logo-heading

เป็นที่ทราบกันแล้วว่า แชมป์ ลา ลีกา สเปน ประจำฤดูกาล 2020-21 ตกเป็นของ แอตเลติโก มาดริด ที่สามารถล้ม 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ลงได้ ซึ่งนัดปิดซีซั่น ต้องบอกเลยว่าโคตรสนุก ลุ้นกันแบบนาทีต่อนาที ว่าระหว่าง "ตราหมี" กับ "ราชันชุดขาว" ใครจะซิวโทรฟี่ไปครอง

เรียกว่าเกือบจะมีดราม่าอยู่ในบทละครเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะในช่วงของการแข่งขัน ทั้ง 2 ทีม ตกเป็นฝ่ายตามหลังเหมือนกันหมด ทำเอาแฟนบอลหัวใจแทบวาย เพราะถ้าพลาดนัดนี้ไม่มีให้แก้ตัวอีกแล้ว เผื่อใครไม่ได้ติดตามแบบเรียลไทม์ ก็เลยจะพาไปดูไทมไลน์สำคัญว่าการแย่งลุ้นแชมป์ มันน่าตื่นเต้นขนาดไหน

- เกริ่นเรียกน้ำจิ้ม

ก่อนจะไปติดตามไทมไลน์อันดราม่า ของการแข่งชิงโทรฟี่ "ลา ลีกา สเปน" นัดสุดท้ายของซีซั่น ระหว่าง แอตเลติโก มาดริด กับ เรอัล มาดริด ต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าหากทั้ง 2 ทีม มีผลการแข่งขันเหมือนๆกัน ทีมที่จะเข้าวินเป็นอันดับ 1 ได้แก่ "ตราหมี" เพราะตารางคะแนนก่อนฟาดแข้ง แอต. มาดริด นำเป็นจ่าฝูง แข่ง 37 นัด มี 83 คะแนน ขณะที่ เรอัล มาดริด ตามหลังอยู่ 2 แต้ม หมายความว่า "ตราหมี" ขอแค่เก็บชัยชนะ ไม่ว่ายิงกี่ลูกก็ตาม จะคว้าแชมป์มาครองทันที โดยไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ส่วนทาง "ราชันชุดขาว" 3 แต้ม อาจไม่เพียงพอต่อการคว้าแชมป์ เพราะเขาต้องแช่งให้ "ตราหมี" สะดุดเสมอ หรือไม่ก็พ่ายแพ้ไปเลย เนื่องจาก มาดริด มี เฮด-ทู-เฮด ดีกว่า แอต. มาดริด เพราะ 2 นัดที่เคยพบกัน เสมอ 1-1 และ ชนะ 2-0 ดังนั้นถ้าเกิดกรณีแต้มเท่ากัน มาดริด จะคว้าแชมป์ เรียกว่าเป็นการลุ้นแชมป์นัดสุดท้าย ที่น่าตื่นเต้นเหลือเกิน

- สงสัย ตราหมี ไม่อยากแชมป์

อย่างที่เกริ่นไปครับพี่น้อง แค่ ตราหมี เก็บชัยชนะ ก็จะคว้าแชมป์ทันที ไม่ว่าสกอร์จะจบเท่าไหร่ก็ตาม แต่แล้วขบวนผ้าป่า แอตเลติโก มาดริด ก็เหมือนจะมีปัญหากลางทาง ใครๆก็คงคิดว่าชนะได้ไม่ยาก แต่ในขณะที่กำลังครองบอลใส่ เรอัล บายาโดลิด เพื่อหวังยิงประตูให้เร็วที่สุด คลายความกดดัน แต่แล้ว เกมสวนกลับของ บายาโดลิด แผลงฤทธิ์ใส่ทันที เมื่อตัดบอลกลับมาได้ จากจังหวะเตะมุมของ ตราหมี เพียงแค่การต่อบอล 3-4 ครั้งของฝั่งเจ้าบ้าน จากเกมรับ กลายเป็นเกมรุก ออสการ์ ปลาโน่ ได้หลุดเดี่ยวสปีดควบเป็นม้าเข้าไปดวลกับ แยน โอบลัค นายทวาร ตราหมี ก่อนจะเลือกยิงเบียดเสาแรกให้กับ เรอัล บายาโดลิด บุกขึ้นนำแบบช็อคโลก !! เพราะไม่มีใครกล้าคิดหรอกว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์ขึ้นนำ "ตราหมี" เรียกว่าประตูนี้ กลายเป็น เรอัล มาดริด ที่มีโอกาสเป็นพลิกเป็นแชมป์ ลา ลีกา สเปน ขอแค่ประตูแรกมาให้เร็ว เพื่อโยนความกดดันกลับไป

- ยาดมต้องเข้าเมือง มาดริด

หรือว่า เรอัล มาดริด กลัวเรื่องราวมันจะไม่ดราม่า กลัวแฟนบออลไม่สนุกตื่นเต้น เพราะ แอต. มาดริด อุตส่าห์ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งในนาทีที่ 18 ดังนั้นโมเมนตั้มมันควรกลับมาอยู่ที่ "ราชันชุดขาว" แบบเต็มๆ แต่ใครจะเชื่อล่ะครับว่า ให้หลังที่ "ตราหมี" โดนยิงแบบ "ตดยังไม่ทันหายเหม็น" เพียงแค่ 2 นาที มาดริด ของ ซีดาน ก็มาโดน บียาร์เรอัล บุกขึ้นนำแบบช็อคแฟนบอลเช่นกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่แนวรับของ "ราชันชุดขาว" เคลียร์สกัดกันไม่ขาด ไปเข้าทาง เคราร์ด โมเรโน่ ตรงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ หยอดเข้ามาจรงกลางประตูให้กับ เยเรมี ปิโน่ เกี่ยวบอลหนีตัวประกบ ก่อนจะซัดเข้าไป เชื่อว่าประตูนี้ของ บียาร์เรอัล แทบจะทำให้แฟนบอล มาดริด เป็นลมล้มฟุบไปเลย เพราะคงมีความหวังมากขึ้นหลายขุม จากการที่ ตราหมี โดนนำ แต่ว่าทีมรักพวกเขาก็กลายเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งเช่นกัน แหม่ดราม่ากันแบบนี้ "ยาดมต้องเข้าเป็นสปอนเซอร์แล้วล่ะครับ" แฟนบอลจะหัวใจวายเอาได้

- มาดริด มีโอกาสตีเสมอก่อน

หลังจากที่ ตราหมี กับ ราชันชุดขาว ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง และ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-1 เหมือนกัน พอเริ่มครึ่งหลังมาดูทาง แอต. มาดริด จะมีความกระตือรือร้นมากกว่า พยายามทำเกมบุกเพื่อจะยิงประตูตีเสมอ เรอัล บายาโดลิด ให้ได้ ตั้งแต่นกหวีดครึ่งหลังดังขึ้น แต่มันก็เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ส่วนทาง มาดริด ดูจะเฉื่อยชาเหลือเกิน เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนมาเล่นบอล เพราะเวลาที่ บียาร์เรอัล ครองบอล พวกเขาไม่ค่อยวิ่งไล่สักเท่าไหร่ ปล่อยให้คู่แข่งเซ็ตต่อบอลกัน แต่กระนั้นกลับกลายเป็นว่า "ราชันชุดขาว" มีโอกาสที่จะยิงตีเสมอคู่แข่งก่อน  เมื่อ คาริม เบนเซม่า เป็นคนโหม่งส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายได้แล้ว เติมความหวังเรื่องการลุ้นแชมป์กลับมา แต่กระนั้นความหวังมันดับลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อ VAR ฟ้องว่า ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้ผู้ตัดสินริบสกอร์ มาดริด คืน และ ยังคงตามหลังคู่แข่งเหมือนเดิม กลายเป็นดีใจเก้อซะอย่างนั้น

- สาวก "ตราหมี" เฮลั่น ซัดตีเสมอ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด เท่านั้น ไม่ต้องไปฟังเสียงใคร ทำให้ลูกทีม ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ตั้งหน้าตั้งตาบุกใส่เพื่อหวังประตูตีเสมอ จนกระทั่ง อังเคล กอร์เรอา ใช้ความสามารถเฉพาะตัว แหวกตัวผู้เล่น เรอัล บายาโดลิด ในพื้นที่แคบ 2-3 คน  ก่อนที่ อังเคล กอร์เรอา จะโชว์ทักษะบ้านๆด้วยการยิงจิ้มหัวเกือก เน้นทิศทาง ไม่เน้นแรง บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างหมดจด เป็นประตูตีเสมอให้กับ แอตเลติโก มาดริด 1-1 นาที 57 ส่งผลให้โมเมนตั้มกลับมาอยู่ที่ "ตราหมี" อีกครั้ง ในการเข้าป้ายคว้าแชมป์

- สตอรี่เรื่องนี้เขียนให้ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นพระเอก

เมื่อคุณเป็นคนยื่นหอกให้กับศัตรู และ คนนั้นยิงให้คุณหมดลุ้นแชมป์ คุณจะรู้สึกอย่างไรบ้าง เพราะ บาร์เซโลน่า เป็นคนส่ง หลุยส์ ซัวเรซ มาให้กับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยเหตุผลประมาณว่า "ดาวเตะทีมชาติอุรุกวัย" แก่เกินแกงไปแล้ว อารมณ์เหมือนคงไม่มีพิษสงอะไรแล้วในลีกสูงสุด แต่กระนั้น "คิงหลุยส์" เหมือนเป็นหนามยอกอก เนื่องด้วยเขาทำให้ บาร์ซ่า หมดลุ้นแชมป์ในนัดสุดท้าย ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอล "เจ้าบุญทุ่ม" ไม่มีใครโกรธ ซัวเรซ เลยสักนิดครับ แต่อยากจะ"เบิ๊ดกะโหลก" พวกผู้บริหารมากกว่า โดยเฉพาะ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธานสโมสร บาร์เซโลน่า กระทั่งมาถึงนัดสุดท้ายของซีซั่น หลุยส์ ซัวเรซ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า "เขายังไม่แก่เกินแกง" และ "ยังมีพิษสง" ที่จะสร้างผลงานอันแสนวิเศษบนเวทีลูกหนังได้เหมือนสมัยหนุ่มๆ เพราะเขาเป็นคนยิงประตูให้กับ ตราหมี แซงขึ้นนำ เรอัล บายาโดลิด 2-1 เป็นประตูที่ 21 ตลอดฤดูกาล 2020-21 ซึ่งหากจบสกอร์นี้ เขาจะพาทีมเป็นแชมป์ ลา ลีกา สเปน ทันที

- มาดริด กลับมาแซง แต่ก็ไร้ประโยชน์

"ความพยายามบางครั้ง ต่อให้มันสำเร็จ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว" เพราะต่อให้ เรอัล มาดริด จะพลิกกลับมายิงแซง บียาร์เรอัล 2-1 จาก คาริม เบนเซม่า นาที 87 และ ลูก้า โมดริช นาที 90+2 แต่กระนั้นเหมือนอย่างที่พี่กบ ทรงสิทธิ์ ได้เคยเอื้อนเอ่ยเอาไว้ว่า "ปาฏิหาริย์ ไม่มีจริง" เนื่องด้วยขณะนั้น "ตราหมี" ก็นำ บายาโดลิด อยู่ 2-1 เช่นกัน ต่อให้ มาดริด จะยิงอีก 10 ลูก ก็ไม่มีเพียงพอที่จะทำแต้มแซงหน้า แอตเลติโก มาดริด โดยต้องลุ้นให้คู่แข่งถูกตีเสมอเท่านั้น ถึงแม้ว่านักเตะ ราชันชุดขาว ในสนาม จะมีความหวังขึ้นมา เพราะจากปฏิกิริยาที่ดีใจกันสุดขีด แต่พอหลังจบเกมความผิดหวังก็ถาโถม เมื่อรู้ว่าชัยชนะครั้งนี้มันไม่เพียงพอ เป็นอันว่า แอตเลติโก มาดริด เข้าป้ายเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน มาครองเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 7 ปี ภายใต้การคุมทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ขณะที่ เรอัล มาดริด จบเพียงแค่พระรองเท่านั้น ส่งผลให้ปีนี้ลูกทีม ซีเนอดีน ซีดาน จบซีซั่นแบบมือเปล่า

ฮาย ฮาวดี้-

ไทมไลน์ ตราหมี-มาดริด แย่งแชมป์ ลา ลีกา หวิดดราม่านัดส่งท้าย
logoline