logo-heading

ลองดูเหตุผลทั้งสองด้าน ที่สนับสนุนให้ อากิระ นิชโนะ ควรเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยต่อไป หรือควรแยกย้ายแล้วพอแค่นี้ อย่างไหนดี

"ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย จบภารกิจฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ด้วยการเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่มจี ซึ่งนั่นหมายความว่าตกรอบ และไม่ได้ไปต่อในรอบคัดเลือกรอบสาม หรือรอบ 12 ทีมสุดท้ายที่เคยทำได้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว นี่คือผลงานที่ล้มเหลวและน่าผิดหวังสุดๆ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือระดับอ๋องจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง "อากิระ นิชิโนะ" ที่ดูเหมือนจะเอาชื่อเสี่ยงที่สั่งสมมาตลอดทั้งชีวิตมาทิ้งที่เมืองไทยซะอย่างนั้น อย่างไรก็ดีสัญญาของกุนซือจากแดนปลาดิบผู้นี้ยังมีถึงศึกฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 ซึ่งสัญญาที่ทำกันไว้ก็คิดว่าอย่างน้อยๆ ลุงโนะ น่าจะพาทีมชาติไทยผ่านเข้าไปในรอบ 12 ทีมสุดท้ายของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกได้ ซึ่งนั่นมหายถึงการได้เข้าไปเล่นเอเชี่ยน คัพ 2023 แบบอัตโนมัติ แต่พอมาตกม้าตายแค่รอบ 2 ในการคัดเลือกบอลโลกแล้วนั้น เท่ากับว่าต้องไปเล่นรอบคัดเลือกของเอเชี่ยน คัพ 2023 กันใหม่ แบบนี้มันจะเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาที่เซ็นกันไว้หรือเปล่า??? และกระแสที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้ของแฟนบอลชาวไทย และบรรดากูรูสายบอลไทยต่างๆ ก็คือ "ลุงโนะ" ควรจะได้โอกาสคุมทีมต่อไปหรือไม่ หรือควรจะแยกย้ายแล้วพอกันแค่นี้ แน่น่อนเหรียญมีสองด้าน เราเองก็ไม่อาจฟันธงได้ว่าแบบไหนจะดีที่สุด เอาเป้นว่าลองมาดูเหตุผลทั้งสองด้าน ทั้งคนที่อยากให้อยู่ต่อ และคนที่อยากให้พอแค่นี้ ว่าแบบไหนมันมีน้ำหนักมากกว่ากัน เริ่มกันที่ฝ่ายที่เห้นด้วยให้ นิชิโนะ ได้คุมทีมชาติไทยต่อไป โดยมีเหตุผลสนับสนุน ดังต่อไปนี้ 1.ผลงานในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกที่ผ่านมา ถือเป็นอุบัติเหตุทางฟุตบอล ด้วยเรื่องของไวรัสโควิด ทำให้แผนการเตรียมทีมมีปัญหา รวมทั้งเรื่องสภาพจิตใจของลุงโนะ ที่เพิ่งจะเสียคุณแม่ไป ทำให้ไม่มีสมาธิในการคุมทีม ซึ่งควรจะให้โอกาสกับกุนซือผู้นี้อีกครั้ง 2.สืบเนื่องจากข้อแรกคือทีมชาติไทยประสบปัญหามากมายในการเตรียมทีม ประกอบกับไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ทำให้ผลงานไม่ดี ดังนั้นควรให้โอกาสลุงโนะ ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยใช้ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือกเป็นตัวตัดสิน 3.ถ้าหากมีการเปลี่ยนโค้ช ก้เหมือนกับทีมชาติไทยต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ วนลูปเดิมๆ ทำให้ไม่มีการพัฒนา และทีมชาติก็อยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ในเมื่อให้ลุงโนะทำมาแล้ว 2 ปี ซึ่งแกก็ได้เรียนรู้ฟุตบอลในเมืองไทย และรู้จักนักเตะไทยดีอยุ่แล้ว ก็ให้ทำต่อไปอาจจะกลับมาดีก็ได้ ดีกว่าไปหาโค้ชใหม่มาเริ่มนับหนึ่ง 4.ด้วยค่าจ้างมหาศาลตกปีละ 30 ล้านบาทต่อปี เราควรใช้งานเขาให้คุมค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป ดังนั้นควรให้เขาได้ทำต่อ เพื่อสานงานที่ตัวเองได้เริ่มต้นไว้ให้ประสบความสำเร็จ คราวนี้มาดูทางฝ่ายไม่เห็นด้วยและมองว่าควรจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ว่าพวกเขามีเหตุผลอย่างไรบ้าง 1.ผลงานที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัดที่ดีอยู่แล้ว ตั้งแต่ ลุงโนะ คุมทีมมาไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย คัดบอลโลกก็ตกรอบ ชนะได้แค่ 2 เกม แถมแพ้มาเลเซียไป-กลับ เสมอเวียดนาม ในศึกยู 23 ก็ไปไม่ถึงฝัน รวมทั้งซีเกมส์ก็ตกรอบแรก 2.ถ้าทนใช้ต่อไปก็คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วจากผลงานที่เห็นๆ กันอยู่ ถ้าให้แกคุมต่อ ก็เหมือนเสียเวลาเปล่า หาคนใหม่มาทำแบบจริงๆ จัง เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ ก็ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนนี้มันก้กลับไปเป็นศูนย์อยู่แล้ว 3.ไม่จำเป็นต้องเสียค่าจ้างมหาศาลแบบนั้น ไปจ้างดค้ชไทยฝีมือดีมีโปรไลเซนส์ ก็ตั้งหลายคน เชื่อว่าโค้ชไทยมีศักยภาพและรู้ฟุตบอลไทยดีที่สุดในการจะกอบกู้ศรัทธาแฟนบอลกลับมา 4.ถ้าเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้ อาจจะทำให้ทีมชาติไทยกลับมาได้เร็ว โดยเฉพาะฟุตบอลซูซูกิ คัพ ปลายปีนี้ ถ้าได้คนที่เข้าใจฟุตบอลไทยมาทำ เชื่อว่าทีมชาติไทยจะกลับมาได้แน่นอน ทั้งหมดนั้นก็เป็นเหตุผลเพียงบางส่วนของทั้งฝ่ายที่สนับสนุน และฝ่ายคัดค้าน ซึ่งแฟนบอลก็ต้องลองพิจารณาดูเอาเองว่าแบบไหนมันเข้าท่ากว่ากัน แต่ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับชายที่ชื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่าท่านจะตัดสินใจแบบไหน???

เหตุผล 2 ด้าน ที่ทำไมอยากให้ ลุงโนะ คุมต่อ และทำไมถึงต้องพอแค่นี้

logoline