logo-heading

หากมีสักทีมที่จะกำลังเจอสถานการณ์อันย่ำแย่ คงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาลก่อน เมื่อพวกเขาโดนยัดเยียดความปราชัยคาถิ่นแอนฟิลด์ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี หลังพ่ายให้ทีมรองบ่อนอย่าง เบิร์นลี่ย์ 0-1

ทุกอย่างกำลังถาโถมเข้ามาอย่างหนัก ทั้งเรื่องนักเตะบาดเจ็บ / กองหน้าตีนบอด / ไม่ชนะใครในลีกมา 5 นัด อย่าว่าแต่เรื่องป้องกันแชมป์ แค่รักษาพื้นที่ท็อปโฟร์ กลายเป็นเหมือนสุภาษิต เข็นครกขึ้นภูเขา .. ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงแพ้เกมนี้ มีหลายประเด็นที่ต้องมาพูดถึง เอาเป็นว่าไปติดตามรับฟังเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมนี้กัน

- มาแผนเซอร์ไพรส์ เก็บตัวไปแดงเดือด

เกมเปิดบ้านเจอกับ เบิร์นลี่ย์ ก็ถือว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ มาในแผนเซอร์ไพรส์เหมือนกัน ต่อให้จะเดาออกว่าจะมาแนวนี้อยู่แล้ว แต่เขาตัดสินใจดรอปทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โดยส่งทั้ง ดิว็อค โอริกี้ กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงสนามเป็นตัวจริง  แต่กระนั้นมันก็ไม่มีอะไรแตกต่างกับทีมชุดเดิม เพราะการเข้าทำของ ลิเวอร์พูล ยังเป็นไปด้วยความลำบาก และ มุกเข้าทำที่เดาได้ไม่ยาก เมื่อขึ้นตรงกลางไม่ได้ ก็ต้องถ่างไปทางริมเส้น ใช้ลูกครอสเข้ามา ซึ่งก็ไม่ได้สร้างความอันตรายใดๆ ถึงแม้มีจังหวต่อบอลตามช่องก็จริง แต่เวลายิงก็ไม่ได้ไปตรงตัว นิค โป๊ป เสียหมด นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากลำบากสำหรับ ลิเวอร์พูล ในการจะยิงประตูใส่ เบิร์นลี่ย์ ตรงกลางก็เจาะไม่ได้ เปิดจากด้านข้างก็ติดเหมือนเตะติดกำแพง เรียกว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะเจอกับใคร ก็จะถูกตั้งรับลึก จนทำให้ หงส์แดง ไปไม่เป็น ยิ่งตอนนี้ฟูลแบ็กทั้ง 2 ฝั่ง ไม่มีพิษสงอะไรจะเจาะแนวรับคู่แข่งได้เลย ยื่งทำให้ประสิทธิภาพการเข้าทำด้อยลงไปเยอะ

- หลุดเดี่ยวยังยิงไม่เข้า 

ในเกมนี้ โอกาสสดใสของ ลิเวอร์พูล ในการทำประตูขึ้นนำ คงหนีไม่พ้นจังหวะหลุดเดี่ยวของ ดิว็อค โอริกี้ หลังจากนักเตะของ เบิร์นลี่ย์ พยายามจะส่งกลับคืนผู้รักษาประตู แต่ทำผิดพลาดมหันต์ เพราะคืนแบบโคตรผิดเหลี่ยม กลายเป็น ดิว็อค โอริกี้ ได้หลุดเดี่ยว เข้าไปดวลกับ นิค โป๊ป เรียกว่าหลุดไปตรงกลาง มีเวลาตัดสินใจ จะยิงตรงมุมไหนของผู้รักษาประตูก็ได้ กลายเป็น โอริกี้ พยายามจะยิงยัดแบบใต้คาน เหมือนจะโชว์ความเหนือชั้นมากมั้ง บอลเลยเหินไปชนคาน พลาดโอกาสขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ ทั้งๆที่จังหวะนี้มันควรขึ้นนำด้วยซ้ำ ถามว่าผิดหวังขนาดไหน ให้ไปดูโลกโซเชี่ยล ที่พร้อมใจกันด่า เป็นการแสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในแนวรุก เพราะไม่ว่าจะเป็นตัวจริง หรือ ตัวสำรอง ก็ไม่อาจจะรังสรรค์เป็นประตูได้เลย ขนาดหลุดเดี่ยวไปขนาดนี้ แบบไม่มีใครวิ่งมากดดัน ก็ไม่อาจเปลี่ยนให้เป็นประตูขึ้นนำได้เสียที

