ทำไม "บียู" ต้องทุ่มเพื่อ "ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์" !!!

ทำไม ทรู แบงค็อก ต้องทุ่มทุนสร้างกับสัญญา 3 ปีของ "ฐิติพันธ์" ที่ว่ากันว่าหมดเงินไปร่วมๆ 10 ล้านไป วันนี้เราจะมาวิเคราะห์พร้อมๆ กัน ...

เพราะที่ผ่านมาพวกเขาเปลี่ยนวิถิการซื้อตัวไทยพอสมควร ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมีโอกาสจะสอย "สุพรรณ ทองสงค์" แนวรับทีมชาติไทยของ สุพรรณบุรี เอฟซี เข้ารัง แค่เปย์เงิน 10 ล้านบาทก็เป็นอันจบดีล แต่สุดท้ายเลือกที่จะไม่ทุ่ม ...

แต่ทำไมในดีลของ "ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์" พวกเขาจึงกลับมาทุ่มทุนสร้างอีกครั้ง ไปวิเคราะห์พร้อมๆ กัน ...

 

อย่างแรกดีลของ "ฐิติพันธ์" จ่ายไม่แพงจนเกินงาม เพราะด้วยระยะสัญญาที่เหลือกับ บีจี แค่ 5 เดือน ซึ่งแว่วๆ มาว่านี่คือดีลยืมตัวที บียู จัดการค่าเหนื่อย ค่าอะไรต่างๆ นาๆ แทน บีจี แค่นั้น ส่วนที่เหลือที่เซ็นกันเพิ่มอีก 3 ปีก็ได้ยินมาว่านิวยอมลดเงินเดือนเพื่อจะเข้าร่วมทีมบียู ดังนั้นจึงถือว่าวินๆ ด้วยกันทุกฝ่ายทั้ง บีจี, บียู และตัวของ นิว เอง

 

อย่างที่สอง "ความพอเหมาะพอเจาะ" ในที่นี้ไล่ตั้งการเลือกไม่ทุ่มในครั้งก่อนหน้านี้ของบียู, ทั้ง การท่าเรือ ที่ โค้ชโอ่ง ขอถอนสมอออกไปเพราะมองว่านิวไม่ใช่คำตอบที่ท่าเรือ, ทั้งด้วยสัญญาของนิวที่บังคับให้เขาต้องย้ายในตลาดรอบนี้ ซึ่งความพอเหมาะพอเจาะที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ทำให้ดีลระหว่าง 2 ทีมร่วมเมืองปทุมธานีจึงเกิดขึ้น

 

อย่างที่สาม "การเสียทั้ง แอนโธนี่, โฮโซไก, สรรวัชญ์" ทำให้ช่องโหว่ตรงกลางเป็นรูใหญ่ แม้จะได้ของดีจาก นครปฐม ยูไนเต็ด อย่าง นันทวัฒน์ กกฝ้าย มา แต่ก็ยังดูน้อยไปสำหรับทีมที่จะลุ้นแชมป์ ดังนั้นการเอา "นิว" เข้ามาปิดช่องนั้นแม้จะเป็นแค่คนเดียวแต่เชื่อว่าน่าจะพอปิดได้ไม่มากก็น้อย

 

อย่างที่สี่เพราะ "บียูต้องการยกระดับเพื่อลุ้นแชมป์" แน่นอนว่าการได้ "นิว" มาในช่วงเวลานี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบียูไม่หวังแชมป์การเสริมนักเตะที่เพิ่งคว้าแชมป์ลีกกับทีมนั้นๆแถมเป็นนักเตะระดับทีมชาติไทยดังนั้นเรื่องนี้ชัดเจนว่าบียูกับนิวมาเพื่อล่าแชมป์

 

อย่างที่ห้า น่าจะเป็นโอกาสเดียวที่พวกเขาจะคว้า "นิว ฐิติพันธ์" มาร่วมทีมได้ ด้วยเวลา, สถานะ และโอกาสที่มี มันจึงเป็นความเหมาะสมที่สุด จึงทำให้ดีลยืมตัวจนถึงสิ้นปีนี้ และต่อด้วยการเซ็นกันยาวๆ อีก 3 ปีจึงเกิดขึ้นในที่สุด

    ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม