อย่างที่พวกเราเหล่าแฟนบอลรู้กันดีว่าการขับเคี่ยวแย่งแชมป์ ลา ลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้มันสูสีกันมากกกกก ต้องมาลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายระะหว่าง 2 ทีมจากเมืองหลวง แอตเลติโก มาดริด (83 คะแนน) กับ เรอัล มาดริด (81 คะแนน)
แต่หากย้อนไปสักเกือบ 2 สัปดาห์ก่อนมันได้ลุ้นกันมันส์หยอดมากกนี้อีก เพราะมีอีก 2 ผู้ร่วมลุ้นแย่งแชมป์นั่นคือ บาร์เซโลน่า ขาประจำ กับอีกหนึ่งทีมที่ก็เป็นระดับท้อปของลีก แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาได้ลุ้นยันช่วงโค้งสุดท้ายขนาดนี้นั่นก็คือ เซบีย่า ของ ฆูเลน โลเปเตกี อดีตกุนซือทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด นั่นเอง ซึ่งเกือบจะสร้างเซอร์ไพร้ส์ต่อยอดความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ฤดูกาลก่อนมาเป็นแชมป์ ลา ลีกา ซะแล้ว แต่ก็มาพลาดช่วงท้ายซีซั่นทำให้ไล่พวกหัวตารางไม่ทัน กระนั้นต้องบอกว่า เซบีย่า เป็นทีมที่ดีและแข็งแกร่งมากทีมนึง ซึ่งหากใครไม่ค่อยได้ติดตามว่าแกนหลักตัวหลักของพวกเขาที่เป็นส่วนสำคัญพาทีมมาลุ้นแชมป์ถึงโค้งสุดท้ายได้ขนาดนี้คือใคร วันนี้เราขอแนะนำ 4 คีย์แมนของ เซบีย่า ประจำฤดูกาลนี้ครับ (ซึ่งจริงๆ มีอีกเยอะนะ แต่คัดมาแค่นี้ก่อน)1.ชูลส์ กุนเด้
เริ่มต้นคนแรกที่ถือว่าเป็นแนวรับดาวรุ่งที่เนื้อหอมที่สุดคนนึงในยุคนี้ นั่นก็คือ ชูลส์ กุนเด้ วัย 22 ปี ที่ฤดูกาลนี้ลงสนามในฐานะกำลังสำคัญให้ เซบีย่า ไปแล้วมากถึง 48 นัด ทำได้ 4 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ เรียกได้ว่าเป็นแข้งที่ เซบีย่า จะขาดไปไม่ได้เลย แม้เจ้าตัวจะไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่บึกบึนตามสไตล์กองหลัง ทว่าก็มีความแข็งแกร่ง ว่องไว จ่ายบอลเยี่ยม เซ้นส์บอลดี มีทักษะ เรียกได้ว่าค่อนข้างครบเครื่องเรื่องเกมรับเลยทีเดียว 25 ล้านยูโร เป็นราคาที่ เซบีย่า ยอมจ่ายให้ บอร์กโดซ์ เพื่อคว้าตัว กุนเด้ มาขันเกมรับ เมื่อปี 2019 ซึ่งตอนนี้ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าตัวทุกบาททุกสตางค์ แถมยังตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมใหญ่ ประเมินราคาคร่าวๆ ตอนนี้ว่ากันว่าถ้า เซบีย่า ยอมขายไม่น่าจะได้ต่ำกว่า 50 ล้านยูโร และล่าสุดก็เพิ่งถูก ดิดิเยร์ เดช็องส์ เรียกตัวไปติดธงลุ้นเปิดซิงกับทีมชาติฝรั่งเศส ในศึกยูโร เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย2.ยูสเซฟ เอ็นเนซีรี่
ว่าที่ดาวซัลโวสูงสุดประจำทีมในฤดูกาลนี้ ซึ่งยังไง 99.99% ก็ได้แน่นอนแหละ รอแค่เป็นทางการเท่านั้น เพราะซีซั่นนี้พี่แกตะบันไปแล้ว 24 ประตู ทิ้งห่างคนที่ตามมาอยู่เป็น 10 ลูก เอ็นเนซีรี่ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกกับ เซบีย่า ของหัวหอกทีมชาติโมร็อกโก ทำไปได้แค่ 6 ประตู จาก 26 นัด ทำให้หลายฝ่ายมองว่าค่าตัว 20 ล้านยูโร ที่ เซบีย่า ควักจ่ายให้ เลกาเนl เมื่อปี 2019 น่าจะเสียเปล่า ทว่ามาในฤดูกาลนี้ ก็อย่างที่บอกไป ดาวยิงวัย 23 ปีสามารถปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้เป็นที่เรียบร้อย และยิงเอาๆ จนขึ้นมานำเป็นดาวยิงประจำทีม และปัจจุบันรั้งอันดับที่ 5 ในชาร์ตดาวซัลโว ลา ลีกา สเปนในฤดูกาลนี้อยู่ด้วย และยิ่งไปกว่านั้น 18 ประตูใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ ก็เป็นการยิงจากในกรอบเขตโทษทุกลูก ซึ่งนี่แหละแสดงให้เห็นว่าเขาคือกองหน้าตัวเป้าที่แท้จริง3.