยในลีกล่างๆ เพราะตอนนั้น ลิเวอร์พูล ยื่นมือเข้ามาพอดี >>> รวมสุดยอดสถิติ ! ของ ลิเวอร์พูล ประจำซีซั่น 2019-20

มาร์กอส อลอนโซ่

Alsonso เกิดที่ กรุงมาดริด และได้เป็นหนึ่งของอคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ ต่อมาพี่แกเลยตัดสินใจย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดนกับที่ อังกฤษ กับทีมเล็กๆ อย่าง โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่ต้องใช้คำว่าทีมเล็กๆ เพราะว่าช่วงนั้นสถานะของพวกเขาเป็นแค่ทีมหนีตกชั้นเท่านั้น และตัวของ อลอนโซ่ เองสถานะของพี่แกเองก็เป็นแค่ส่วนเกินด้วย เพราะปีนึงได้โอกาสลงเล่นไม่ถึง 10 เกม กว่าจะมาได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองจริงๆ ก็ตอนที่ โบลตัน ตกชั้นไป เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แล้ว ถ้าจะถามถึงช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของ มาร์กอส อลอนโซ่ แน่นอนทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันเกิดขึ้นที่ เชลซี ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ พี่แกโดดเด่นมากในยุคนั้นเรื่องการเติมเกมบุกที่มันส์สะใจ แถมยังยิงประตูได้มากมายอีกด้วย ไม่ว่าจะมาจากจังหวะโอเพ่นเพลย์หรือลูกฟรีคิกก็มีให้เห็นบ่อยๆ  ปัจจุบันในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด พี่แกอาจจะได้โอกาสลงเล่นเรื่อยๆ แต่มันเห็นได้ชัดว่าฟอร์มการเล่นมันไม่ได้ดีเหมือน ณ แต่ก่อนจนมีข่าวว่าอาจจะโดนโละทิ้งเหมือนกัน

เจมส์ มิลเนอร์

After suffering relegation heartbreak with Leeds, Milner has gone on to win multiple titles including the Premier League. เจมส์ มิลเนอร์ เป็นนักเตะที่ใช้ชีวิตโลดแล่นในสังเวียนลูกหนังอังกฤษมาอย่างยาวนานถึง 20 ซีซั่น แน่นอนว่าพี่ท่านต้องผ่านมาประสบการณ์มาแล้วอย่างโชกโชนในทุกรูปแบบทั้งช่วงเวลาที่แย่ที่สุดและดีที่สุด ถ้าจะถามถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดแน่นอนว่าคงเป็นตอนนี้กับ ลิเวอร์พูล นั่นแหละ เพราะปัจจุบันนี่คือสโมสรที่ดีที่สุดในอังกฤษ เป็นทีมที่เกมรุกน่ากลัวเบอร์ต้นๆ ของโลก ส่วนเรื่องของความสำเร็จไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้สามารถเอาไปคุยโม้โอ้อวดกับชาวบ้านชาวช่องได้แล้ว ปีก่อนได้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ได้ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และถ้าย้อนกลับไปตอนค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พี่แกก็ประสบความสำเร็จมากๆ เช่นกัน ถ้าจะถามถึงประสบการณ์การตกชั้นหรือหนีตกชั้น เจมส์ มิลเนอร์ ก็เคยเจอมาเหมือนๆ กัน แต่หากจะพูดถึงช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดก็คงเป็นสมัยแรกเริ่มตอนขึ้นชั้นจากอคาเดมี่มาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ใหม่ๆ เพราะปีแรกที่ เจมส์ มิลเนอร์ ได้เป็นคนสำคัญของทีมอย่างเต็มตัวปีนั้นโชคชะตาดันขีดเขียนให้พวกเขาตกชั้นไปเล่นในลีกรองซะงั้น ก่อนที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเอื้อมมือเข้ามาชวนไปอยู่ด้วย

HaMu Dos Santos

ที่มา : sportskeeda ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline