logo-heading

ควันหลังจากเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อทีมบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 ประตู เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะไม่จบลงง่ายๆ แถมขยายประเด็นไปกันใหญ่อีกต่างหาก เพราะนี่มันเป็นประเด็นที่ทั้งโลกพยายามรณรงค์ต่อต้าน แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักทีแล้วตอนนี้มันก็กลับมาอีกแล้ว นั่นคือเรื่องของการ "เหยียดผิว" นั่นเอง

  เรื่องของเรื่องก็คือว่า หลังจากที่ ผีแดง ฟอร์มห่วยพ่ายบ๊วยคาบ้านไป 2-1 ประตูเนี่ย 2 แข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตกเป็นแพะและเป็นที่รองรับอารมณ์ของแฟนบอลก็คงหนีไม่พ้น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ โอเคหละทั้ง 2 คน เล่นได้แย่จริงๆ ในเกมนี้ "น้องหมาก" ไร้สัญชาติญาณการเป็นกองหน้า ชอบทำหน้าซังกะตาย จ่ายบอลพลาด เสียบอลง่าย แถมเสียแล้วก็ยังไม่ไล่ และเป็นจุดตั้งต้นที่ทำให้เสียประตูที่ 2 ในเกมนี้ ขณะที่ ตวนเซเบ้ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแบบเหนือความคาดหมาย ก็ดูตื่นสนามดักจังหวะพลาดหลายหน และสุดท้ายบอลก็มาแฉลบเจ้าตัวเข้าประตูไปเป็นประตูชัยให้ "ดาบคู่"  พอมันเป็นแบบนี้ แฟนผี ที่กำลังเซ็งโลกที่ต้องอับอายขายขี้หน้ากับการที่บ๊วยติดคอ ก็อยากหาที่ระบายซึ่งแน่นอนโลกยุค 5G แบบนี้จะมีทางไหนหละที่จะด่าถ่มถุยนักเตะได้ตรงๆ นอกซะจากโซเชียลเน็ตเวิร์ค ว่าแล้วคอมเม้นท์ก็พลันกันถาโถมเข้าใส่ทั้ง มาร์กซิยาล และ ตวนเซเบ้ ซึ่งถ้ามันเป็นการด่าว่า โจมตีเรื่องฟอร์มการเล่น มันก็เป็นเรื่องที่พอจะรับได้ ทว่าทั้ง 2 คนกลับโดนเอาเรื่องประเด็นสีผิวมาเล่นงาน ซึ่งนี่เป็นการกระทำที่ไม่น่ารักเอาซะเลย ทั่วโลกพยายามประณามบุคคลที่เหยียดผิว และรณรงค์กันอย่างมาก มีทั้งแคมเปญ no to racism มีทั้ง black lives matter ออกมา แต่ก็ยังมีพวกผีห่าซาตานเอาประเด็นนี้มาล้อมาเหยียดอีกจนได้ การเหยียดหยามคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นสีผิว รูปร่าง หน้าตา หรืออะไรก็ตาม มันคือสิ่งที่น่ารังเกียจสุดๆ การที่คนๆ นึงยกตนเหนือคนอื่นทั้งที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน มันคือการกระทำที่ต่ำช้า ยิ่งถ้าคุณคนที่ด่าคิดว่าสีผิวคือเครื่องวัดมาตราฐานความเป็นคนแล้วหละก็ ผมอยากให้คุณกลับไปทบทวนตัวคุณดูใหม่ว่าความคิดของคุณมันน่าขยะแขยงแค่ไหน เลือดต่างสีนั้นมีจริงหรือ? จึงยึดถือว่าสีต่าง ถึงมืดบอดมุ่งพุ่งเข้าเหยียด ทั้งที่ต่างก็เป็นคนเหมือนกัน! อย่างที่บอกไปครับเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ทุกวันนี้ปี 2021 การบูลลี่การดูถูกการเหยียดคนมันควรหมดไปได้แล้ว ไม่ใช่แค่หมดไปจากโลกลูกหนัง แต่ควรหมดไปจากโลกใบนี้เลย ซึ่งทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของนักเตะทั้ง 2 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ รีบออกแถลงการณ์ปกป้องนักเตะในสังกัดทันที โดยแถลงการณ์ระบุว่า "ทุกคนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รังเกียจการเหยียดเชื้อชาติ หลังจบเกมการแข่งขันนัดที่ผ่านมา นักเตะของเราโดนกระทำเหยียดเชื้อชาติผ่านโซเชียลมีเดีย เราขอประณามการกระทำนี้ และขอให้แฟนบอลทุกคนประณามการกระทำนี้ด้วยเช่นกัน" "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ยินยอมต่อการเหยียดเชื้อชาติหรือการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในทุกรูปแบบ และยังได้ดำเนินโครงการต่อต้านการกระทำดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานภายใต้ชื่อว่า All Red All Equal การระบุตัวตนของพวกสิ้นคิดที่ไม่มีตัวตนเหล่านี้เป็นปัญหา เราต้องขอเรียกร้องผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย มีมาตรการที่เข้มงวดต่อการแสดงพฤติกรรมแบบนี้" ไม่ใช่แค่สโมสรที่ออกมาปกป้องนักเตะและประณามพวกชอบเหยียดหยามเพื่อนมนุษย์เท่านั้น แต่บรรดาเหล่านักเตะเองก็ออกมาให้กำลังใจและปกป้องทั้ง ตวนเซเบ้ และ มาร์กซิยาล เพราะทุกคนที่มีจิตสำนึกต่างรู้ดีว่านี่เป็นการกระทำที่ทุเรศ และรู้ดีว่าบรรดาคนผิวสีต้องอดทนกับเรื่องแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ไม่มีใครที่มีจิตสำนึกอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก ใช่ครับ มาร์กซิยาล เล่นแย่ ไร้แพสชั่น ทัศนคติไม่ดี เสียบอลไม่ไล่ ทำหน้าตายกวนตีนไปวันๆ ใช่ครับ ตวนเซเบ้ เล่นแย่ แถมบอลก็ยังมาแฉลบเขาเข้าประตู จนทำให้ต้องแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คาบ้าน แต่ถ้าจะด่า จะว่าจะวิจารณ์อะไรก็ควรให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นมนุษย์ด้วยกัน ต่อให้เล่นแย่แค่ไหนทำเข้าประตูตัวเองเป็นสิบลูก พวกเขาก็ไม่ควรต้องมาโดนแฟนบอลหรือคนที่ไม่รู้จักมาเหยียดเชื้อชาติผิวพรรณ แล้วมันยิ่งเจ็บช้ำระกำใจเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าคนที่เหยียดเขานั้นคือ. .. แฟนบอลทีมตัวเอง ขอให้การเหยียดผิวหายไปจากโลกนี้ด้วยเถอะ  

ชิน ชินพัฒน์ 

logoline