5 ข้อสำคัญ!! ”กิเลน" โดน 3-0 ก่อนตามเจ๊า “ฉลาม” 3-3

หลังนั่งดูเกมมันส์ๆ ในศึกไทยลีก 2021/22 เมื่อวานนี้ คู่ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านเจอกับ ชลบุรี เอฟซี ในศึกไทยแลนด์กลาซิโก้

วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยจึงขอนำคุณผู้ดูทุกท่านไปดูกันหน่อยว่าเหตุผลกลใดที่ทำให้ กิเลน กลับมา ผยอง อีกครั้งหลังโดนนำ 3-0 ก่อนกลับมาเสมอ 3-3 ได้อย่างเหลือเชื่อ !!!

อย่างแรกต้องชื่นชม มาริโอ ยูรอฟสกี้ กุนซือใหญ่ของ เมืองทอง ที่มีรีแอคหลังลูกทีมโดน 3-0 แบบก้มหน้ารับสภาพแล้ว แต่พอตั้งสติได้เขารีบลุกออกมากระตุ้นลูกทีมทันที ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าอย่าเพิ่งยอมแพ้แม้สกอร์จะห่างกันถึง 3 ลูก

ต่อมาคือลูกตีตื้น 3-1 ของ เมืองทอง ที่มาเร็วจี๋หลังโดนยิงลูกสามไปแค่ 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ทีมกลับมามีความหวังทันที และไม่เท่านั้นลูก 3-2 ที่ให้หลังจากลูกแรก 4 นาทียิ่งทำให้โมเมนตั้มมันกลับมาที่เมืองทองหมดแล้วในตอนนั้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการเปลี่ยนตัวของ โค้ชเตี้ย และ ชลบุรี ที่ส่งผลต่อเกมรุกของทีมที่กำลังดีๆ โดยตรงคือการถอด ยู พยอง ซู หนึ่งในผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับเกมเยอะมากออก น่าจะด้วยเพราะใบเหลืองที่ติดตัวอยู่ และการนำห่าง 3-0 แต่เกมมันกลับไปเป็นอย่างที่คิด ตรงที่พอเปลี่ยนตัวออกแล้วโดนยิงขึ้นมาทีละลูก สองลูก แถมเกมรุกก็ไม่จัดจ้านเหมือนเดิม ทำให้ทีมได้แค่ตั้งรับสู้เท่านั้น จนในที่สุดก็โดนตีเสมอ 3-3

การเปลี่ยนตัวของ โค้ชมาริโอ โดยเฉพาะในครึ่งหลัง ต้องยอมรับว่าเป็นการเปลี่ยนตัวที่เห็นผลชัดเจน พิชา ลงมาเป็นคนยิงตีตื้น 3-2, เจสซี่ เคอร์เรน กับการมีส่วนร่วมในลูกแรกที่ทีมตีตื้น และ กรวิทย์ ที่โดนเตะจนได้จุดโทษในลูกที่ 3 เรียกได้ว่าเปลี่ยนตัวดีและมีผลต่อเกมตรงข้ามกับการเปลี่ยนตัวของชลบุรีอย่างแท้ทรู

และสุดท้ายคือความใจสู้ของเหล่า กิเลนยังบลัด ชุดนี้ของ เมืองทอง ที่ไม่ชมไม่ได้จริงๆ จาก 3-0 กลับมา 3-3 ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาได้ แต่พวกเขาทำให้เห็นแล้วว่าไม่หมดเวลา กิเลนหนุ่มจะไม่เลิกสู้ ไม่เลิกวิ่ง และทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่วนนึงมาจากผลของการกระทำในรูปแบบ "Mario Way" นั่นเอง