แน่นอนว่าผลลัพธ์ของ “ฟุตบอล” นอกจากเรื่องของการแข่งขันแล้ว การผ่านเข้าไปเล่นในรายการระดับเมเจอร์ของทวีปถือเป็นการตอบโจทย์อะไรได้พอควร
เช่นเดียวกับ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่เพิ่งผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของศึก ยู 23 ชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศอุซเบกิสถานในช่วงกลางปีหน้า
แต่การผ่านเข้ารอบในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าไม่ได้มาเพราะฝีมือทั้งหมด ซึ่งทุกคนทราบดีว่าเราได้ ทีมชาติลาว ช่วยชีวิตเอาไว้ เนื่องจากในเกมนัดสุดท้ายถ้า สปป.ลาว ไม่ชนะ มองโกเลีย เราก็คงตกจากบัลลังก์อันดับ 2 ที่ดีที่สุดทันที
ดังนั้นการเข้ารอบในครั้งนี้ต้องยอมรับว่ามีเรื่องของ “ดวง” เข้ามาช่วยด้วย เหมือนดั่งคำที่ “โค้ชโย่ง” ได้บอกเอาไว้ว่า “ทุกอย่างมันอาจถูกลิขิตเอาไว้แล้ว” ...
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องหันกลับมามองตัวเราเองว่า “ดีพอ” หรือ “ผ่านไหม” กับการแข่บขันในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา เพราะเอาตรงๆ ก่อนไปเราตั้งเป้าไว้ 9 แต้ม แต่กลับมาได้แค่ 5 คะแนนเท่านั้น
ซึ่งเอาตรงๆ จากที่ดูมาตลอด 3 เกมและเป็นการไปดูไกลถึงมองโกเลียต้องบอกจากใจจริงเลยว่าทีมชาติไทยในชุดนี้ยังสอบไม่ผ่านและยังต้องปรับอะไรอีกเยอะเลย
อย่างแรกคือรูปแบบการเล่นที่ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของเราใส่ลงไปในแต่ละเกม โดยจะยึดระบบ 4-2-3-1 เป็นหลักก่อน ทั้ง 3 เกมเลย แม้ในระหว่างเกมจะมีการเปลี่ยนไปทั้ง 4-3-3 หรือ 4-4-2 แต่ก็ไม่ได้ดีหรือเอาชนะคู่แข่งได้แบบขาดลอย แม้เกมกับ สปป.ลาว เราจะชนะ 3-0 แต่กว่าจะได้ประตูหนีห่างก็ช่วงท้ายๆเกมแล้ว
อย่างที่สองรูปแบบการเข้าทำที่เหมือนไม่ได้ซ้อมกันมา เรื่องการเข้าทำที่ดูยังไงก็ไม่เข้าตา แม้จะยิงได้ 2 จาก 3 เกม และยิงรวมได้ 4 ประตู แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียดการเข้าทำในแต่ละเกมนับครั้งไ้ด้เลย และถ้าจะหาโอกาสยิงแบบเหน่งๆ หรือ การเข้าทำแบบสวยๆ แทบจะหาไม่ได้เลย 4 จาก 2 ประตูก็มาจากลูกตั้งเตะแสดงให้เห็นว่าทีมชุดนี้มีปัญหาในเรื่องนี้พอสมควร
อย่างสุดท้ายเรื่องหัวจิตหัวใจ แน่นอนว่าข้อนี้มันชัดเจนมากๆ ในนัดสุดท้ายกับ ทีมชาติมาเลเซีย ที่เราต้องลงเล่นเพื่อ 3 แต้มเท่านั้น เพราะหากจบในข้อแม้อื่นเราต้องไปหวังพึ่งจมูกทีมอื่นหายใจ ถึงจะรู้ในข้อแม้นี้ดี แต่นักเตะเราเองกับเล่นกันอย่างนิ่งๆ และไม่ใส่ให้สุดในแบบที่ควรจะเป็น ลูกตั้งเตะก็ไม่รีบเล่น จังหวะที่ครวจะโหมก็ไม่แลก ก้มหน้าก้มตาเล่นกันตลอด ทำเหมือนไม่รู้ว่าเราต้องการ 3 แต้มเพื่อเข้ารอบแบบอัตโนมัติซึ่งเรื่องนี้บอกเลยคนที่สอบผ่านมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นดังนั้นโชคดีมากๆที่บทสรุปในรายการนี้ออกมาเป็นใจกับเรา
แม้ว่าเราจะบอกว่าทีมชุดนี้เพิ่งรวมตัวกันได้แค่ไม่กี่วัน แถมยังมีแข้งลูกครึ่งจากต่างชาติมาเล่นอีกเพียบ แต่ถ้า โค้ชโย่ง และ คุณแป้ง ประกาศก่อนรายการนี้ว่าต้อง 9 แต้มก็คงมั่นใจในระดับนึงว่าเรามีดีพอที่จะจัดการได้
แต่ความเป็นจริงคือเราได้แค่ 5 แต้มแม้จะไม่แพ้ใครแต่เราไม่สามารถเอาชนะทั้งมองโกเลียเจ้าภาพที่ฟอร์มเป๋จัดๆได้และไม่สามารถล้มมาเลย์คู่ปรับที่ดุที่สุดในกรุ๊ปนี้ได้