logo-heading

16 ปีที่รอคอยในที่สุดสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็สามารถตีตั๋วเลื่อนชั้นกลับมาผจญภัยบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อีกครั้ง

วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ "สิ่งที่คุณสามารถคาดหวังจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ในการสู้ศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2020-21" จะมีอะไรบ้างไปชมกัน (อ้างอิงข้อมูลจากสื่อต่างประเทศ)

อาจารย์กับลูกศิษย์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้ความเคารพในตัว มาร์เซโล่ บิเอลซ่า อยู่เสมอ พร้อมกับยกย่องว่าเป็นกุนซือที่เก่งที่สุดในโลก จะเรียกว่าเป็น 'ไอดอล' ด้วยก็ได้นะ เพราะปรัชญาและแนวทางการทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เราเห็นกันมาตั้งแต่ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนใหญ่เฮียแกก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้นี้นี่แหละ ปี 2006 ช่วงที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รีไทร์จากเส้นทางค้าแข้งเขาได้เดินทางไกลกว่า 5,000 ไมล์ไปหา มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ที่ อาร์เจนติน่า ซึ่งตอนนั้นกำลังว่างงานพอดีหลังแยกทางกับทัพ “ฟ้า-ขาว” ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องฟุตบอลนี่แหละ "มีผู้จัดการทีมเพียงไม่กี่คนที่มีแนวทางการทำทีมเหมือนกับ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า พวกเขามีเกมรุกที่ดุดัน เคลื่อนที่กันได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ ผมคิดว่าเขาคือผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาก" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กล่าว ดังนั้นในฤดูกาล 2020-21 การพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด จะถือเป็นไฮไลท์สำคัญ เพราะนี่มันเหมือนการประมือประลองยุทธ์กันระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์นั่นเอง

เอล โลโค่

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้รับฉายาว่า "El Loco" เอาง่ายๆ ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ "คนบ้า" นี่แหละ แต่คำว่าคนบ้าในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าแกเป็นคนป่าเถื่อน เดาอารมณ์ไม่ถูก หรือเอะอะอาละวาดแต่อย่างใด แต่มันหมายถึงการทำงานอย่างจริงจัง มุ่งมั่น และใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดต่างหาก ยกตัวอย่างสมัยคุม นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ เขาขับรถ Fiat 147 คู่ใจตระเวนไปทั่ว อาร์เจนตอน่า ระยะทางกว่า 5,000 ไมล์ เพื่อติดตามดูฟอร์มการเล่นของแข้งดาวรุ่งกว่า 3,000 คนเพื่อคัดตัวมาร่วมทีมซึ่งหนึ่งในคนที่ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เจอและปั้นขึ้นมาก็คือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คำถามก็คือตอนนั้นทำไมไม่นั่งเครื่องบิน ? คำตอบคือ เพราะกลัวเครื่องบิน ความติสและความบ้าของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ยังมีให้เห็นอีกมาก อย่างตอนคุม ลาซิโอ้ เมื่อปี 2016 จู่ๆ เฮียแกก็ตัดสินใจลาออกทั้งที่เพิ่งแต่งตั้งได้ 2 วัน โดยให้เหตุผลว่าสโมสรไม่สามารถหาตัวนักเตะที่เขาต้องการได้ แต่ที่บ้าบิ่นสุดๆ น่าจะเป็นช่วงหลังจบเกม โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ แพ้ ซาน ลอเรนโซ่ 0-6 มีแฟนบอลจำนวนมากมารวมตัวประท้วงที่หน้าบ้านของแก แต่สุดท้าย มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เดินออกมาพร้อมขู่กลุ่มแฟนบอลด้วยระเบิดมือ ส่วนคดีที่อื้อฉาวที่สุดของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า คงเป็นเคสที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่ส่งทีมงานไปสอดแนมการฝึกซ้อมของ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ก่อนจะลือลั่นเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตอนนั้นเราจะรู้จักกันชื่อคดี Spygate จริงอยู่ที่มันมีเสียงวิจารณ์ออกมามากมาย แต่สุดท้าย มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้จัดงานแถลงข่าวเองและเรียกเชิญสื่อต่างๆ มาแบบพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อโชว์วิดีโอพรีเซ้นเทชั่นซึ่งแสดงรายละเอียดต่างๆ ของทุกทีม แบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุม พร้อมกับให้เหตุผลว่า "ที่ผมต้องทำแบบนี้ก็มาการเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดเพื่อทีม ใครๆ เขาก็ทำกัน" จากผู้ร้ายในตอนนั้นจู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนที่ได้รับการยกย่องไปเลยในทันที และในฤดูกาลหน้าเราจะได้เห็นความเป็นคนบ้าของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า อย่างแน่นอนบนลีกสูงสุดของอังกฤษ แต่จะมาไม้ไหนหรือจะสร้างคดีอะไรขึ้นมาอีกก็คงต้องรอลุ้นกัน

สงครามกุหลาบ

16 ปีที่หายหน้าหายตาไปตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบันเรากำลังจะได้เห็นอีกหนึ่งศึกใหญ่ "สงครามกุหลาบ" ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับเป็นหนึ่งในศึก ดาร์บี้ แมตช์ ที่ดุเดือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ หลักฐานชิ้นสุดท้ายที่เป็นเครื่องยืนยันความบาดหมางของ 2 ทีมนี้ก็คือปี 2004 ที่ ลีดส์ ตกชั้น และย้ายทีมโดยตรงมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นทำเอากลุ่มสาวก "ยูงทอง" หัวร้อน ฟิวส์ขาด ปรี๊ดแตกสุดๆ ทั้งด่าพ่อล่อแม่มาครบ พร้อมกับสาปส่งไปว่าเป็น "ไอ้คนทรยศ" แค่นึกก็รู้สึกมันส์ขึ้นมาแล้วที่จะได้เห็น ลีดส์ ยูไนเต็ด ปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และส่วนตัวของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ที่ผ่านมาแกยังไม่เคยแพ้ให้ "ปีศาจแดง" เลยสักครั้ง โดยเจอกันมาก่อนหน้านี้ 2 นัดใน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2012 ตอนนั้น มาร์เซโล่ บิเอลซ่า คุม แอธเลติก บิลเบา และเก็บชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ทั้งเหย้าและเยือน (3-2, 2-0)

>>> Where are they now : ขุนพล ลีดส์ ยูไนเต็ด ยุครุ่งๆ ช่วงปี 2000

แท็คติก, แท็คติก, แท็คติก และ ความฟิต

"มันเข้มงวดมากเหมือนฝึกทหารเลย คุณจำเป็นต้องมีพละกำลังและความฟิตที่ดีเยี่ยม แต่ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราเองหรอก" มาเทอุสซ์ คลิช มิดฟิลด์ตัวสำคัญของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้พูดถึงระบบและสไตล์การทำทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ความหมายที่เขาสื่อก็คือปัจจัยสำคัญที่เน้นเรื่องความขยัน, ความแข็งแกร่งทางกายภาพ และการเพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง เท่ากับว่านักเตะคนทุกคนต้องเต็มใจวิ่งสู้ฟัดเพื่อทีม จะเหมือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ไหมต้องรอรับชมด้วยตาของตัวเอง

บิเอลซ่า บอล

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นกุนซือที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วในเรื่องของแท็คติก ตามรายงานระบุว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด ของเขามีระบบแผนการเล่นที่ไม่ค่อยเหมือนใครกับการใช้ 3-3-1-3 ซึ่งบางทีมันก็จะทำงานคล้ายๆ กับระบบ 4-1-4-1 ขึ้นอยู่กับว่า คัลวิน ฟิลิปส์ หัวใจสำคัญในแดนกลางจะเดินเกมยังไง โดยปกติพี่แกจะยืนห้อยอยู่หน้าแผงหลังและคอยเซ็ตเกมให้เพื่อนๆ ด้วยทักษะการผ่านบอลที่แม่นยำในทุกๆ ระยะ คอยสนับสนุน ปาโบล เอร์นานเดซ ตัวปั้นเกมที่ยืนเป็นตัวฟรีอยู่หลังแผงกองหน้า ส่วนในตำแหน่งกองหน้าไม่ได้มีจุดยืนตายตัว บางทีเป็นหน้า 3 ตัวหรืออาจจะเป็นตัวเดียวก็ได้ อย่าง แพทริค แบมฟอร์ด เล่นได้โดดเด่นมากๆ กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เขาเป็นกองหน้าตัวเป้าก็จริง แต่ก็ถูกสั่งให้ฟรีสไตล์บ้าง อย่างเช่น ลงมาเชื่อมเกมกับเพื่อน ไปป้วนเปี้ยนบริเวณริมเส้นบ้าง ตลอดจนการวิ่งหาช่องทำทางเพื่อล่อแนวรับคู่แข่ง เอาง่ายๆ ก็คือระบบแผนและแท็คติกของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า จะอาศัยความสามารถของตัวนักเตะเป็นหลัก ใครยืนตำแหน่งไหนควรมีทักษะสกิลเด่นๆ ด้านใด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องความขยันและความฟิต เพราะการไล่บีบกดดันศัตรูถือกุญแจสำคัญที่พาพวกเขาคว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และตีตั๋วคัมแบ็กสู่สังเวียน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง

HaMu Dos Santos

ที่มา : sportskeeda ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline