ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ชาวเฟร้นช์แมน ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจอำลาตำแหน่งกุนซือ เรอัล มาดริด
ซีเนดีน ซีดาน พา
เรอัล มาดริด เถลิงบัลลังก์แชมป์
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 3 สมัย รวมไปถึงแชมป์
ลา ลีกา อีก 2 สมัย จากการคุมทีม 2 คำรบ ก่อนจะตัดสินใจอำลาทีมไปในฤดูกาลที่ไม่มีถ้วยแชมป์เลยแม้แต่โทรฟี่เดียว
ซีเนดีน ซีดาน ให้สัมภาษณ์ว่า
"ถึงแฟนๆ เรอัล มาดริด พวกคุณแสดงความรักต่อผมตั้งแต่วันแรกที่ผมมาถึง มาดริด และได้สวมชุดสีขาว ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ผมอยากเขียนจดหมายนี้เพื่อเอ่ยคำอำลาถึงพวกคุณ และชี้แจงเหตุผลที่ผมตัดสินใจอำลา"
"ถึงผมจะออกมาแล้ว แต่ผมไม่ได้จะไปรับงานกับที่อื่น หรือรู้สึกเหนื่อยกับงานโค้ชเลย ในเดือนพฤษภาคม ปี 2018 ผมออกไปหลังจากอยู่กับทีมมา 2 ปีครึ่ง ผมคว้าชัยชนะและแชมป์มากมาย ผมรู้สึกว่าทีมต้องการวทำทีมในรูปแบบใหม่เพื่อโลดแล่นในเกมระดับสูงสุดต่อไป แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ผมลาออกเพราะผมรู้สึกว่าสโมสรไม่เชื่อมั่นในตัวผม และไม่สนับสนุนผมในการสร้างทีมในระยะกลางและยาว"
"ผมเข้าใจโลกของฟุตบอล ผมรู้ความต้องการของสโมสรแบบ เรอัล มาดริด ผมรู้ว่าเมื่อคุณไม่ได้แชมป์ คุณต้องไป แต่มันกลายเป็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดดันถูกลืมไป สิ่งที่ผมสร้างมาในทุกๆ วันมันถูกลืมไปแล้ว สิ่งที่ผมใช้สร้างความสัมพันธ์กับนักเตะ และอีก 150 คนในสโมสรถูกลืมไปหมดเลย"
"ผมเกิดมาเป็นผู้ชนะ ผมอยู่ที่นี่เพื่อคว้าแชมป์ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ผู้คน, ความรู้สึกของพวกเขา, ชีวิตของพวกเขา และผมไม่คิดว่ามันถูกนำไปเกี่ยวข้องด้วย สโมสรยังถูกมองว่าล้มเหลว ทั้งที่คนเหล่านี้ช่วยสโมสรขับเคลื่อนไปข้างหน้า"
"ผมต้องการความเคารพสำหรับสิ่งที่เราประสบความสำเร็จร่วมกัน ผมอยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับสโมสรและท่านประธานในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาดูแตกต่างไปจากโค้ชคนก่อน ๆ ผมไม่ได้ร้องขอสิทธิพิเศษ มันไม่ใช่เลย ขอแต่ให้นึกถึงมันบ้างแค่นั้น"
"ทุกวันนี้โค้ชทีมใหญ่ๆ มีเวลาทำงานแค่ 2 ซีซั่ย ดังนั้นการรักษาความสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำคัญกว่าเงินทอง สำคัญกว่าชื่อเสียง สำคัญกว่าทุกๆ สิ่งทุกๆอย่าง มันต้องได้รับการเอาใจใส่"
"นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดมากสุดๆ ตอนผมอ่านข่าวบนหน้าสื่อหลังจากที่เราแพ้ และพบว่าผมจะถูกปลดถ้าผมไม่ชนะในนัดถัดไป ผมเจ็บปวดมาก ทุกคนในทีมก็เจ็บปวดนะ เพราะมันเป็นการตั้งใจปล่อยให้ข่าวไปถึงพวกสื่อ มันส่งผลด้านลบต่อทีม พวกเขาสร้างความสงสัยและความเข้าใจผิดขึ้นมา"
"โชคดีที่ผมยังมีลูกทีมที่น่าทึ่งที่และสู้ตายไปกับผม เมื่อสิ่งต่างๆ กำลังดูเลวร้าย พวกเขาช่วยผมด้วยการเก็บชัยชนะ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวผม และก็รู้ว่าผมเองก็เชื่อมั่นในตัวพวกเขาเช่นกัน"
ที่มา : goal
