ทัพ "สิงโตคำราม" เกือบหน้าแหกประเดิมสนามศึกฟุตบอลโลก 2018 ไม่สวยซะแล้ว แต่ยังดีได้ "เฮอร์ริเคน" กัปตันทีมเป็นฮีโร่ โขกชัยช่วงทดเจ็บ ช่วยให้เอาชนะ ตูนิเซีย ไปได้ 2-1
เกมนัดนี้ อังกฤษ เปิดฉากบุกใส่ ตูนิเซีย ตั้งแต่ต้นเกม และได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 11 จาก แฮร์รี่ เคน จากนั้นก็ยังบุกต่อเนื่อง และมีโอกาสนำห่างเป็น 2-0 หลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ จนนาทีที่ 35 ไคล์ วอล์คเกอร์ เอาแขนไปฟาดหน้า ฟาเคร็ดดีน เบน ยุสเซฟ แข้ง ตูนิเซีย ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเล เป่าจุดโทษทันที เฟอร์จานี่ ซาสซี่ ซัดเข้าไปไม่เหลือ ตูนิเซีย ตีเสมอสำเร็จ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังทัพ "สิงโตคำราม" ดันทำฟอร์มดีในครึ่งแรกหล่นหายไปไหนไม่รู้ เล่นไม่เอาอ่าว แต่ท้ายสุดโชคดีมาได้ประตูชัยจากการโขกของ "เฮอร์ริเคน" ในนาทีที่ 90+2 ทำให้ อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่าไปได้สำเร็จ และนี่คือคะแนนความสามารถของแข้งผู้ดีในเกมนี้
ตัวจริง
จอร์แดน พิคฟอร์ด 6.5
แทบไม่ได้เซฟอะไรเลย ประตูที่เสียก็มาจากลูกจุดโทษ พุ่งได้ถูกทางเกือบปัดได้เหมือนกัน
จอห์น สโตนส์ 7
ถูกเรียกติดทีมมาพร้อมคำครหาว่าไม่ดีพอ คริส สมอลลิ่ง น่าจะดีกว่า แต่เกมนี้ สโตนส์ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสมควรติดธง และมีส่วนกับการทำให้ทีมได้ประตูชัย
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 5.5
ดูยังตื่นเต้นกับการติดทีมชาติเล่นทัวร์นาเม้นท์ใหญ่เป็นครั้งแรกอยู่ ความแข็งแกร่งที่เคยทำได้ตอนเล่นให้ เลสเตอร์ หายไป ความมั่นใจก็เช่นกัน
ไคล์ วอล์คเกอร์ 5.5
เอาจริงๆ ถือว่าทำได้ดีในการโดนจับไปเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ไม่ได้ถนัด แต่การทำพลาดให้ทีมเสียจุดโทษแบบไม่สมควร ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย
คีแรน ทริปเปียร์ 7
เล่นได้ดี มีประสิทธิภาพ เติมเกมรุกได้ดี เกมรับใช้ได้ แต่ยังมีจังหวะพลาดตื่นสนามบ้างเล็กน้อย
แอชลี่ย์ ยัง 6.5
เติมเกมรุกใช้ได้ ทำได้ดี แต่จังหวะสุดท้ายไม่แน่นอน แถมเกมรับดูจะมีปัญหาอยู่ด้วย
เจสซี่ ลินการ์ด 6
มีส่วนร่วมกับเกมเยอะ ขยันวิ่ง ทุ่มเท แต่ท้ายสุดไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6.5
แข็งแกร่ง และควบคุมจังหวะเกมได้ดี มีพยายามลองยิงจากแถวสองด้วย แต่บางทีก็มีช้าๆ ไปบ้าง ไล่ไม่ทันเกม
เดเล่ อัลลี 6.5
ดูสดใส ทุ่มเท วิ่งไล่คล้าย ลินการ์ด แต่ก็คล้ายกันเช่นกันที่ท้ายสุด ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร แต่ก็ดูดีกว่าหน่อย
ราฮีม สเตอร์ลิง 6
เล่นได้ดีใช้ได้ แต่ใช้โอกาสเปลืองมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในครึ่งแรก ที่ยิงจ่อๆ ควรจะเปลี่ยนให้เป็นประตูไปแล้ว
แฮร์รี่ เคน 8 (แมน ออฟ เดอะ แมตซ์)
สมควรแล้วที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีม เป็นหัวใจหลักของทัพ "สิงโตคำราม" อย่างแท้จริง แม้บทบาทกับเกมจะไม่ได้เยอะ แต่สุดท้ายก็เป็นฮีโร่เหมา 2 ประตู แค่นี้ก็พอแล้ว
ตัวสำรอง
มาร์คัส แรชฟอร์ด 6.5
ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในนาทีที่ 68 และสร้างความวูบวามในการขึ้นเกมได้มากขึ้น แต่ปัญหาคือการตัดสินใจจังหวะสุดท้าย อย่างเช่นลูกที่หลุดไปแล้ว ควรจะยิงก็ดันไม่ยิงซะงั้น
รูเบน ลอฟตัส-ชีค 6
ลงแทน เดเล่ อัลลี ในนาทีที่ 80 เก็บบอลได้ดี พยายามเคลื่อนบอลไปข้างหน้าเปลี่ยนจังหวะเกม แต่ยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเองน้อยไปหน่อย
เอริก ดายเออร์ - ไม่มีคะแนน
ลงแทน เจสซี่ ลินการ์ด ตอน 90+2 ไม่ได้ทำอะไรเลย ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม