ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ชื่อนี้แฟนบอลต่างรู้จักกันดี และคงไม่มีใครเถียงหรอกว่า เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในช่วง 20 ปีหลังสุดของโลกลูกหนัง คำกล่าวที่ว่าไม่ได้เกินไป เพราะหากย้อนดูสถิติแล้ว ตลอด 22 ปีในอาชีพค้าแข้ง ดาวเตะที่เรียกตัวเองว่า "พระเจ้า" แทบไม่เคยฟอร์มตกเลย และคว้าแชมป์มาประดับบารมีได้มากมาย
ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2020 หรือช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของฤดูกาลที่แล้ว ซลาตัน ที่ตอนนั้นอายุ 38 ปี ก็สร้างความฮือฮาให้พวกเราเหล่าแฟนบอลอีกครั้ง หลังหมดสัญญากับ แอลเอ แกแล็คซี่ เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจที่จะย้ายกลับมาค้าแข้งกับ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัด ด้วยสัญญาระยะสั้น 6 เดือน ซึ่งตอนนั้นแม้ ตำนานแข้งทีมชาติสวีเดน จะยิงกระจายใน เมเจอร์ลีก สหรัฐฯ ด้วยสถิติ 30 ประตูจาก 29 นัดในฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวกับ แอลเอ แกแล็คซี่ แต่ก็มีหลายคนคิดว่าเขาคงแก่เกินไปที่จะเล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปแล้ว ย้ายมา "ปีศาจแดง-ดำ" ก็คงเล่นไม่ไหว ไม่ได้ยิงอะไรเยอะแยะ เผลอๆ อาจเป็นแค่อะไหล่สำรองเท่านั้นด้วยซ้ำ
ทว่าพอเอาเข้าจริงๆ การเข้ามาของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เหมือนเป็นการปลุกปีศาจให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ใช้เวลาไม่นาน ซลาตัน ก็ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ ยึดตัวจริงได้สำเร็จ และสุดท้ายก็ตะบันไป 10 ประตูจาก 18 เกม พา เอซี มิลาน จากที่อยู่ครึ่งล่างของตาราง มาจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 คว้าโควต้าไปเล่นยูฟ่า ยูโรปาลีก ได้ซะงั้น พร้อมวาทะเด็ดตามสไตล์ ซลาตัน ว่า “ผมเป็นทั้งประธานสโมสร, โค้ช และผู้เล่นของทีม เพียงแต่พวกเขาจ่ายเงินให้ผมในฐานะนักฟุตบอลเท่านั้น ถ้าผมมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ตอนนี้เราคงคว้าแชมป์ไปแล้วแหละ!”
ซึ่งพอจบฤดูกาลแน่นอนว่าฟอร์มเทพแบบนี้ มีหรือ มิลาน จะยอมปล่อยไปไหน แม้จะมียึกยักกันพักนึงแต่สุดท้าย ซลาตัน ก็ตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญาอยู่ช่วย "ปีศาจแดง-ดำ" ต่อไปอีก 1 ฤดูกาล โดยหารู้ไม่ว่าไอคำพูดที่ว่า "ถ้าผมอยู่ตั้งแต่ต้นฤดูกาล มิลาน คงเป็นแชมป์ไปแล้ว" พี่ตั้น แกไม่ได้พูดเล่นๆ เพราะตอนนี้มีโอกาสแล้วที่จะทำได้จริง!!
เผื่อใครไม่ได้ติดตาม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หรือไม่ได้ติดตามฟอร์มการเล่นของ ซลาตัน ในวัย 39 ปี ผมก็จะมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า น้าแกแม่งเจ๋งแค่ไหนในซีซั่นนี้ ซลาตัน เปิดหัวฤดูกาล ด้วยการตะบัน 2 ประตูช่วยให้ มิลาน เอาชนะ โบโลญญ่า ไปได้ 2-0 ประตู แต่หลังจากเกมนั้นเจ้าตัวก็ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องพักรักษาตัว แต่ระดับพระเจ้า ไวรัสแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้ ซลาตัน ใช้เวลาไม่ถึงเดือนก็ถีบโควิดออกไปจากชีวิตได้สำเร็จ และกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ซึ่งกลับมาคราวนี้ พี่แกแข็งแกร่งกว่าเดิมอีก เพราะซัดเพิ่มไปอีก 8 ประตูจาก 5 เกม ทำให้ก้าวขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวของ เซเรีย อา ในเวลานั้น
แต่ฟอร์มกำลังมาดีๆ อาการบาดเจ็บก็เข้ามารบกวน ซลาตัน จนได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะอย่าลืมว่านีคือนักเตะวัย 39 ปี ที่ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม อาการบาดเจ็บพรากเขาไปประมาณเดือนเศษ ช่วงนั้นฟอร์มของ มิลาน ก็มีแผ่วๆ ไปบ้างแต่ก็ยังเอาตัวรอดเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ตลอด
จนกระทั่ง ซลาตัน กลับมาอีกครั้งจากอาการบาดเจ็บ ก็ใช้เวลาเรียกความฟิตสักพัก และตอนนี้ก็ดูเหมือนจะกลับมาเข้าฟอร์มเทพได้อีกครั้งแล้ว หลังล่าสุดเพิ่งจะซัด 2 ประตู ช่วยให้ "ปีศาจแดง-ดำ" ถล่ม โครโตเน่ ไป 4-0 ประตู ช่วยให้ มิลาน แซง อินเตอร์ คู่ปรับร่วมเมืองกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
ส่วนผลงานของ พี่ตั้น ในวัย 39 ปี 4 เดือนตอนนี้หนะหรอ ลงเล่นไป 11 นัด ซัด 14 ประตู!! เป็นรองดาวซัลโวของลีก โดยตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ 2 ประตู แต่โทษทีพี่โด้นี่ลงไป 17 นัดนะครับ! แถมตอนนี้ตลอดอาชีพค้าแข้งของพี่แกก็เพิ่งจะซัดในระดับสโมสรได้เกิน 500 ลูกไปเป็นที่เรียบร้อยหมาดๆ
ถึงตอนนี้ไอคำสบประมาท เมื่อช่วงต้นปีที่แล้วที่บอกว่า ซลาตัน แก่เกินแกงย้ายกลับมา เซเรีย อา ก็เล่นไม่ไหวหรอก โดน พระเจ้า พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเราเหล่ามนุษย์คิดผิด ส่วนคำพูดที่ว่า "ถ้าเขาย้ายมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล เอซี มิลาน เป็นแชมป์ไปแล้ว" ตอนนั้นคนก็หัวเราะขำขัน คิดว่า ซลาตัน พูดเล่นกวนตีนเหมือนเช่นเคย แต่สำหรับ ซลาตัน เขาคิดอย่างที่พูดจริงๆ และมีสิทธิ์จะทำได้สำเร็จซะด้วย
ชิน ชินพัฒน์
