logo-heading

อยู่ดีไม่ว่าดี อ็องตวน กรีซมันน์ ก็กลายเป็นจำเลยสังคม เมื่อเขากำลังเจอดราม่าย้อนมาทำร้าย กับคลิปปมเหยียดเชื้อชาติชาวญี่ปุ่น สมัยที่ บาร์เซโลน่า มาทัวร์ปรีซีซั่นแดนปลาดิบ เมื่อ 2 ปีก่อน เหตุการณ์นี้เขาโดนหางเลขแบบไม่รู้ตัว เพราะคนที่พูดจาเหยียดหยามคือ อุสมาน เดมเบเล่ รุ่นน้องในทีม แต่ กรีซมันน์ ออกลักษณ์ท่าทางยิ้มชอบใจ

เพียงแค่นั้น ความซวยก็มาเยือน เพราะมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทำเอา สเปอร์เซอร์สัญชาติญี่ปุ่น ของ บาร์เซโลน่า แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร, เขาโดนลงโทษแบบไหน และ อนาคตจะไปทางไหนต่อ มาติดตามกันได้เลยครับ

- เหตุการณ์ทำ กรีซมันน์ เดือดร้อน

ปกติแล้ว เวลาปิดซีซั่น หลายๆสโมสรก็จองทัวร์ปรีซีซั่น ไปเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ทวีปเอเชีย หรือไม่ก็ ทวีปอเมริกา อะไรประมาณนี้ แต่กระนั้นนับตั้งแต่โลกของเรา เจอเชื้อร้าย โควิด-19 ระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ทุกอย่างถูกตัดขาด โดยเฉพาะการเดินทางข้ามประเทศ แทบเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เหมือนสมัยก่อน แต่กระนั้นเหตุการณ์ที่ อองตวน กรีซมันน์ ดาวเตะ บาร์เซโลน่า ต้องโดนดราม่าอย่างหนัก เกิดขึ้นจากสมัยที่ บาร์ซ่า ไปทัวร์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โลกนี้จะรู้จักคำว่า โควิด-19 หรือ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 โดยขณะนั้นเขาพักห้องรูมเมทเดียวกันกับ อุสมาน เดมเบเล่ ดาวเตะอีสปอร์ต ทั้ง 2 คน เหมือนกำลังเล่นเกม Pro Evolution Soccer และ ได้เรียกเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนห้อง เพื่อให้มาแก้ไขเกมที่ขัดข้อง ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังแก้ไขปัญหาอยู่นั้น เดมเบเล่ ได้การถ่ายคลิปลง Snapchat พร้อมกับพูดจาในเชิงลักษณะเย้ยหยัน และ วิจารณ์หน้าตาก รวมถึง ภาษาของช่างเทคนิค ประมานว่า (เดมเบเล่ พูด) : "ไอ้หน้าจืดพวกนี้น่ะเหรอจะสามารถช่วยให้นายได้เล่น PES (เกม Pro Evolution Soccer)? ไม่อายบ้างเหรอ? แล้วนี่มันภาษาล้าหลังอะไรกัน? ประเทศพวกเอ็งนี่เทคโนโลยีล้ำสมัยจริงเหรอวะ?" จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ อุสมาน เด็มเบเล่ กับ อ็องตวน กรีซมันน์ ตกเป็นจำเลยข้อหาเหยียดผิว ต่อพนักงานโรงแรมญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าทั้ง 2 คน จะออกมาขอโทษแล้ว ว่าไม่ได้มีเจตนา และ ไม่ใช่คนเหยียดเชื้อชาติอะไรแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นผล

- กรีซมันน์ โดนลงโทษอะไร ?

ต้องบอกว่า ถึงแม้ กรีซมันน์ จะไม่ได้มีคำพูดอะไร แต่ลักษณะการยิ้มหัวเราะชอบใจของเขากับคำพูด เดมเบเล่ ที่ไปวิจารณ์เกี่ยวกับใบหน้าของคนญี่ปุ่น สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับบริษัท Konami ผู้ผลิตและพัฒนาวิดีโอเกมส์ ชั้นนำของญี่ปุ่น โดยเฉพาะ PES เกมลูกหนังแนวหน้าของโลก ซึ่ง Konami นับเป็นพันธมิตรกับ บาร์เซโลน่า ในเรื่องโปรโมทอีสปอร์ต ทำให้ก่อนหน้านี้ ก็ได้ดึง กรีซมันน์ ไปเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับเกม Yu-Gi-Oh! เกมการ์ดยอดฮิตด้วยเช่นกัน เพราะมองว่า กรีซมันน์ ก็เป็นหนึ่งคนที่มีความคลั่งไคล่ในวงการ อีสปอร์ต ไม่แพ้ใครๆ อย่างไรก็ตาม จากคลิปที่หลุดออกไปนั่น กรีซมันน์ ก็โดนหางเลขไปด้วย ส่งผลให้ Konami ตัดสินใจถอดนักเตะรายนี้ ออกจากการเป็น แอมบาสเดอร์ ของเกม  Yu-Gi-Oh! ทันที ทั้งๆที่เพิ่งแต่งตั้งไปเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เท่านั้น .. แค่คำพูดของน้อง ทำเอาตัวเลขเรื่องเงินสปอนเซอร์ หายวับไปกับตา

- ส่งผลต่ออนาคตของ กรีซมันน์ อย่างไร

เรียนตามตรงว่า อองตวน กรีซมันน์ ยังไม่สามารถโชว์ร่างเทพให้กับ บาร์เซโลน่า เหมือนสมัยอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ได้เลย โดย 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขายิงในเวที ลา ลีกา สเปน ไปแค่ 22 ประตู ไม่คุ้มค่าตัว 120 ล้านยูโร เอาเสียเลย ดังนั้นผลงานแบบนี้ไม่ปลื้มใจอย่างแน่นอน ยิ่งมาเจอคดีเหยียดเชื้อชาติ อนาคตในทีม บาร์เซโลน่า ของ กรีซมันน์ ยิ่งสั่นคลอน เพราะล่าสุด  Rakuten สปอนเซอร์คาดอก บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นแบรนด์ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศขอฟังจุดยืนของ บาร์ซ่า ว่า จะทำอย่างไรต่อกับเหตุการณ์นี้ ต้องไม่ลืมว่า Rakuten มีความสัมพันธ์อันดีกับ บาร์เซโลน่า เพราะถึงขั้นที่เคยดีล อันเดรส อิเนียสต้า ตำนานมิดฟิลด์ หรือ โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยม ให้ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ วิสเซล โกเบ ทีมดังจาก เจ ลีก ญึ่ปุ่น ที่ใช้สปอร์นเซอร์คาดหน้าอกแบรนด์เดียวกัน ขณะที่ ทางผู้ผลิต PES ก็ขอให้ บาร์เซโลน่า อธิบายเรื่องราวดังกล่าว และ ชี้แจงว่าจะเอาเรื่องนักเตะ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น อย่างไรบ้าง ง่ายๆก็คือ จะปรับเงิน, ลงโทษทางวินัย หรือ เขี่ยทิ้งอะไรก็ตามแต่ แค่อยากรู้ว่าจะมีจุดยืนอย่างไร พูดออกมาให้ชัดๆ แน่นอนว่า บาร์เซโลน่า ก็คงไม่อยากงัดข้อกับสปอนเซอร์รายนี้มากนัก เพราะก็มอบเงินสนับสนุนต่อฤดูกาลอยู่ที่ 55 ล้านยูโร ยิ่งในช่วงวิกฤตแบบนี้ อะไรที่เกี่ยวกับเงินๆทองๆ คงไม่ต้องการสูญเสียรายได้ไป อย่างไรก็ตาม ดูแล้วอนาคตของ กรีซมันน์ กับ บาร์เซโลน่า คงไม่ถึงขั้นต้องแยกทาง ต่อให้มันจะเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อสโมสร เพราะมันสวนทางกับแคมเปญรณรงค์เรื่องการเหยียดผิวของวงการลูกหนัง แต่เชื่อว่า เจ้าบุญทุ่ม มีบทลงโทษทางวินัยอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และ ที่แน่ๆทั้ง กรีซมันน์ และ เดมเบเล่ อาจจะไม่มีวันได้เป็นสปอนเซอร์ หรือ แอมบาสเดอร์ ให้กับธุรกิจที่มาจากประเทศญี่ปุ่นอีกแล้ว ซึ่งแบบนี้เขาเรียกว่า ปากพาจน นำความหายนะมาหาตัวเอง

ฮาย ฮาวดี้-

logoline