logo-heading

นับตั้งแต่ปี 2008 รางวัล "บัลลง ดอร์" ก็กลายมาเป็นของตายระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงจากค่าย บาร์เซโลน่า หรือไม่ก็ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์จาก เรอัล มาดริด ซึ่งสลับเปลี่ยนได้โทรฟี่กันมาละคนละ 5 ครั้ง จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมีอยู่หลายๆปีที่โดนครหาอยู่บ้าง

ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลโลก ปี 2010 และ 2014 เพราะนักเตะที่ได้รางวัลกลับไม่ใช่นักเตะที่เป็นแชมป์ "เวิลด์ คัพ" หรือ ควรได้ ทั้งๆที่ อันเดรส อิเนียสต้า, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ มานูเอล นอยเออร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น แต่กระนั้น ฟุตบอลโลก 2018 คราวนี้ รางวัล "บัลลง ดอร์" ไม่ได้เกี่ยวข้อง ฟีฟ่า อีกแล้ว จะมาจากการโหวตของนักข่าวล้วนๆ

ฉะนั้นจากการตกรอบ ฟุตบอลโลก 2018 อย่างรวดเร็ว กับทั้ง อาร์เจนติน่า และ โปรตุเกส ทำให้มีโอกาสที่ บัลลง ดอร์ จะเปลี่ยนมือ เพราะ "เวิลด์ คัพ" คือการวินิจฉัยคะแนนชั้นดีว่านักเตะคนใดมีโอกาสซิวรางวัล "บัลลง ดอร์" เมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ โอกาสที่บัลลังค์ของ ทั้ง เมสซี่ และ โปรตุเกส มีสูงไม่น้อย ด้วยสาเหตุ ...

  1. ตกรอบอย่างเร็วในศึก ฟุตบอลโลก
  • ต่อให้ ลิโอเนล เมสซี่ จะพา บาร์เซโลน่า คว้าดับเบิ้ลแชมป์ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะสร้างสถิติด้วยการนำ เรอัล มาดริด ซิวโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน แต่กระนั้นในศึก ฟุตบอลโลก 2018 นับว่าทั้งคู่สอบตกเหมือนกัน โดยเฉพาะ เมสซี่ ซัดไปได้แค่ประตูเดียว ที่สำคัญไปกว่านั้นทั้งดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า และ ยอดดาวยิงจากโปรตุเกส ควงแขนกันตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย "เวิลด์ คัพ" กันทั้ง 2 คน นับว่าคะแนนในการลุ้น "บัลลง ดอร์" อาจจะลดน้อยลงไปอีก
  1. เนย์มาร์ รอเสียบ
  • ไม่ว่าโลกลูกหนังจะมีเหล่าร่างทรงบ้างหรือไม่ แต่กูรูทุกสำนักต่างก็ฟันธงไว้ว่า หากวันใดเมื่อหมดยุค ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รางวัล "บัลลง ดอร์" อาจเปลี่ยนฝั่งมาอยู่กับ เนย์มาร์ ดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโร ถึงแม้สไตล์การเล่นอาจจะดูแอ็คอาร์ต, เอาแต่เลี้ยงบอล และ โอเวอร์แอคติ้งเยอะไป แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เนย์มาร์ คือคนสำคัญทำให้ "เปแอสเช" ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์ในลีกฝรั่งเศส และเวที ฟุตบอลโลก 2018 โดย เนย์มาร์ ยังอยู่ในเส้นทางรอบ 8 ทีมสุดท้าย หากเขาช่วย "แซมบ้า" ฝ่าฟันอุปสรรค ก้าวไปประสบความสำเร็จ บางที "บัลลง ดอร์" อาจมาเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้
  1. คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ คือตัวแปรสำคัญ
  • ว่ากันว่าตัวแปรการลุ้นรางวัล "บัลลง ดอร์" ครั้งนี้ อาจจะมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาเบียดแทรกแย่งกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ จากการโชว์ฟอร์มให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ทว่า "โม ซาลาห์" ก็ร่วงไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก เช่นกัน จนกระทั่งถึงคิว คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งแคนดิเดต โดยเฉพาะการลากเลื้อยครึ่งสนาม เรียกจุดโทษให้กับ ฝรั่งเศส พร้อมยิงอีก 1 ประตู ช่วยให้ทัพ "ตราไก่" ยิงเฉือน "ฟ้า-ขาว" แบบสุดมันส์ 4-3 ซึ่งหาก เอ็มบัปเป้ โชว์ฟอร์มได้แบบนี้ไปอีก 2-3 นัด จนพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์แล้วล่ะก็ อาจมีเซอร์ไพรส์เรื่องคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ เหมือนกัน
  1. ต้องออกสตาร์ทซีซั่นให้ดีเท่านั้น
  • การประกาศผลรางวัล บัลลง ดอร์ จะมีขึ้นในช่วงปลายปี หรือเดือนธันวาคม ดังนั้นการรักษาผลงานอันยอดเยี่ยมให้ได้อย่างต่อเนื่อง นับว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักเตะ ถ้าหาก ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงออกอาการเมาหมัด จากควันหลง ฟุตบอลโลก แล้วไม่สามารถเร่งฟอร์มเทพออกมาได้ช่วงออกสตาร์ทซีซั่น และปล่อยให้ผู้เล่นที่โดดเด่นในศึก ฟุตบอลโลก 2018 อย่าง เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ เปล่งกระกายออร่าออกมา บางทีการโค่นบัลลังค์ "บัลลง ดอร์" ในรอบ 10 ปี คงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline