logo-heading

ชลบุรี เอฟซี แถลงการณ์ผ่านเพจสโมสร ยืนยันปล่อยตัว วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ไปร่วมทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 เพื่อหาเงินมาบริหารสภาพคล่องของสโมสรต่อไป

ถือเป็นข่าวที่ฮือฮาในตลาดซื้อ-ขาย ไทยลีกเลก 2 ที่ล่าสุด ทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านหน้าเพจสโมสรว่าได้ปล่อยตัว "เจ้ายิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เด็กปั้นของสโมสรไปร่วมทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว โดยในแถลงการณ์ มีดังนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม และธุรกิจกีฬาฟุตบอลอาชีพทั่วโลก นับตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาเกือบ 2 ปีเต็ม ที่สโมสรชลบุรี เอฟซี ได้รับผลกระทบทางด้านการเงิน โดยมีรายได้ลดลงจากการหยุดการแข่งขันถึง 6 เดือน แฟนบอลไม่สามารถเข้าชมการแข่งขันภายในสนามได้ รวมไปถึงต้องทำการแข่งขันแบบปิด และจำกัดจำนวนผู้เข้าชมเข้าสนาม อีกทั้งรายได้หลักจากผู้สนับสนุนสโมสรลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่ง ทางสโมสรตระหนักดีว่า บริษัทฯ และ หน่วยงานต่างๆ ที่ให้การช่วยเหลือเข้ามาสนับสนุนสโมสร ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ในปี 2020 ก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขัน สโมสร จำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยการลดค่าจ้างนักกีฬาฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ 50% เป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งนักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมใจกันปฏิบัติตามด้วยการลงชื่อในหนังสือยินยอม เพื่อช่วยให้สโมสรฯ ก้าวเดินต่อไปได้จนจบฤดูกาล 2020 โดยสโมสร ก็ได้ตอบแทนแบบใจแลกใจ ด้วยการขยายสัญญาจ้างทุกคนจากเดิม เพิ่มออกไปอีกครึ่งฤดูกาลโดยไม่เลือกปฏิบัติ แม้ผลงานการแข่งขันใน ฟุตบอลไทยลีกจะไม่ดี แต่ฟุตบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ สโมสรเกือบที่จะได้แชมป์มาครอบครอง ปี 2021 สโมสร ได้ปรับเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ โดยได้ตัดสินใจใช้นักฟุตบอลเยาวชนของสโมสร ซึ่งมีผู้เล่นไทยเพียง 4 คน ที่ไม่ได้เป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร จากรายชื่อผู้เล่นไทยในทีมชุดใหญ่ทั้งหมด 21 คน ส่งผลให้สโมสรมีงบประมาณเพียงพอที่จะจ้างผู้เล่นต่างชาติราคาแพงขึ้นได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาด โรคโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง ทำให้สโมสร ต้องรับภาระรายจ่ายที่มากกว่ารายได้อีกครั้ง รวมไปถึงหนี้คงค้างที่มีมากเกินจะแบกรับเอาไว้ได้ ทำให้สโมสร จำเป็นต้องเลือกหนทางสุดท้ายที่คิดจะทำ นั่นก็คือ การขายนักฟุตบอลคนสำคัญออกไป เพื่อนำเงินเข้ามาพยุงสโมสร ให้อยู่รอดต่อไป “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เป็นเด็กที่สโมสร ภาคภูมิใจ เป็นผลผลิตรุ่นแรกของ ระบบอคาเดมี่ยุคใหม่ของสโมสร แน่นอนว่าสโมสร รักเขามากและไม่อยากเสียเขาไป แต่การย้ายไปร่วมสโมสรที่ยอดเยี่ยมของประเทศไทยอย่าง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่นักฟุตบอลทุกคนต้องก้าวเดินต่อไป อีกทั้งการได้ลงเล่นในเวทีฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรฟุตบอลแห่งเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก” เป็นทัวร์นาเมนต์ที่นักฟุตบอลฝีเท้าดี อย่าง วรชิต สมควรได้ลงเล่น ที่สำคัญคือ การย้ายทีมในครั้งนี้ เป็นการตอบแทนสโมสรครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาสโมสร ได้ ดูแล พร้อม ปลุกปั้น เขาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่ง มีชื่อเสียง เงินทอง และติดทีมชาติไทย ซึ่งนับเป็นคุณอันอเนกอนันต์ที่สโมสรฯ จะไม่มีวันลืมเลย อีกทั้ง รายได้จากการย้ายสโมสรในครั้งนี้ สโมสร จะนำไป พัฒนานักฟุตบอลเยาวชนในรุ่นหลังๆต่อไป เสมือนหนึ่ง เป็นการช่วยเหลือ “พี่ช่วยน้อง” ไปในตัวอีกด้วย สโมสร ขอขอบพระคุณนักฟุตบอล สต๊าฟโค้ชและเจ้าหน้าที่ พนักงานของสโมสรทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ที่ยังคงช่วยกันทำงานหนักให้กับสโมสร โดยไม่เคยปริปากบ่น แม้ในช่วงบางเวลาที่ยากลำบาก ประสบปัญหาเหลือผู้เล่นทั้งทีม พร้อมลงสนามได้เพียง 16 คนเท่านั้น พวกเราก็ยังช่วยกันฝ่าฟันให้ผ่าน “วิกฤติ”มาได้ ด้วยสปิริตทีมที่ยอดเยี่ยมช่วยให้สโมสร สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการจบด้วยอันดับ 3 ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2021-22 เลกแรก โดยที่ไม่เคยมีข่าวการติดค้างการจ่ายเงินเดือนล่าช้า หลุดออกมาทางสื่อต่างๆ เลย แม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายนี้ สโมสร ขอขอบพระคุณแฟนบอลชลบุรี เอฟซี ที่รักทุกท่าน ที่ติดตามให้กำลังใจสโมสรแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ไม่เคยทอดทิ้งกัน ยังคงเข้าใจ เชื่อใจ และศรัทธาในแนวทางของสโมสร มาโดยตลอด สโมสรชลบุรี เอฟซี ขอให้คำมั่นสัญญาว่า สโมสรฯ จะยังคงก้าวเดินต่อไปในวิถีทางของสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ดีอย่างมั่นคง และ ยั่งยืน ด้วยขุมกำลังและระบบการพัฒนาเยาวชนที่แข็งแกร่ง โดยขอให้แฟนคลับ “ฉลามชล” ทุกท่าน มั่นใจได้ว่า สโมสรจะสามารถปลุกปั้นนักฟุตบอลฝีเท้าดีคนใหม่ขึ้นมาทดแทนสุดยอดนักเตะ อย่าง “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างแน่นอน สโมสรชลบุรี เอฟซี

ฉลามชล แถลงการณ์ปล่อยตัว "วรชิต" ซบ บีจี ปทุม เลก 2

logoline