logo-heading
คำว่านักฟุตบอลผู้คนส่วนใหญ่มักถวิลหาโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงไม่มีใคร อยากมานั่งเป็นตัวสำรอง เพราะนักกีฬาการที่ไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือลงสนาม มันทำให้ชีวิตขาดแรงจูงใจไปชัดเจน และบางทีมันไม่ใช่เรื่องสนุกที่รับเงินเดือนแต่ไม่มีเกมเล่นที่ต่อเนื่อง แม้ว่าเจลีก 2020 จะมีนักเตะไทยในเจลีก 4 ชีวิต แต่ดูเหมือนว่า เราจะได้เห็นแค่นักเตะ 3 รายที่ได้ลงสนามแทบทุกสัปดาห์ คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา แต่ในรายของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นั้นเราแทบไม่เห็นเขาได้สวมถุงมือเฝ้าเสาในเกมลีกเลย อันที่จริงจะว่าไปแล้ว "ตอง" กวินทร์ นายทวารหุ่นล้ำเราแทบไม่เห็นเทพ "กวินทร์บินไทย" ที่สื่อไทยตั้งฉายยาให้เลย เพราะนับตั้งแต่บาดเจ็บจากการลงสนามให้ โอเอช ลูเวิน กลางปี 2018 เขาก็ห่างหายจากการระดับอาชีพไปเลย เพราะไม่อาจเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงจากคู่แข่งในเบลเยียมได้ ก่อนจะตัดสินใจหอบหิ้วถุงมือมาค้าแข้งที่คอนซาโดเล ซัปโปโร แต่สถานะก็ไม่ต่างจากเดิม อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ กวินทร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกัปตันทีมชาติไทย ถึงห่างหายโอกาสลงสนามแบบนี้ ขอบสนามมาไขสาเหตุคราวๆให้ฟังกัน 1.ย้ายทีมช้า การย้ายจากโอเอช ลูเวิน มาอยู่ที่คอนซาโดเล ซัปโปโร ภายใต้สัญญายืมตัว ถือเป็นเรื่องหวือหวา น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนบอลชาวไทย ที่ได้เห็นนักเตะไทยในลีกสูงสุดอาทิตย์อุทัยถึง 4 ราย ทว่าอุปสรรคครั้งใหญ่คือเรื่องการทำเรื่องย้ายทีม ที่เสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปกติทีมลีกสูงในเจลีก จะนัดรวมผลฝึกซ้อมในเดือนมกราคม เพราะฉะนั้น หากทีมไหนอยากได้นักเตะควรจะทำเรื่องโยกย้ายให้เสร็จระหว่างธันวาคมและไม่ควรเกินกลางเดือนมกราคม เพื่อให้นักเตะใหม่ ได้มีเวลามาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม และได้ปรับจูนแท็คติกระบบการเล่นกับโค้ชและเพื่อนใหม่ แต่ กวินทร์ มาช้ามีโอกาสซ้อมน้อยในช่วงที่ มิไฮโล เปโตรวิช กำลังวางระบบทีมลงตัวแล้ว จึงไม่แปลกที่คนมาทีหลัง ต้องรอคอยโอกาส 2.ทาคาโนริ ซูเกโนะ ในความเป็นจริงแฟนบอลตื่นเต้นมาก เพราะดูมุมไหน ตอง กวินทร์ ก็ยึดมือ 1 ซัปโปโรแน่ๆ หลัง กู ซอง ยุน ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมตัดสินใจกลับบ้านเกิดไปเกณฑ์ทหาร, ดูแลกิจการให้ครอบครัว และผู้มีพระคุณในครอบครัว ทำให้ทีมต้องหานายทวารคนใหม่ จนมาลงเอยที่ กวินทร์ นอกจากการมาซ้อมที่ช้าแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ได้โอกาส ก็คือ ทาคาโนริ ซูเกโนะ นายทวารจอมเก๋า ที่เป็นพระรองมาตลอด 2 ปีเต็มในถิ่นซัปโปโร โดม ซูเกโนะ เคยโดนสบประมาทว่าเป็นประตูหมดไฟ ไอ้ประตูน้ำ ชั้นไม่ถึงเจลีก แต่เขาอดทนฝึกซ้อมและพยายามแก้ไขหาจุดบกพร่องให้ตัวเองมาโดยตลอด จน มิไฮโล เปโตรวิช มองความไว้วางใจให้ลงเล่น 3.นายทวารที่ไม่ถนัดเล่นบอลกับเท้า ผู้รักษาประตูในเจลีก หลายๆทีมต้องปรับตัวเอง เรียนรู้เพิ่มเติม จะยึดติดอะไรเดิมๆคงไม่ได้ เราจึงเห็นหลายๆทีม พยายามให้นายทวาร ออกมาตัดเกมมีส่วนร่วมกับเกมในสนามมากขึ้น ไม่ใช่ยืนปักหลักอยู่หน้าประตู แต่มันไม่ใช่ทุกคนที่จะตอบสนองรับแท็คติกนี้ได้ เพราะบางคนเบสิคไม่ดีในการเล่นบอลกับเท้า ซึ่งโค้ชส่วนใหญ่จะคิดเล่นนี้มาก และซัปโปโรเองก็เล่นกองหลัง 3 คน แต่แนวรับก็ไม่มีความแน่นหนา แถม กวินทร์ เองก็ไม่ได้เล่นแท็คติกนี้มาก่อน และแทบต้องมาเรียนรู้ใหม่เลย ผิดกับ ทาคาโนริ ซูเกโนะ ที่อยู่มาก่อน เพราะฉะนั้นจึงนำหน้า กวินทร์ อยู่หลายเท่าตัว 4.ประตูคู่แข่งยังไม่พลาดเลย นอกจากมาฝึกซ้อมกับทีมช้า สิ่งหนึ่งที่ กวินทร์ รู้อยู่แล้วว่า การแข่งขันตำแหน่งผู้รักษาประตูในเจลีก ก็สูงไม่แพ้ลีกเดิมที่เขาเคยค้าแข้ง เพียงแต่ว่ามันต้องใช้เวลา รอจังหวะโอกาสที่เหมาะสม 8 เกมในเจลีกเขามีชื่อเป็นสำรองข้างสนาม 7 เกม เพิ่งมีโอกาสลงสนามในเกมบอลถ้วย 1 นัด แต่ที่ผ่านมาผลงานในเกมลีกของซัปโปโร ทาคาโนริ ซูเกโนะ ยังไม่แสดงความผิดพลาดเลย สิ่งที่กวินทร์ ต้องทำคือกระตุ้นตัวเองให้มากกว่าเดิมเพื่อพร้อมสำหรับการลง อย่าปล่อยให้ตัวเองหมดไฟเด็ดขาด 5.จุดอ่อนการป้องกันกวินทร์ มากกว่าซูเกโนะ หากจะเทียบเรื่องฝีมือ ตอง กวินทร์ ไม่ได้เป็นรอง ทาคาโนริ ซูเกโนะ รูปร่างสูง 181 เซนติเมตร ส่วน ซูเกโนะ สูง 178 เซนติเมตร แม้รูปร่างเล็กกว่า แต่เรื่องประสบการณ์ในบอลลีกญี่ปุ่นที่นายทวารจอมเก๋ามีมากกว่า  10 กว่าปี อีกจุดหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือ กวินทร์ มีปัญหาในเรื่องการป้องกันลูกยิงไกลมานานแล้ว แถมฟุตบอลเจลีก ถ้าเซ็ตเกมต่อบอลเข้าไปทำประตูไม่ได้ นักเตะส่วนใหญ่ก็อาศัยหาดินกับลูกยิงไกลซะเป็นส่วนใหญ่ นี่คือจุดอ่อนรูใหญ่มาก เพราะถ้าส่งลงสนามแล้วพลาดขึ้นมา ความมั่นใจที่เคยมีก็จะหายไปทันที  
logoline