- อลิสซอน ทำเสียจุดโทษ และ เป็นจุดสู่ความพ่ายแพ้

เหลือเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะโดน เบิร์นลี่ย์ จะหยุดสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน 68 นัด ทั้งๆที่ในศึก พรีเมียร์ลีก พวกเขาต้องเผชิญทีมตัวเอ้ ทั้ง 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ / เชลซี / อาร์เซน่อล / ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หรือ แม้กระทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ เรียกว่าใครบุกมายังถิ่นแอนฟิลด์ ไม่กลับไปแบบสะบักสะบอม ก็มักระอักเลือดกลับไปแค่ 1 แต้ม อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลัง ลิเวอร์พูล เจอทีมสมันน้อย แทนที่จะตบให้ตายคามือ เพื่อเก็บ 3 แต้ม แต่กลับกลายเป็นว่าพวกทีมสมันเหล่านั้น จิกให้ หงส์แดง ต้องปีกหักนอนตายแบบชอกช้ำ (เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 / เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-0 / แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1) เรียกว่า 3 นัดนี้ พวกเขาควรเก็บอย่างน้อย 4-6 แต้ม ด้วยซ้ำ แต่กลับกลายทำได้ แค่ 1 แต้ม กระนั้นความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาซ้ำ เพราะต่อให้เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 แต่กระนั้นเกมเปิดบ้านเจอ เบิร์นลี่ย์ กลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล ถึงขั้นแพ้คาบ้าน แบบช็อคสาวก เดอะ ค็อป ที่ไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจาก อลิสซอน ไปทำฟาวล์ เสียจุดโทษ และ เป็น แอชลี่ย์ บาร์นส์ กองหน้า เบิร์นลี่ย์ ซัดเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูขึ้นนำ หงส์แดง 1-0 ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

- เบน มี เซฟชีวิต 

ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล ตามหลัง เบิร์นลี่ย์ 0-1 พวกเขาบุกแบบไม่คิดชีวิต เพื่อหวังที่จะตามตีเสมอให้ได้ เรียกว่าทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์กลับมาทำให้ทีมมีแต้มอีกครั้ง และ จะไม่ยอมเสียสถิติการไม่แพ้ในถิ่นแอนด์ฟิลด์ ตั้งแต่เมษายน 2017 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ หงส์แดง เกือบจะทำมันได้สำเร็จ เพราะหลังจากที่ป้ออยู่นาน วนเวียนอยู่หน้ากรอบเขตโทษของ เบิร์นลี่ย์ มีช็อตที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามา โดยเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ พยายามสะกิดเปลี่ยนทาง จริงๆจังหวะนั้น นิค โป๊ป ไม่อยู่ในวิถีที่จะเซฟได้แล้ว เพราะยืนขาตาย ได้แต่ชายตามอง แต่ทว่าคนที่มาเซฟชีวิตให้กับ เบิร์นลี่ย์ ก็คือ เบน มี เซ็นเตอร์แบ็ก เบิร์นลี่ย์ ที่มายืนเกะกะหน้าปากประตู สกัดก่อนจะผ่านเข้าเส้น ส่งผลให้ หงส์แดง ไม่อาจทำประตูตีเสมอ ต่อให้ท้ายเกมจะบุกขนาดไหน ก็ไม่มีโอกาสได้ลุ้นอีกแล้ว กลับกลายเป็นว่า เดอะ คลาเร็ตส์ เป็นทีมแรกที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในถิ่นแอนฟิลด์ ในรอบ 3 ปี 9 เดือน !!

- ของหายากสำหรับ 3 ประสาน หงส์แดง 

ใครจะเชื่อล่ะว่า ทีมที่มีสถิติทำประตู มากที่สุด เป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด โดยมีค่าเฉลี่ย 85 ประตู เป็นอย่างน้อย ต่อซีซั่น จะกลับกลายเป็นทีมที่ไม่สามารถหาช่องเจาะคู่แข่งได้เลยตลอด 4 นัดหลังสุด ทั้งๆที่แนวรุกชุดนี้ ก็ยังคงชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น โม ซาลาห์ / โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หรือ ซาดิโอ มาเน่ แถมมี ติอาโก้ อัลคันตาร่า มาบัญชาเกมตรงแผงมิดฟิลด์ด้วยซ้ำ แต่กระนั้นชั่วโมงนี้ เอาแค่ยิงตรงกรอบยังกลายเป็นเรื่องหายาก และ หากไม่นับลูกที่ โอริกี้ หลุดเดี่ยว แทบไม่มีจังหวะหวาดเสียชนิดที่ว่าควรจะเป็นประตูขึ้นนำเลยสักนิดในการเจอกับ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งการพ่ายแพ้ครั้งนี้ นอกจากจะถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครในถิ่นแอนฟิลด์ มาแล้ว ยังมีตัวเลขฟ้องว่า 3 ประสานแนวรุก ลิเวอร์พูล โม ซาลาห์ / โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ / ซาดิโอ มาเน่ ไม่สามารถยิงประตูในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มายาวนานถึง 438 นาที กินเวลามาแล้ว 4 เกมกว่าๆ ครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้น คือพฤษภาคม ปี 2000

ฮาย ฮาวดี้-

logoline