logo-heading

ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ได้จบลงไปแล้วเรียบร้อย ได้ 10 ทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย และ มีอีก 12 ชาติ ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 3 โควต้า ไปลุย เวิลด์ คัพ ณ ประเทศกาตาร์

ซึ่งการ คัดบอลโลก มีหลายโมเมนต์ให้พูดถึง ทั้งทีมที่ผ่านเข้ารอบก็สุขสมหวัง หลายๆคนโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดติ่งกระดิ่งแมว แต่ก็มีทีมที่พบกับความผิดหวัง ผลงานไม่เป็นไปตามเป้า และ มีโอกาสจะพลาดไปลุย เวิลด์ คัพ อยู่เหมือนกัน ไปดูกันว่าในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา มีเหตุการณ์อะไรเด่นๆต้องพูดถึงกันบ้าง

- โรนัลโด้ น้ำตาซึม

ใครจะเชื่อล่ะครับว่า โปรตุเกส ที่นำมาตลอดในรอบแบ่งกลุ่ม มีดีกรีเป็นแชมป์ ยูโร 2016 แถมมีตัวผู้เล่นระดับท็อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดิโอโก้ โชต้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส หรือ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นต้น  อีกทั้งคู่แข่งในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรสักนิด ที่พอจะมารบกวนหัวใจเลยสักนิด .. เซอเบียร์, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, อาเซอร์ไบจาน คือคู่แข่งในกลุ่ม ว่ากันตามตรง ดีกรี ฝอยทอง เหนือกว่าทุกกระบวนท่า แต่กลับกลายเป็นว่า โปรตุเกส พ่ายแพ้ให้กับ เซอร์เบีย นัดสุดท้าย 1-2 แบบช็อคแฟนบอล  ทำให้ โปรตุเกส ร่วงมาจบอันดับ 2 ต้องไปเพลย์ออฟ และ ส่ง เซอร์เบีย ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ทันที ซึ่งหลังจบเกม ต้องเห็นภาพ ซีอาร์ 7 นั่งซึมเศร้า, น้ำตาคลอเบ้า เป็นอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง เพราะมันแสดงให้เห็นว่า โรนัลโด้ ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า เวิลด์ คัพ ปีหน้า เขาจะได้มีส่วนร่วม เนื่องจาก รอบเพลย์ออฟ มีทีมเข้าชิงชัยถึง 12 ชาติ แต่มีโควต้าแค่ 3 ใบเท่านั้น จากภาพซึมเศร้าของ โรนัลโด้ ทำเอาย้อนนึกไปถึงเกมแรก ที่เขายิงใส่ เซอร์เบีย บอลข้ามเส้นไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินกลับปฏิเสธให้ประตูชัย ทำให้จบเกมด้วยการเสมอ 2-2 ซึ่งถ้าวันนั้นกรรมการให้เป็นประตู ป่านนี้ โปรตุเกส อาจจะเข้ารอบไปแล้วก็เป็นได้

- อิตาลี แชมป์ยูโร ฟอร์มแผ่ว

หากใครไม่ได้ติดตาม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป คงคิดว่า ทีมชาติอิตาลี คงผ่านเข้ารอบได้สบายๆ เพราะมีดีกรีเป็นแชมป์ ยูโร 2020 ผลงานกำลังสวยหรู และ ไม่แพ้ใครมาถึง 36 นัด ก่อนจะถูกหยุดสถิติจากการพ่าย สเปน ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แต่ดูแล้วมันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ของ เวิลด์ คัพ ณ ประเทศ กาตาร์ ใช่ไหมครับ เพราะแพ้ สเปน เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ไม่รู้เพราะอิ่มเอมความสำเร็จ, ความเหนื่อยล้า หรือ ชะล่าใจอะไรก็ตามแต่ เพราะหลังจากจบ ยูโร 2020 ขุนพล อัซซูรี่ อันเกรียงไกรของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ฟอร์มกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะ 5 นัดหลังสุด ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก อิตาลี ชนะได้แค่เกมเดียวเท่านั้น คือการถล่ม ลิธัวเนีย 5-0 แต่ที่เหลือสะดุดเสมอไปถึง 4 นัด ซึ่งมันกลายเป็นหายนะ ทำให้ สวิตเซอร์แลนด์ ไล่ตามมาทันในที่สุด จนกระทั่งต้องมาวัดกันนัดสุดท้าย โดย อิตาลี จะต้องเอาชนะ ไอร์แลนด์เหนือ ให้ได้ สถานเดียว .. ถ้าพลาดเสมอ หรือ แพ้ และทาง สวิตเซอร์แลนด์ เอาชนะ บัลแกเรีย ได้ จะส่ง อัซซูรี่ ไปเป็นที่ 2 สิ่งที่แฟนบอล อิตาลี กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นจริงครับ เพราะ อิตาลี ทำได้เพียงเสมอกับ ไอร์แลนด์เหนือ 0-0 ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ ไล่ถล่ม บัลแกเรีย 4-0 ส่งผลให้ขุนพลจากแดน "นาฬิกา" แซงเข้าป้ายคว้าแชมป์กลุ่ม และ ถีบให้ อัซซูรี่ หล่นไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งมันก็ไม่แน่เหมือนกันว่า ฟุตบอลโลก ปีหน้า อาจจะไม่มีแชมป์ ยูโร 2020 ก็เป็นได้

