logo-heading

การจับสลากประกบคู่ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ประจำฤดูกาล 2020/21 ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเดือดแน่นอน น่าดูทุกคู่!

 

ส่วนใครยังไม่รู้ว่าใครเจอใครก็ขอสรุปย้ำให้ดูกันอีกครั้งละกัน

ผลการจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เอฟซี ปอร์โต้ – เชลซี บาเยิร์น มิวนิค – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เรอัล มาดริด – ลิเวอร์พูล  

ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการจับสลาก มันก็มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่พอสมควร ฉะนั้นทาง ‘ขอบสนาม’ จะขอพาทุกท่านไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

  - หลายคนอาจสงสัยจับสลากกันวันนี้ แล้วกว่าจะเริ่มตะบันแข้งกันนั้นมันวันไหน คำตอบคือไม่ต้องรอนานครับ เลกแรกจะแข่งขันกันในวันที่ 6-7 เมษายน ส่วนเลกสองจะเตะในวันที่ 13-14 เมษายน โดยทีมที่ถูกจับสลากขึ้นมาก่อนจะได้เล่นในฐานะเจ้าบ้านก่อน - จาดอน ซานโช่ ปีกตัวจี๊ดของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีโอกาสจะได้พิสูจน์ตัวเองให้ทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ไม่ให้โอกาสเจ้าตัวได้แจ้งเกิดในทีมสุดใหญ่ จนต้องย้ายมาอยู่กับ "เสือเหลือง" ได้เห็น - ขณะเดียวกันนอกจาก ซานโช่ จะได้เจอกับทีมเก่าแล้ว อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ฟอร์มแรงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็จะได้กลับไปเจอทีมเก่าที่มีส่วนปลุกปั้นทำให้เขามีทุกวันนี้อย่างทัพ "เสือเหลือง" ด้วยเช่นกัน - ส่วนทางฝั่ง บาเยิร์น มิวนิค ก็จะมี 2 ผู้เล่นแนวรุกคือ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง กับ เอริค แม็กซิม ชูโป-โมติง ที่จะได้กลับไปเจอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมเก่า  - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติที่ดีมากในการเปิดบ้านเจอกับคู่แข่งจากเยอรมัน ในถ้วยยุโรป เพราะที่ผ่านมา 12 นัด "เรือใบสีฟ้า" ชนะได้ถึง 9 เสมอ 2 และแพ้แค่เกมเดียว ซึ่งเกมนั้นเป็นการแพ้ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 ซึ่งกุนซือของ "เสือใต้" ตอนนั้นก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ในตอนนี้นี่เอง - เชลซี มีสถิติการเล่นในบ้านที่ดีมากในการเจอกับ เอฟซี ปอร์โต้ โดยเจอกันมาทั้งสิ้น 4 ครั้งที่แดนผู้ดี ทีมแกร่งจากโปรตุเกส ต้องพบกับการปราชัยกับไปทุกครั้ง เรียกได้ว่า "สิงห์บลูส์" ข่มมิด 100% หากเป็นการเล่นในรังตัวเอง - การพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ลิเวอร์พูล ถือเป็นคู่บิ๊กแมตซ์ที่สุดในรอบนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการรีแมตซ์นัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2018 ที่ "ราชันชุดขาว" เอาชนะ "หงส์แดง" ไปได้ 3-1 ประตู เท่านั้นไม่พอสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกจับตาดูอีกอย่างคือการดวลกันระหว่าง เซร์คิโอ รามอส กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีประเด็นกันมาในนัดชิงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว - ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลถ้วยยุโรป นับตั้งแต่ยูโรเปี้ยน คัพ ยัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่มีใครยิงใส่ ลิเวอร์พูล ได้มากกว่า คาริม เบนเซม่า กองหน้าวัยเก๋าของ เรอัล มาดริด อีกแล้ว โดย "เบนซ์" ซัดใส่ "หงส์แดง" ไปทั้งสิ้น 4 ประตู เท่ากับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา  

และทั้งหมดนี้คือสิ่งน่ารู้ที่เรานำมาฝากหลังรับทราบผลการจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

ชิน ชินพัฒน์

logoline