แฟร์นานโด
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนที่ แฟร์นานโด ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับ กาลาตาซาลาย ในลีกตุรกี แฟนบอลหลายรายก็แทบไม่คิดว่าจะได้เห็น แฟร์นานโด กลับมาค้าแข้งใน 5 ลีกดังของยุโรปอีกแล้ว หรือถ้ากลับมาก็คงจะเป็นทีมครึ่งล่างของตารางอะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่เลยกลายเป็นว่าในปี 2019 เซบีย่า ก็ไปกระชากตัวน้าแกกลับมาด้วยค่าตัว 4.5 ล้านยูโร ซึ่งคิดว่าน่าจะให้เอามาไว้เป็นอะไหล่ คงเป็นตัวหลักแบกทีมไม่น่าไหว แต่ก็ไม่ใช่เลยอีกแล้วเพราะ แฟร์นานโด ที่กำลังจะอายุเข้า 34 ปี กลับทำได้ดีเกินคาด ได้รับโอกาสลงเล่นแล้วพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้ง พร้อมกับกลายเป็นตัวหลักของทีมไปซะงั้น ซึ่งเดิมทีจุดเด่นของพี่แกจะเป็นเรื่องของเกมรับ แต่พอมาอยู่กับ เซบีย่า ดันมีการทำเกมรุกเข้ามาผสมด้วยเฉยเลย อย่างเช่นในฤดูกาลนี้ ลงเล่นให้ เซบีย่า ไปแล้วมากถึง 44 นัด ซัดไป 3 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ นี่เสียดายที่มีโดนแบนกับเจ็บแฮมสตริงไปพักนึง ไม่งั้นได้ลงเยอะกว่านี้แน่นอน ซึ่งในวัยย่าง 34 ปีแบบนี้การลงเล่นเกือบ 50 นัด/ฤดูกาล กับทีมระดับนี้นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย4.ลูคัส โอคัมโปส
หากย้อนกลับไปหลังจบฤดูกาลที่แล้ว ลูคัส โอคัมโปส คือหนึ่งในนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดในยุโรป เพราะทำผลงานกับ เซบีย่า ได้อย่างยอดเยี่ยม ชนิดเกินคาดอีกแล้ว เป็นตัวหลักสำคัญที่ช่วยให้ เซบีย่า คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาลของสโมสรที่จำนวน 17 ประตู แถมยังติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก ยูโรปา ลีก อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นปีทองของเจ้าตัวเลยทีเดียว ผลงานดีขนาดนี้ทีมยักษ์ใหญ่ก็รุมของขนมจีบ ทว่าสุดท้าย เซบีย่า ก็สามารถรั้งตัว ปีกวัย 26 ปีให้อยู่กับทีมได้ต่อในฤดูกาลนี้ ทว่าต้องยอมรับตามตรงว่าแม้ซีซั่นนี้ฟอร์มของ โอคัมโปส จะดรอปลงไปจากเดิม แต่ก็ยังเป็นตัวหลักกำลังสำคัญที่ถูกรับเลือกส่งลงสนามเป็นตัวจริงอยู่เสมอ โดยซีซั่นนี้ลงเล่นไปแล้ว 45 นัด ซัด 8 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ แม้จะไม่เปรี้ยงเท่าเดิมแต่ก็ปฏเสธไม่ได้ว่า โอคัมโปส เป็นคนสำคัญที่ เซบีย่า จะขาดไม่ได้ และทำให้ทีมได้ลุ้นแชมป์มาจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนจะหลุดกรอบไปใน 2 เกมสุดท้ายของฤดูกาลชิน ชินพัฒน์