- แฮร์รี่ เคน, แม็คไกวร์ ไฮไลท์ ทีมชาติอังกฤษ

ถ้าจะหาว่าทีมชาติไหน ฟอร์มดีที่สุด ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก เดือนพฤศจิกายน นี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของทีมชาติอังกฤษ เพราะ 2 นัด ยิงใส่คู่แข่งไปถึง 15 ลูก ทั้งการเปิดบ้านเอาชนะ อัลแบเนีย 5-0 และ บุกไปถล่มใส่ ซาน มาริโน่ 10-0 เรียกว่ายิงถล่มทลาย โดยไม่เสียสักประตูเดียว จากการซัดใส่คู่แข่งแบบไม่บันยะบันยัง ทำให้ แฮร์รี่ เคน ซึ่งกดแฮตทริคใส่ อัลแบเนีย และ ซัด 4 ตุงใส่ ซาน มาริโน่ ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโว ประจำรอบคัดเลือก 12 ตุง เท่ากับ เมมฟิส เดปาย  พร้อมกับการขยับเข้าใกล้การขึ้นครองบัลลังค์ ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทัพ สิงโตคำราม เข้าไปทุกที หลังซัดรวมไปแล้ว 48 ลูก ขึ้นเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ร่วม เท่ากับ  แกรี่ ลืนิเกอร์ ตำนานหัวหอก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่ตาม เวย์น รูนี่ย์ เจ้าของสถิติอยู่แค่ 5 ประตู เท่านั้น เชื่อว่าอีกไม่นาน ได้เห็นการทำลายสถิติแน่นอน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ แฮร์รี่ เคน จะยิงประตูถล่มทลาย แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวทำประตูใส่ อัลแบเนีย ได้ทำท่าดีใจ สไลด์เข่า พร้อมทำท่าป้องหู เหมือนเป็นการเย้ยหยัน พวกที่ชอบวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเอา รอย คีน ตำนานมิดฟิลด์ฮาร์ดแมน ถึงกับเดือดดาลสุดๆ โดยมองว่าเป็นการกระทำที่ขายหน้ามากๆ เพราะ อัลแบเนีย ไม่ใช่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเลยสักนิด ฉะนั้นมันไม่สามารถเอามาหักล้าง ฟอร์มอันย่ำแย่กับ ปีศาจแดง ในช่วง 2-3 เดือนหลังได้เลย เรียกว่าเป็นโมเมนต์ที่ดราม่าสุดๆ ทั้งๆที่ อังกฤษ ได้รับชัยชนะ และ ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 ประเทศกาตาร์ สมฉายาเจ้าพ่อ รอบคัดเลือก ก็ตาม

- ฮาแลนด์ พลาด เวิลด์ คัพ

ถึงแม้ว่ายังไม่มีชาติยักษ์ใหญ่ ทีมไหน พลาดตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก แต่กระนั้นก็มีดาวเตะตัวท็อปของยุโรป ที่จะไม่ได้มีส่วนร่วมที่ประเทศกาตาร์ แน่นอนแล้ว นั่นคือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ จากค่าย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฮาแลนด์ คือนักเตะที่สถาปนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวหอกที่ดีที่สุดของยุโรป เวลานี้ แต่กระนั้นการจะเป็น "เดอะ แบก" พา นอร์เวย์ ไปลุย ฟุตบอลโลก 2022 ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ นอร์เวย์ ไม่ได้ผ่านไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ตั้งแต่ ยูโร 2000 ซึ่งยุคนั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังเป็นกองหน้าตัวความหวัง ถึงแม้ว่า นอร์เวย์ จะโชว์ผลงานได้ลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก แต่กระนั้นพวกเขาก็ต้านไม่ไหว ไปพ่ายให้กับ เนเธอร์แลนด์ 0-2 ส่งผลให้จบแค่อันดับ 3 เท่านั้น กระเด็นตกรอบคัดเลือกเรียบร้อย หมายความว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คือซูเปอร์สตาร์คนแรกๆ ที่จะไม่มีส่วนร่วมในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ประเทศกาตาร์

- เอ็มบัปเป้ ฮอตจัด

ถ้าหมดยุค ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงไม่ใช่เรื่องเกินจริง ที่ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ จะขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ ที่มีโอกาสคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ เพราะผลงานในช่วงที่ผ่านมา มันประจักษ์ดีว่า น้องเป้ สุดยอดมากแค่ไหน ถึงแม้จะพลาดจุดโทษ จนทำให้ทัพ ตราไก่ ตกรอบ ยูโร 2020 แต่เขาสามารถลืมความผิดหวังได้อย่างรวดเร็ว เอ็มบัปเป้ มีส่วนทำให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และ เขาก็ยังต่อยอดมาถึง ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือด หนนี้ เพราะตลอด 2 นัดล่าสุด ทำผลงานผงาดฟ้า ด้วยการซัด 4 ประตู นัดถล่ม คาซัคสถาน 8-0 เป็นนักเตะคนแรกของทัพ ตราไก่ ในรอบ 63 ปี ที่ยิง 4 ประตูในเกมเดียว นับตั้งแต่ปี 1958 ซึ่ง น้องเป้ ยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะนัดต่อมาที่ ฝรั่งเศส บุกไปเอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 เขาก็เป็นคนทำประตูให้กับทีมได้อีก 1 ตุง นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ พร้อมกับนำ เลส์ เบลอส์ ผ่านไปป้องกันแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ปีหน้า ได้สำเร็จ

- การกลับมาของ เนเธอร์แลนด์

ฟุตบอลโลก 2018 ถือว่าขาดสีสันไปมากพอสมควร หลังจาก เนเธอร์แลนด์ ตกรอบคัดเลือก จึงไม่ได้เห็นกองทัพ อัศวินสีส้ม ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ แต่หลังจากมีการปฏิวัติครั้งใหญ่ ทั้งการโละนักเตะรุ่นเก๋าหมดอายุ บวกกับให้โอกาสพวกผู้เล่นหน้าใหม่ ทำให้ขุนพลดัตช์ กลับมาสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่อีกครั้ง แบบที่เราเห็นกันในศึก ยูโร 2020 ทว่าก็ด่วนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่กระนั้น ฟุตบอลโลก 2022 เนเธอร์แลนด์ คว้าตั๋วมาครองได้สำเร็จ หลังจาก เวิลด์ คัพ ครั้งก่อน ได้แต่นั่งมองอยู่แต่ที่บ้านเท่านั้น เรียกว่ามันจะเป็นครั้งแรกของใครๆหลายคน ที่จะได้เล่นมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก  โดยเฉพาะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งจาก ลิเวอร์พูล ถึงขั้นร่ำไห้ออกมา ที่จะได้เล่น ฟุตบอลโลก ครั้งแรกในอาชีพ แต่กระนั้นพวกเขาจะไม่อ่อนประสบการณ์แน่นอน เพราะนำโดย หลุยส์ ฟาน กัล หัวเรือใหญ่ ที่เคยพา อัศวินสีส้ม จบอันดับ 3 และ นักเตะในทีมหลายๆคน ก็ค้าแข้งกับทีมยักษ์ใหญ่ เชื่อว่าจากผลงาน ยูโร 2020 จะเป็นบทเรียนสำคัญ ให้พวกเขาพัฒนากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

- เยอรมัน ของ ฮันซี่ ฟลิค

หลังจาก โยอัคคิม เลิฟ วางมือจากการคุมทีมชาติเยอรมัน นับตั้งแต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ยูโร 2020 ก็เปลี่ยนมาเป็น ฮันซี่ ฟลิค อดีตกุนซือ บาเยิร์น มิวนิค ต้องบอกเลยว่าผลงานกลับมาโหดเหี้ยมอีกครั้ง ไม่มีผิดพลาด สะดุดขาตัวเอง เหมือนช่วงท้ายของ เลิฟ ที่เคยพาทัพ อินทรีเหล็ก พ่ายให้กับ นอร์ธ มาซิโดเนีย 1-2 ถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในรอบคัดเลือก 35 นัด แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ฮันซี่ ฟลิค กุมบังเหียน ตลอด 7 นัด เยอรมัน ชนะรวด ไม่มีเสมอ และ ไม่มีแพ้ ให้กับทีมใดทั้งสิ้น โดยยิงไป 31 ประตู โดยเสียแค่ 2 ประตู เท่านั้น พร้อมกับการล้างแค้น บุกไปถล่ม นอร์ธ มาซิโดเนีย 4-0 ดังนั้นต้องมารอดูว่า ฟุตบอลโลก 2022 ประเทศกาตาร์ นั้น ฮันซี่ ฟลิค จะพาทัพ อินทรีเหล็ก กลับมาทวงบัลลังค์ได้หรือไม่

ฮาย ฮาวดี้-

logoline