ไม่ต้องให้แฟนๆ รอลุ้นนาน เพราะใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ในที่สุด เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ก็ประกาศชื่อกุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ซีเนอดีน ซีดาน เฮดโค้ชคนเก่าที่เพิ่งแยกทางกันไปออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งคนที่เข้ามาใหม่นี้แม้จะเป็นคนใหม่หน้าเก่าแต่ถือว่าเซอร์ไพร้ส์ไม่น้อยเพราะเอาจริงๆ ไม่ค่อยมีข่าวกันมาก่อนว่าจะหวนกลับมารับงานรอบ 2 และไม่ได้เป็นตัวเต็งที่สื่อพูดถึงด้วย ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตกุนซือผู้เคยพาทัพ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ยุโรปมาแล้วเมื่อปี 2014
ทว่าก่อนหน้านี้ หลังจากที่ประกาศแยกทางกับ "ซิซู" ไป เรอัล มาดริด ก็ตกเป็นข่าวกับกุนซือชื่อดังหลายต่อหลายคน แต่สุดท้ายก็คดีพลิกกลับมาจบที่ม้ามืดและคนคุ้นเคยอย่าง "อันเช่" ซะอย่างงั้น ซึ่งช่วงเวลาเกือบสัปดาห์นี้ที่ "ราชันชุดขาว" เสาะหากุนซือใหม่ มันเกิดอะไรขึ้นบ้างทำไมสุดท้ายแล้วหวยมันดันมาตกที่ อันเชล็อตติ แทนที่จะเป็นพวกตัวเต็งต่างๆ เราไปไล่เรียงกันดูหน่อยดีกว่า
เริ่มต้นที่คนแรกซึ่งว่ากันว่าเป็นเต็ง 1 เลยด้วยซ้ำที่จะได้เข้ามาสานงานต่อจาก ซีดาน คนๆ นั้นก็คือ อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดโค้ชชาวอิตาเลี่ยนที่โบกมือลาแยกทางกับ อินเตอร์ มิลาน แทบจะพร้อมๆ กับ ซีดาน เรื่องฝีมือความเก่งกาจ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า คอนเต้ คือของจริง ฉะนั้นเมื่อว่างงาน แล้ว มาดริด ก็กำลังหากุนซือใหม่อยู่ มันก็ไม่แปลกเลยที่ คอนเต้ จะกลายมาเป็นตัวเต็ง
ทว่าอาจจะเพราะด้วยนิสัยส่วนตัว ความเฮี้ยบ เจ้าระเบียบ และไม่ยอมใครโดยเฉพาะพวกบอร์ดบริหาร ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ คอนเต้ ต้องแยกทางกับหลายทีมแล้ว แม้จะทำทีมประสบความสำเร็จก็ตามที ซึ่งอุปนิสัยแบบนี้ บอกเลยว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธาน เรอัล มาดริด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเผด็จการความไม่ยอมคนเหมือนกัน ไม่ชอบแน่นอน แล้วถ้าให้เดา เปเรซ ก็คงคิดว่าถ้าเอา คอนเต้ มาคงตีกันตายห่าปวดประสาทป่าวๆ ก็เลยไม่เอา
ยิ่งถ้าฟังจากส่วนนึงในบทสัมภาษณ์กึ่งแฉของ ซีดาน ถึงเหตุผลที่บอกลา เรอัล มาดริด ที่บอกว่า "ครั้งนี้ผมลาทีม เพราะผมรู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากสโมสรอย่างที่ผมต้องการ พวกเขาไม่ได้สนับสนุนผมเท่าที่ควรในการวางแผนเพื่อความสำเร็จในระยะกลางและระยะยาว” ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าถ้า คอนเต้ มาจริง อยู่ไม่ได้แน่นอน เผลอๆ จะต่อยกับ เปเรซ ด้วยซ้ำ!
ต่อมาอีกหนึ่งตัวเต็งก็คือ ราอูล กอนซาเลซ ตำนานดาวยิงทัพ "ราชันชุดขาว" ที่ปัจจจุบันรับหน้าที่เป็นกุนซือทีมสำรองของ มาดริด อยู่ แต่ด้วยศักยภาพทีมของ เรอัล มาดริด ชุดนี้ มันไม่น่าไหวสำหรับกุนซือหน้าใหม่อย่าง ราอูล แม้จะได้ความเคารพจากนักเตะในฐานะตำนาน แต่ในเรื่องของศักยภาพฝีมือโค้ช และประสบการณ์อาจจะแบกรับความกดดันนี้ไม่ไหว ฉะนั้นก็ให้อยู่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในทีมสำรองต่อไปก่อนดีกว่า ไม่งั้นถ้าโยกมาคุมชุดใหญ่ เกิดพังขึ้นมาจากที่แฟนๆ สรรเสริญเชิดชู อาจจะโดนด่าโดนไล่เปิง หมดคราบตำนานก็เป็นได้
พูดถึง ราอูล แล้วก็ขอพูดถึง กูตี อีกสักคนละกัน เพราะนี่ก็ถือเป็นกองกลางระดับตำนานของทัพ "ราชันชุดขาว" เช่นกัน แม้ฝีเท้าจะไม่ได้โดดเด่นชนิดขึ้นไปติดเบอร์ต้นๆ ของโลก แต่ก็ทำได้ดีพอสมควร และอยู่กับทีมนานถึง 15 ปี และก็เคยคุมทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด มาก่อนด้วย ก่อนจะได้เป็นนายใหญ่เต็มตัวกับ อัลเมเรีย แต่ผลงานก็ไม่ได้ดี แถมมีข่าวว่าพาลูกทีมไปเมาปลิ้นที่ไนท์คลับหลังเกมที่แพ้คู่แข่งอีกด้วย และคุมทีมไปได้แค่ 22 นัดก็โดนไล่ออก เมื่อปี 2020 แล้วก็ว่างงานมาจนถึงตอนนี้ ผลงานแบบนี้ "ราชันชุดขาว" คงไม่กล้าเสี่ยง ต่อให้เป็นอีกหนึ่งตำนานของทีมก็เหอะ
แม็กซ์ อัลเลกรี ก็เป็นอีกคนที่มีชื่อเข้ามาเอี่ยว ณ ตอนนั้นที่แยกทางกับ ซีดาน เมื่อ 6 วันที่แล้ว อัลเลกรี ยังว่างงานอยู่ แถมว่างมา 2 ปีแล้วด้วย แต่ข่าวก็เอนเอียงหนักไปทางว่าจะหวนกลับไปคุม ยูเวนตุส แต่ก็มีบางกระแสบอกว่าไม่ใช่ สุดท้ายจะเป็น ซีดาน ที่ไปคุม "ยูเว่" แล้ว อัลเลกรี มาอยู่ มาดริด ต่างหาก ทว่าสุดท้ายก็อย่างที่เรารู้กัน อัลเลกรี ตัดสินใจกลับไปรับงานที่ตูริน หวนคุมทัพ "ไอ้ม้าลาย" เป็นคำรบที่ 2 เรียบร้อย ซึ่งจริง ๆ น้าแม็กซ์แกก็สนนะ แต่ว่าชุดขาวก็มัวแต่ช้าไม่ติดต่อไปเสียมี ก็เลยกลับถิ่นเก่าดีกว่า
อีกคนที่ตอนนี้ก็เนื้อหอมไม่เบานั่นคือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ของ เปแอสเช ซึ่งเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่ถึงปี แต่ก็มีข่าวว่าเริ่มไม่ค่อยอยากคุมทีมต่อแล้ว และที่น่างงกว่านั้นก็คือมีข่าวลือหนักว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมเก่าของเขาที่เคยไล่เขาออก กำลังตามจีบอยากได้กลับไปคุมทีม และ "พอช" เองก็แอบปันใจให้ด้วย เรื่องนี้ยัไม่ได้บทสรุป แต่ "ราชันชุดขาว" ก็คงมองว่าเรื่องเยอะทีมเก่าก็อยากได้ แถมทีมปัจจุบันก็ระดับมหาเศรษฐีอย่าง "เปแอสเช" ซึ่งถือเป็นคู่แข่งกันโดยตรงในถ้วยยุโรป คงไม่ยอมปล่อยออกมาง่ายๆ ไม่คุยด้วยดีกว่า แถมก่อนหน้านี้ โปเช็ตติโน่ ก็เคยตกเป็นข่าวกับ บาร์เซโลน่า คู่ปรับร่วมลีกอีกต่างหาก
คนสุดท้าย โยอาคิม เลิฟ คนนี้ก็เป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ เพราะพี่แกจะกลายเป็นกุนซือว่างงานหลังจบศึก ยูโร 2020 (2021) หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติเยอรมัน ที่พี่แกอยู่คุมมาตั้งแต่ปี 2006 แบบล่วงหน้า แล้วก็ได้ ฮันซี่ ฟลิค เข้ามาคุมแทนเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นก็ไม่แปลกที่โค้ชระดับนี้จะถูกเชื่อมโยงกับทีมระดับโลกอย่าง เรอัล มาดริด แต่ก็ต้องรอให้จบ ยูโร ก่อน ถึงจะทำงานได้เต็มที่ เรอัล มาดริด เลยไม่อยากจะรอ เพราะต้องรีบวางแผนซื้อ-ขายนักเตะรวมถึงคุยโปรเจ็คต์ต่างๆ น่าๆ สุดท้าย เปเรซ ก็เลยไม่รอ เพราะของแบบนี้ยิ่งแต่งตั้งเร็วยิ่งดีกับทีม
สุดท้ายหวยมันมาออกที่ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตกุนซือของทีมเมื่อปี 2013-2015 ได้หวนกลับมาคุมทัพ "ราชันชุดขาว" อีกครั้ง แบบจู่ ๆ มีข่าวปุ๊ปไม่กี่ชั่วโมงให้หลังก็เป็นทางการเลย
ซึ่งจะว่าไปฤดูกาลที่ผ่านมา "พี่แจ้" ก็ทำผลงานในการคุม เอฟเวอร์ตัน ได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ด้วยนะ พาทัพ "ทอฟฟี่บลูส์" จบอันดับ 10 ของตาราง ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในซีซั่นหน้า ทว่าด้วยโปรไฟล์เก่าๆ บวกกับเคยพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว ณ เวลานี้ ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ "อันเช่" น่าจะเป็นคำตอบที่ เปเรซ มองแล้วว่า ใช่ที่สุด ส่วนจะใช่อย่างที่คิดหรือไม่ ปีหน้่าเราได้รู้กัน!
ชิน ชินพัฒน์
