logo-heading

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ โชเซ่ มูรินโญ่ โดนไล่ออกจากตำแหน่งกุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือเป็นหนึ่งในข่าวที่ช็อควงการลูกหนังที่สุดประจำสัปดาห์นี้เลย เพราะไม่ได้มีกลิ่น ไม่ได้มีข่าวลืออะไรออกมาเลย อยู่ๆ ก็เด้งฟ้าผ่าพ้นเก้าอี้ไปซะงั้น ทั้งๆ ที่สุดสัปดาห์นี้ "น้ามู" กำลังจะพาทัพ "ไก่เดือยทอง" ลงเล่นนัดชิง คาราบาว คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้วแท้ๆ แถมยังต้องมาเสียค่าไล่ออกอีก 20 ล้านปอนด์ด้วย

  แต่ที่ทำให้งงหนักมากขึ้นไปอีกก็คือ กุนซือขัดตาทัพที่เข้ามาคุมแทน หาใช่กุนซือชั้นนำดังๆ หรือประสบการณ์โชกโชนอะไร แต่ดันเอาลูกหม้อของทีมที่ตอนนี้อายุแค่ 29 ปีเท่านั้นอย่าง ไรอัน เมสัน เข้ามาคุมขัดตาทัพแทนจนถึงจบฤดูกาลนี้ ซึ่งเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ทันได้รู้จัก อดีตกองกลางของ สเปอร์ส ผู้นี้ ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักเขากันสักหน่อยดีกว่า กุนซือป้ายแดงของ สเปอร์ส มีชื่อเต็มว่า ไรอัน เกล็นน์ เมสัน เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1991 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีความสนใจในกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก และได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ "ไก่เดือยทอง" ตั้งแต่ 8 ขวบ และได้ลงเปิดซิงกับทีมชุดใหญ่เกมแรกในฤดูกาล 2008/09 ในถ้วย ยูฟ่า คัพ โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน เดวิด เบนท์ลี่ย์ แต่ก็ได้ลงเล่นแค่เกมเดียวทั้งฤดูกาล  จากนั้นก็ถูกปล่อยยืมยาวจนแฟนบอลเกือบลืมหน้า โดยย้ายไปอยู่กับทั้ง เยโอวิล ทาวน์, ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส, มิลล์วอลล์, ลอริยองต์ และ สวินดอน ทาวน์ ก่อนจะได้กลับมามีชื่อในทีมชุดใหญ่อีกครั้งแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ตอนฤดูกาล 2014/15 โดยซีซั่นนั้นเจ้าตัวลงเล่นไป 37 นัด ยิงได้ 2 ประตู แต่แม้จะได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้น แต่ฟอร์มก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไรมากมาย เรียกว่า ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏก็ได้ จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ฮัลล์ ซิตี้ ก็ยื่นสินสอด 13 ล้านปอนด์ พรากเด็กปั้นจากทีมเยาวชน "ไก่เดือยทอง" ไปร่วมทีม สรุปแล้ว เมสัน ลงเล่นให้ สเปอร์ส ไปทั้งสิ้น 70 นัด ซัด 4 ประตู  ซึ่งแน่นอนว่าการทุ่มเงิน 13 ล้านปอนด์ เป็นสถิติสโมสร ณ เวลานั้น สำหรับทีมเล็กๆ อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ถือว่าแพงมาก ดังนั้น เมสัน จึงถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงว่าจะมาช่วยบัญชาเกมแดนกลาง และยกระดับทัพ "เดอะ ไทเกอร์ส" ได้ ทว่ายังไม่ทันจะปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้ ก็มาเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพค้าแข้งของ พ่อหนุ่มเมสัน ไปตลอดกาล 22 มกราคม 2017 ในเกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง ฮัลล์ ซิตี้ กับ เชลซี มีจังหวะที่ เมสัน กระโดดขึ้นแย่งโหม่งกับ แกรี่ เคฮิลล์ แนวรับทัพ "สิงห์บลูส์" แต่ดันพลาดศรีษะปะทะกันอย่างจัง ซึ่งผลปรากฏว่าศรีษะของ เมสัน ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักรวมไปถึงสมองด้วย ต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวยาวไร้กำหนด สุดท้ายหลังพักฟื้นนานกว่า 13 เดือน สุดท้ายแม้ร่างกายภายนอกของเขาจะกลับมาดูเหมือนปกติทุกอย่างแล้ว แต่ก็ต้องตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดไปในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 ตามคำแนะนำของทีมแพทย์ ที่บอกว่าถ้าเสี่ยงกลับไปเล่นฟุตบอลอาชีพอีกก็มีสิทธิ์ที่จะเสียชีวิตได้ ฉะนั้น เมสัน จึงไม่มีทางเลือกต้องขอรีไทร์ในวัย 26 ปี โดย เมสัน ได้เปิดใจหลังตัดสินใจแขวนสตั๊ดว่า "พวกเขาบอกว่าถ้าผมกลับไปเตะบอล และเริ่มใช้หัวโหม่งบอลอีกครั้ง ภายใน 6 เดือนหรือปีหนึ่ง ผมอาจมีโอกาสที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมหรือโรคลมบ้าหมูภายในอายุ 28 หรือ 29 ปี พวกเขาบอกกับผมว่าการที่ผมหายดีมันก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว แต่การจะกลับไปเล่นบอลอีกครั้งอาจสร้างความเสียหายได้มากกว่านี้"  "ผมรู้ว่าตัวเองต้องรีไทร์ แล้วเวลาฟังข่าวมันสะเทือนใจที่ได้ยินมาก แต่ผมกับภรรยาเราเพิ่งมีลูกชายในเดือนธันวาคม และเมื่อผมมองเขา ผมก็คิดได้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน และผมมีความสุขแค่ไหน เขามอบสิ่งที่ทำให้ผมมีโฟกัสกับชีวิต และชีวิตผมตอนนี้ก็มอบให้กับเขา” อย่างไรก็ตามหลังจากรีไทร์ได้ไม่นาน สเปอร์ส ก็อ้าแขนรับศิษย์เก่ากลับเข้าเล้าอีกครั้ง โดยแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยกุนซือของทีมชุด U-19 ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ไม่รอช้าเอาเวลานี้ไปลงเรียนโค้ชไลเซนส์ต่างๆ ด้วย ทำความรู้จัก! ไรอัน เมสัน กุนซือป้ายแดงของ ไก่เดือยทอง เมื่อปีที่แล้ว เมสัน ก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้ขึ้นเป็น หัวหน้าทีมพัฒนาเยาวชนประจำสโมสร และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ เขาก็กลายเป็นกุนซือที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่แน่เขาอาจจะใช้เวลาแค่ 2 นัดพา "ไก่เดือยทอง" คว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์สโมสรที่รกร้างหยากไย่เกาะมานานนับสิบปีก็เป็นได้ หากสามารถหักปากกาเซียนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิง คาราบาว คัพ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ได้ และมันอาจจะทำให้เขาได้รับสัญญาถาวรไปเลย ก็เป็นได้.. ….  

ชิน ชินพัฒน์

logoline