logo-heading

จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับซีซั่นของ บาร์เซโลน่า ที่เปี่ยมไปด้วยความบรรลัย พินาศสิ้น หลังจากพ่าย บาเยิร์น มิวนิค แบบเละเทะ มันทำให้พวกเขาต้องจบซีซั่นด้วยมือเปล่าเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี 

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในซีซั่นนี้ล่ะ ทำไมทีมระดับ บาร์ซ่า ถึงได้พังขนาดนี้ได้ วันนี้ ขอบสนาม จะนำทุกท่านไปไล่ดูทีละเหตุผลกันครับ 

ความล้มเหลวในการเสริมทัพ

บาร์เซโลน่า ใช้เงินเสริมทัพไปทั้งหมด 238 ล้านยูโรในการล่าตัว อองตวน กรีซมันน์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เนโต้ และ จูเนียร์ ฟีร์โป แต่ดูเหมือนสิ่งที่พวกเขาลงทุนไปผลสอบที่ออกมาคำตอบคือ ล้มเหลว หลักๆ เลยก็คือ อองตวน กรีซมันน์ นี่คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่พลาดมากๆ สำหรับ บาร์เซโลน่า ค่าตัวเพียวๆ 120 ล้านยูโร แต่สิ่งที่ บาร์เซโลน่า ได้ก็คือ 9 ประตูจาก 35 เกมใน ลา ลีกา และ 15 ประตูจาก 48 เกมรวมทุกรายการ มันไม่คุ้มกันเลยสักนิดถ้าวัดกับจำนวนเงินและผลงานเมื่อสมัยอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด มิหนำซ้ำจนถึงตอนนี้พี่แกก็ยังปรับตัวเข้ากับระบบทีมของ บาร์เซโลน่า ไม่ได้ ซึ่งบางทีก็คงต้องให้โอกาสเขาอีกครั้งในปีหน้า ว่าจะดีขึ้นไหม หากว่ายังเป็นแบบนี้ ก็มีแววว่านี่จะเป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวที่สุดของทีมเลยก็ว่าได้ 

ฟอร์มหลังพักโควิด

การรักษามาตรฐานถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทุกสิ่ง ถ้าคุณรักษาได้อะไรๆ มันก็จะออกมาดีไปหมดนั่นแหละ แต่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลในการลุ้นแชมป์กับ เรอัล มาดริด พอฟุตบอลกลับมาเตะกันตามปกติ บาร์เซโลน่า ยังเป็นจ่าฝูงอยู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกเขาทำแต้มหล่นระนาวจากการ เสมอ เซบีย่า, เสมอ เซลต้า บีโก้ และปราชัยคาบ้านต่อ โอซาซูน่า ในขณะที เรอัล มาดริด กลับชนะ 10 เกมรวดพร้อมกับคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งอันนี้ บาร์ซ่า ก็คงโทษใครไม่ได้ เพราะโอกาสอยู่ในมือตัวเองแท้ ๆ 

แพ้ทีมเล็ก

หนึ่งในความล้มเหลวของ บาร์เซโลน่า ก็คือการป้องกันแชมป์ ลา ลีกา ไม่ได้ ทั้งที่ปีนี้ก็ไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีของ เรอัล มาดริด เรารู้กันอยู่แล้วว่า บาร์เซโลน่า คือสโมสรยักษ์ใหญ่ใน ลา ลีกา สเปน เรื่องชื่อชั้นและศักยภาพทีมมันห่างจากทีมอื่นๆ เยอะ นับแค่ทีมเล็กๆ นะ และปกติ บาร์เซโลน่า ก็แทบจะไม่สะดุดพลาดล้มเลยยามเจอกับทีมที่อ่อนกว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้พวกเขาแพ้แม้กระทั่ง กรานาด้า, เลบานเต้ และ โอซาซูน่า นี่ยังไม่รวมเกมที่สะดุดเสมออีกหลายๆ นัดนะ มันหมายความว่า บาร์ซ่า เสียแต้มให้กับทีมเหล่านี้มากเกินไป มันเลยทำให้ แชมป์ ลา ลีกา กระเด็นไปในที่สุด

เอล กลาซิโก้

อย่างที่พูดไปเมื่อกี๊ว่า นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีที่ของ เรอัล มาดริด นักเตะใหม่อย่าง เอแด็น อาซาร์ ก็โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก แกเร็ธ เบล ก็มีปัญหาเรื่องวินัย พวกเขามีทีเด็ดแค่คนเดียวในการจบสกอร์ซึ่งก็คือ คาริม เบนเซม่า แต่ในขณะที่ บาร์เซโลน่า มี ลิโอเนล เมสซี่ มี หลุยส์ ซัวเรซ และ อองตวน กรีซมันน์ ที่หวังผลได้ แต่ในศึก เอล กลาซิโก้ พวกเขากลับเสียเหลี่ยมให้ทั้ง 2 เกมเหย้าเยือนเลยคือไม่ชนะ และก็เล่นเป็นรองฝั่งราชันชุดขาวทั้งสองนัด คำถามก็คือต้องโทษใครกับสิ่งที่เกิดขึ้น ? บอร์ดบริหาร, นักเตะหรือกุนซือ ? >>> คนไหนเหมาะสม? 5 ตัวเต็งกุนซือคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า

การปลดบัลเบร์เด้ 

การแต่งตั้ง กีเก้ เซเตียน เหมือนจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูก เพราะทรงบอลและผลงานที่ออกมามันไม่ได้ดีกว่ายุค เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เลยสักนิด ทั้งที่ตอนปลดออกจากตำแหน่งตอนนั้น บาร์เซโลน่า ก็นำเป็นจ่าฝูงอยู่แล้วด้วย หลายคนคงรู้ดีว่าแกทำทีมดีมากสมัยคุม เรอัล เบติส เกมรุกจัดจ้าน และเล่นกันเป็นระบบมากๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถคุม บาร์เซโลน่า ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลย ครองบอลดีอย่างเดียว แต่การสร้างสรรค์โอกาสต่างๆ แทบไม่มีมิติเลย เกมรับก็รั่วสุดๆ เพราะเน้นเกมตรงกลางเป็นหลักอย่างเดียว โดยผลงานของแกกับการคุม บาร์ซ่า ในซีซั่นนี้คือ คุม 25 เกม ชนะ 16 เสมอ 4 แพ้ 5 นัด มีเปอร์เซนต์ วิน เรท อยู่ที่ 64% ดูเหมือนจะดีนะ แต่จริงๆ คือ ไม่ ! บางทีถ้าให้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ คุมต่อจนจบ โอเคแหละ สไตล์อาจจะน่าเบื่อ แต่บางทีอาจจะป้องกันแชมป์ได้นะ

ปัญหาภายใน

เชื่อว่าทุกคนน่าจะทราบดีถึงปัญหาภายในของ บาร์เซโลน่า เรื่องที่เป็นหลักฐานพิสูจน์ชั้นดีเลยก็คือเคสของ เอริค อบิดัล ที่จู่ๆ ก็ออกมาวิจารณ์ขุนพลชุดปัจจุบันมีคนที่ไม่พอใจการทำงานสมัย เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ยังบัญชาทัพอยู่ และก็บอกอีกด้วยว่ามีนักเตะบางคนที่ไม่ทุ่มเทและทำงานหนักมากพอก็เลยทำให้ น้าเด้ ต้องตกงานไป ก่อนที่หัวโจกของทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะหัวเสียและออกมาเปิดปากสวนกลับในทันทีในทำนองที่ว่า ‘จริงๆ เรามีหน้าที่อะไรก็ควรใส่ใจแค่งานของตัวเอง’ เรื่องนี้มันแสดงให้เห็นถึงการไม่ให้เกียรติกัน ขาดความกลมเกลียวในเรื่องความสัมพันธ์ ไหนจะมีเรื่องการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอีกซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัว อิวาน ราคิติช ทุกคนทราบดีว่าฤดูกาลนี้เขามีสถานะเป็นแค่อะไหล่สำรอง โอกาสลงเล่นไม่สม่ำเสมอเหมือนที่ผ่านๆ มา และช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมพี่แกก็แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากทีม แต่สุดท้ายการย้ายทีมก็ไม่เกิดขึ้น เล่นทำเอาตัว ราคิติช หัวเสียจนต้องออกมาเหน็บการทำงานของบอร์ดบริหารออกสื่อ

2-8

นี่คงเป็นความพังที่สุดแล้วของ บาร์เซโลน่า กับการโดน บาเยิร์น มิวนิค ยำใหญ่แบบเละเทะด้วยสกอร์ 8-2 ใครจะไปคิดว่าทีมอย่าง บาร์ซ่า จะโดนคู่แข่งถล่มยับขนาดนี้ และเกมๆ นี้มันทำให้เกิดสถิติแย่ๆ มากมาย พวกเขาเสีย 4 ประตู ภายในระยะเวลาแค่ 31 นาทีเป็นครั้งแรกในรอบ 69 ปี พวกเขาโดนยิงถึง 8 ลูกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แพ้ เซบีย่า ในศึก โกปา เดล เรย์ 8-0 ในปี 1946 ตอนนี้ บาร์เซโลน่า ไม่ใช่ทีมที่น่ากลัวอีกต่อไปแล้วในสายตาทีมใหญ่ด้วยกัน นับช่วงชีวิตที่ขาลงสุดๆ จริงๆ

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline