logo-heading

สาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะตะโกนแหกปากกันลั่นซอยเลยล่ะครับ หลังจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ช่วยให้ ปีศาจแดง เฉือนเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบสะใจ 1-0 คัมแบ็กกลับไปติดทีมท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเกมนี้ จบลงด้วยความดราม่าแบบไฟลุก เพราะประตูชัยของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีการถกเถียงกันสนั่นว่า มันเป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ เนื่องด้วยภาพช้ามันดูเหลื่อมๆ แต่ผู้ตัดสินเป่าจบเกม แบบไม่ยอมเช็ค VAR ปล่อยให้ทุกอย่างคาใจ แต่หลังจากนั้นก็มีบทสรุปออกมาเรียบร้อย เอาเป็นว่าแมตช์นี้ มีอะไรต้องพูดถึงกันบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- เตะมุม = สูญเปล่า

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่า ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีเจ้าเวหาเพียบ อาทิ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ราฟาเอล วาราน หรือ แม้กระทั่ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ พร้อมกับพวกเจ้าพ่อลูกนิ่งอย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส, ปอล ป็อกบา, ลุค ชอว์ หรือ อเล็กซ์ เตลลิส แต่กระนั้น ปีศาจแดง เป็นทีมเดียวในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ ที่ยังไม่สามารถทำประตูจากลูกเตะมุมได้เลย เพราะในวันที่เจาะแนวรับคู่แข่งไม่เข้า ไอพวกลูกเซ็ตพีซนี่แหละครับ ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเอาชนะคู่แข่ง แต่กลับกลายเป็นว่า ปีศาจแดง ไม่สามารถเล่นงานจากลูกเตะมุมได้เลย โดยปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกคอเนอร์ไปแล้วเกือบ 120 ครั้ง ทว่าทุกอย่างสูญเปล่า ไม่ได้แผลงฤทธิ์ หรือ มีลูกสูตรอะไรให้เห็นถึงความอันตรายสักนิด ดังนั้นเรื่องการจบสกอร์จากลูกเตะมุม ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบว่าทำไม ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิค ถึงมีสถิติการยิงประตูอันน้อยนิด โดยนับตั้งแต่ขึ้นปี 2022 พวกเขาเพิ่งทำประตูในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปเพียงแค่ 2 ประตู เท่านั้น

- เดแคลน ไรซ์ เล่นเรียกค่าตัว

นักเตะที่โดดเด่นมากเหลือเกินในเกมนัดนี้ ต้องยกให้กับ เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ตัวรับจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เขาโชว์คลาสเรื่องของฝีเท้า ทั้งเรื่องการผ่านบอล, การวางบอลยาว, การสกัดบอลอันแม่นยำ, การหาพื้นที่เพื่อรับบอล หรือ ขึ้นไปช่วยเกมรุกหลายๆครั้ง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี ให้ความสนใจอยากได้ตัวนักหนา ยิ่งเกมเจอกับ ปีศาจแดง ยิ่งแสดงให้เห็นถึงฝีเท้าอันยอดเยี่ยม ต่อให้ เวสต์แฮม จะพ่ายแพ้ แต่มันจะเรียกค่าตัวได้มหาศาลอย่างแน่นอน เพราะ ไรซ์ มีสถิติทั้งวางบอลยาวสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์, เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 100 เปอร์เซ็นต์, จ่ายบอลแม่นยำ 97 เปอร์เซ็นต์, เก็บบอลจังหวะสอง มากถึง 12 ครั้ง เยอะที่สุดในสนาม และ ดักตัดบอลได้ 4 ครั้ง มากที่สุดในสนามเช่นกัน รอดูกันเลยว่า ซัมเมอร์นี้ ปลายทางของ เดแคลน ไรซ์ จะไปลงเอยกับสโมสรใด เพราะเจ้าตัวได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญากับ เวสต์แฮม ซึ่งก็เป็นไปตามความฝันของนักเตะ ที่ต้องการยกระดับตัวเอง เพื่อไปอยู่สโมสรที่ได้ลุ้นแชมป์

- 3 แต้มสำคัญ ต่อการลุ้นจบท็อปโฟร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ต้องกราบเรียนตามตรงว่า ซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด รากเลือดแน่นอนครับ ในการต่อสู้เพื่อคว้าตั๋วไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะคู่แข่งแย่งอันดับ 4 มีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, อาร์เซน่อล และ มีตัวแปรสำคัญอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งถ้าเกมนี้ ปีศาจแดง จบลงด้วยผลเสมอ จะเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เพราะนอกจากจะไม่แซงหน้า เวสต์แฮม แล้ว ยังทำแต้มเท่ากับ "ไก่เดือยทอง" คือ 36 คะแนน ชนิดที่แข่งมากกว่าถึง 3 นัด ด้วย เพราะถ้า สเปอร์สเก็บ 3 แต้ม ได้ทุกนัดที่เหลืออยู่ในมือ เท่ากับว่าจะมีแต้มนำหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง 9 คะแนน เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ประตูชัยนาที 90+3 ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แซงหน้า เวสต์แฮม โดยมี 38 คะแนน คัมแบ็กกลับไปตำแหน่งท็อปโฟร์ ได้อีกครั้ง ที่สำคัญทีมที่แย่งอันดับ 4 อย่าง อาร์เซน่อล ก็ไปสะดุดเสมอ เ แต่อย่างน้อยกำลังใจมันเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายขุม เนื่องจากการขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ก็จะเป็นการโยนความกดดันไปให้กับทั้ง สเปอร์ส และ อาร์เซน่อล เช่นกันว่าห้ามพลาดโดยเด็ดขาดต่อจากนี้

- การเปลี่ยนแท็คติคของ ราล์ฟ รังนิค

หากเอาผลงานเฉพาะครึ่งแรก ต้องบอกว่าฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้น่าผิดหวังมากๆ เพราะไม่มีโอกาสง้างเท้ายิงตรงกรอบเลย ส่วนใหญ่ก็ขึ้นเกมจากริมเส้น และ ใช้การครอสเข้ามาในกรอบเขตโทษ ซึ่งจังหวะที่ได้ลุ้นมากสุด ก็คงเป็นลูกที่ บรูโน่ แฟร์นานเดส เปิดให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โฉบมาโหม่ง แต่ครึ่งหลังจะเห็นเลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ปูพรมบุกใส่ เวสต์แฮม เพื่อหวังจะยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่กระนั้นก็มีทั้งยิงไปติดเซฟ และ ยิงทิ้งยิงขว้างกันหลายช็อต จนกระทั่งท้ายเกม ราล์ฟ รังนิค ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรอง ส่งทั้ง เอดินสัน คาวานี่ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาที 62 โดยยังเก็ยบ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไว้ในสนาม ประหนึ่งว่าทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ด้วยการใช้กองหน้าแม่ง 4 คนไปเลย อารมณ์เอาทีม ฟิฟโปร ปีนี้มาเป็นแบบอย่าง เพราะถ้าเสมอก็เหมือนแพ้ ดังนั้น รังนิค จึงทำทุกอย่างเพื่อหวังยิงประตูให้ได้ และ มันก็ได้ผลจริงๆครับ เพราะในช่วงทดเจ็บ ซึ่ง เวสต์แฮม ก็บุกหวังทำเซอร์ไพรส์เหมือนกัน แต่เมื่อโดนตัดบอล แล้วหลังลอย กลายเป็นโดน ปีศาจแดง บุกสวนใส่ ซึ่ง 3 ตัวสำรองนี่แหละครับที่ช่วยให้ ปีศาจแดง เก็บ 3 แต้มสำคัญ เริ่มจาก มาร์กซิยาล จ่ายให้กับ คาวานี่ ก่อนจะปาดเสาไกล ไปให้กับ แรชฟอร์ด มาแท็บอินเข้าไปง่าย นับเป็นชัยชนะที่โคตรสำคัญ แน่นอนว่าเครดิตครั้งนี้ก็ต้องให้กับ รังนิค ไปด้วย

- ดราม่า VAR 

ประตูชัยของ แรชฟอร์ด กลายเป็นดราม่าไปทั่วทุกสารทิศ เพราะมันก้ำกึ่งว่าคนที่ แอสซิสต์อย่าง คาวานี่ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าหรือไม่ เพราะมุมมองภาพช้า เหมือนว่าจะเหลื่อมนิดๆ ซึ่งปกติแล้ว VAR จะต้องตีเส้นให้แฟนบอลได้เห็นกันว่า มันเป็นลูกออฟไซด์หรือไม่ แต่ โจนาธาน มอสส์ เป่านกหวีดหมดเวลาไปเลย นอกจากจะสร้างความคาใจแล้ว ยังทำให้เกิดการตีกันของเหล่าโค้ชคีย์บอร์ดในโลกออนไลน์ด้วย อย่างไรก็ตาม VAR ได้มาเคลียร์เหตุการณ์นี้หลังจบแมตช์การเล่นแข่งขันไปแล้ว โดยตีเส้นให้เห็นเลยว่าตำแหน่งของ เอดินสัน คาวานี่ "ออนไซด์" คือไม่ล้ำหน้าอย่างแน่นอน เพราะช่วงไหล่ของ คาวานี่ อยู่ต่ำกว่าปลายสตั๊ดของผู้เล่น เวสต์แฮม ซึ่งเป็นกฎใหม่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่นำมาใช้ โดยจะไม่นับมือ เพราะมือทำประตูไม่ได้ ดังนั้นด้วยมุมกล้องที่เราเห็นจากภาพช้าในช่วงถ่ายทอดสด มันเลยเอียงนิดๆ เมื่อตีเส้นออกมา จึงปรากฏว่า คาวานี่ ไม่ออฟไซด์แต่อย่างใด แต่ก็นับเป็นดราม่า ที่ยังพูดกันไม่จบแน่นอน เพราะผู้ตัดสินปล่อยให้เกมจบคาใจแฟนบอล ที่อยากจะดูคำตัดสินในวินานั้นมากกว่า

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline