logo-heading

บิ๊กแมตช์วันอาทิตย์นัดที่ 37 ของฤดูกาล เชลซี มีคิวเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล มีพื้นที่บิ๊กโฟร์เป็นเดิมพัน

"สิงห์บลูส์" เชลซี มีคิวเปิดรัง แสตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งทางเจ้าบ้านยังคงต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นติดท็อปโฟร์ ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ขณะที่ ลิเวอร์พูล แม้จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้แล้ว แต่พวกเขาก็ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อการันตีพื้นที่ท็อปโฟร์ในฤดูกาลหน้า และจะได้งานไม่หนักในนัดสุดท้าย 1. เชลซี ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยในการพบกับ ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุด เสมอ 3 แพ้ 3 2. ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ 2 นัดหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก ในการบุกไปเยือนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างไรก็ตามพวกเขาชนะเพียง 1 นัดในการออกไปเล่นเป็นทีมเยือน 4 นัดหลังสุดในลีก ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 3. ลิเวอร์พูล ไม่เคยล้มเหลวในการทำประตู 2 นัดติดต่อกันในลีก มาตั้งแต่ สิงหาคม 2015 ตอนนั้นเป็นการทำประตูไม่ได้ 2 นัดติดต่อกันในการพบกับ อาร์เซน่อล และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่ง ลิเวอร์พูล อยู่ภายใต้การนำทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส 4. เชลซี เก็บได้เพียง 1 แต้มในการลงเล่นเกมเหย้า 2 นัดหลังสุดในลีก และเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดจาก 9 นัดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ที่พวกเขาต้องเจอกับ ท็อป 6 เสมอ 3 แพ้ 4 5. โอลิิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทำไป 4 ประตูจาก 5 เกมหลังสุดในลีก ในการพบกับ ลิเวอร์พูล 7. ลิเวอร์พูล เก็บได้ 7 คลีนชีทจาก 12 เกมหลังสุด 8. ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัดจาก 11 นัดหลังสัปดาห์ที่ต้องลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 2 9. เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เคยคุมทีม ลิเวอร์พูล พ่าย เชลซี ตลอดทั้ง 5 เกมที่ผ่านมา ชนะ 2 เสมอ 3 10. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องการอีกเพียง 1 ประตูจะทำลายสถิติยิงได้สูงสุด 32 ประตู ใน 1 ฤดูกาลที่แข่งขัน 38 นัด ซึ่งเขาทำประตูทุกเกมใน 4 เกมที่ได้ลงเล่นกับสโมสรเก่า
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline