logo-heading

อาร์เจนติน่า ดวลแข้งกับ ไนจีเรีย เป็นเกม ฟุตบอลโลก 2018 อีก 1 แมตช์ ที่มีประเด็นดราม่า และต้องห้ำหั่นกันแบบมันส์หยด และลุ้นตัวเกร็งจนถึงวินาทีสุดท้าย

จากฟอร์มการเล่นอันน่าผิดหวังของ อาร์เจนติน่า ใน 2 นัดแรกทำให้หลายๆ คนมั่นใจว่าพวกเขาคงไม่น่ารอดจากรอบแบ่งกลุ่มนี้แน่ แต่สุดท้ายโชคชะตามันก็กำหนดให้เขาได้ไปต่อ และนี่คือสิ่งต่างๆ ที่คุณควรรู้หลังจบเกมๆ นี้ - ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ลิโอเนล เมสซี่ นั้นคือประตูแรกที่เขายิงให้ อาร์เจนติน่า เป็นลูกแรกใน ฟุตบอลโลก หลังยิงไม่ได้มานานถึง 662 นาที และครั้งสุดท้ายที่เขายิงได้ก็คือการยิงใส่ ไนจีเรีย นี่แหละในปี 2014 - ลิโอเนล เมสซี่ คือผู้เล่นคนที่ 3 ของ อาร์เจนติน่า ที่ยิงประตูได้ใน ฟุตบอล 3 ครั้ง (2006, 2014, 2018) ต่อจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า (1982, 1986, 1994) และ กาเบรียล บาติสตูต้า (1994, 1998, 2002) - ลิโอเนล เมสซี่ มีส่วนร่วมถึง 50 เปอร์เซนต์จาก 6 ประตูที่ยิงใส่ ไนจีเรีย ทั้งหมดในศึก ฟุตบอลโลก โดยยิงได้ 3 ประตู - นอกจากนี้ ประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ นั้นคือประตูที่ 100 พอดีใน ฟุตบอลโลก 2018 - เมื่อใดก็ตามที่ อาร์เจนติน่า ยิงประตูขึ้นนำคู่แข่งใน ฟุตบอลโลก พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 40 เกมติดต่อกัน โดยชนะ 35 และเสมอ 5 นัด - มาร์กอส โรโฮ คือผู้ยิงประตูชัยพา อาร์เจนติน่า ชนะ ไนจีเรีย 2-1 และถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อ ฟุตบอลโลก 2014 เขาก็ยิงประตูได้ในเกมกับ ไนจีเรีย เช่นกัน ซึ่งเป็นเวลากว่า 1,462 วันมาแล้ว - อาร์เจนติน่า เอาชนะ ไนจีเรีย ได้ทั้ง 5 ครั้งที่เจอกันใน ฟุตบอลโลก (1994, 2002, 2010, 2014, 2018) - อาร์เจนติน่า สามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ใน ฟุตบอลโลก ได้เป็นครั้งที่ 4 ครั้งติดต่อกัน (2006, 2010, 2014, 2018) - ฟรังโก้ อาร์มานี่ เป็นผู้รักษาประตูคนที่ 17 ของ อาร์เจนติน่า ที่ลงเป็นตัวจริงใน ฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นสถิติที่มากกว่าทุกๆ ชาติ - 30 ปีกับอีก 189 วัน นี่คือค่าเฉลี่ยอายุของผู้เล่นทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมกับ ไนจีเรีย ซึ่งถือว่าแก่ที่สุดใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้  

-HaMuDosSantos-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline