ทำไม ลีกจีน ถึงรวยจัง?

"ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ อั่งเปา ตั่วๆ ไก๋" สวัสดีวันปีใหม่จีนนะครับทุกท่าน 16 ก.พ. สารภาพตามตรง จริงๆ แล้วบ้านผมก็มีเชื้อจีนแหละ ต้องไหว้ทุกปี แต่ช่วงนี้ผมทำงานดึก เวลาไม่เหมือนชาวบ้านเค้า นอน 6 โมงเช้าตื่น บ่าย 2 แทบทุกวัน เลยกราบเรียน ป๊า-ม๊า ไว้ตั้งแต่ต้นเลยว่าปีนี้ขอไม่ไหว้นะ ทีนี้พอไม่ไหว้ แกก็เลยไม่เรียกไปเลย ทำให้ไม่รู้วันไหนวันเที่ยว วันจ่าย วันตรุษจีน แต่เอาเป็นว่า มันอยู่ในช่วงๆ นี้แหละ 555

  ไหนๆ ก็เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ผมก็เลยถือโอกาสเขียนสกู๊ปถึง ลีกจีน สักหน่อยละกัน มีคำถามนึงที่ผมได้ยินมาตลอด ได้ยินเป็นประจำว่า เห้ย ลีกจีน มันเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะวะ? ทำไมมีปัญญาซื้อนักเตะเก่งๆ ที่หลายทีมดังในยุโรปเค้าแย่งกัน ทำไมมีปัญญาจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาล บางคนได้ค่าเหนื่อยมากกว่า ปอล ป็อกบา ด้วยซ้ำ มันยืมเพื่อนมารึป่าว? วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ครับ   เซดริก บากัมบู และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ คือ 2 แข้งดังรายล่าสุดที่ถูกเงินหยวนดูดไปเล่นที่แดนมังกร เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยรายแรกนั้นย้ายจาก บียาร์เรอัล ไปอยู่กับ ปักกิ่ง กั๋วอัน ด้วยค่าตัวสูงถึง 65 ล้านปอนด์ หรือเท่าๆ กับ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้า เชลซี เลยทีเดียว! ส่วน มาสเคราโน่ แม้ว่าอายุอานามจะปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แต่ บาร์เซโลน่า ก็ยังขายให้ เหอเป่ย ไชน่า ฟอร์จูน ได้ที่ราคา 5.5 ล้านยูโร   [caption id="attachment_2990" align="aligncenter" width="500"] งานเลี้ยงอำลา มาสเคราโน่ ก่อนไปลีกจีน[/caption]   เมื่อราว 3-4 ปีก่อนที่ ลีกจีน เริ่มประกาศศักดาความรวยแบบจริงๆ จังๆ สารภาพตามตรงว่าผมไม่เชื่อน้ำยาเลยว่าจะอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ปรามาสเอาไว้ว่าเต็มที่ 2 ปี ก็ล้มละลาย ฟองสบู่แตกละ แต่พอเวลาผ่านไป มันก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ลีกของเขาไม่ใช่เศรษฐีจอมปลอม แต่แม่งรวยจริง แต่ประเด็นคือ "แล้วมึงเอาเงินกันมาจากไหนวะ?"   ประเด็นนี้ผมรู้คร่าวๆ ว่า ทุกทีมในลีกจีน มีรัฐบาลมาคอยสนับสนุนด้านการเงิน แต่สนับสนุนเพื่ออะไร สนับสนุนเท่าไหร่ และสนับสนุนทำไม อันนี้ผมไม่ทราบ จึงได้ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมไปดู สารภาพตามตรงอีกครั้งว่าเรื่องนี้ผมเคยเขียนไปแล้วทีนึงเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วตอนทำงานที่เก่า แต่ตอนนี้ต้องมานั่งข้อมูลรื้อฟื้นความทรงจำใหม่หน่อย เพราะ. ..ลืม!! แฮร่   [caption id="attachment_2987" align="aligncenter" width="500"] สี จิ้นผิง ผู้นำจีน[/caption]   หลังจากที่ลองรื้อข้อมูลอีกครั้ง บวกกับเรียกความทรงจำที่ฝังอยู่ในซิลิบัม ก็พอจะนำมาอธิบายให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพง่ายๆ ได้ประมาณนึง ลองไปทำความเข้าใจกันดูนะครับ ว่าจะรู้เรื่องมั้ยเอ่ย เพราะจริงๆ แล้วแหล่งข้อมูลที่ผมค้นคว้าเนี่ย มันอธิบายได้ยายเหยียด งงงวยมาก ลากยาวไปถึง เศรษฐกิจชาติ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ค่าจีดีพี ไทร์ 3 ทร์ 4 อะไรของแม่งก็ไม่รู้ยืดยาว ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี จึงจะพยายามนำเรียนทุกท่านเป็นข้อๆ ตามภาษาชาวบ้านละกันเน๊อะ   คำถามที่ว่า เอาเงินมาจากไหน? คำตอบคือ รัฐบาลจีน ที่นำโดยท่าน สี จิ้นผิง เป็นผู้สนับสนุนครับ     ท่าน สี จิ้นผิง เป็นผู้คิดนโยบายนี้ด้วยตัวเอง เพื่อต้องการให้คนทั้งโลกเห็นถึงอำนาจเงิน และอำนาจการลงทุนของแดนมังกร รวมถึงเป็นการโปรโมทลีกจีน ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้จักให้เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก ซึ่งถึงตอนนี้ต้องบอกว่า ท่านทำสำเร็จแล้วครับ!     แน่นอนว่าการลงทุนอย่างบ้าคลั่งชนิดที่เอา "เสี่ยหมี" เจ้าของเชลซี, "ท่านชีค" เจ้าของ แมนฯ ซิตี้ และ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ เจ้าของ เปแอสเช มามัดรวมกันจะสู้ไหวรึป่าวก็ไม่รู้ คงไม่ได้หวังแค่จะโปรโมทลีกจีนให้เป็นที่รู้จัก หรือแค่อวดรวยให้ทั่วโลกได้เห็นแน่นอน เพราะเป้าหมายหลักของท่าน สี จิ้นผิง มีอยู่ 3 ข้อ คือ  

1. ต้องการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เพื่อจะได้แสดงศักยภาพของประเทศจีนให้ทั่วโลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นความเจริญ เทคโนโลยี วัฒนธรรม หรืออะไรต่างๆ นาๆ เหมือนที่ จีนเคยทำไว้ได้อย่างดีสมัยเป็นเจ้าภาพ โอลิมปิก เกมส์
2. จริงๆ แล้วข้อนี้ก็แตกย่อยมาจากข้อแรกนั่นแหละ นั่นคือการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้ แต่ถ้าได้เป็นเจ้าภาพมันก็ได้สิทธิ์อัตโนมัติแล้วไง ซึ่งถ้าข้อแรก ฟีฟ่า ไม่อนุมัติมันก็ต้องมาทำข้อ 2 แทน เพื่อเป้าหมายใหญ่สุดในข้อที่ 3
3. คว้าแชมป์โลก!!

  ใช่ครับ สี จิ้นผิง เขามองไกลไปถึงการคว้าแชมป์โลกเลยทีเดียว ถึงได้ยอมทุ่มเงินมหาศาลลงทุนกับลูกหนังแดนมังกรขนาดนี้ โดยเขาได้กำชับด้วยว่าต้องทำให้ได้ภายในปี 2050 หรืออีก 30 กว่าปีข้างหน้า     รัฐบาลจีนมองว่า การที่มีนักเตะเก่งๆ ดังๆ เข้ามาเนี่ย จะช่วยยกระดับฝีเท้าของแข้งจีนที่เล่นในลีกเดียวกัน หรือทีมเดียวกันขึ้นไปได้ เหมือนเราได้ฝึกกับคนที่เก่งกว่าทุกๆ วัน ได้เรียนรู้ ดูเทคนิค ก็จะทำให้เราแกร่งขึ้นไปด้วย ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อฟุตบอลในจีนเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นแทน บาสเก็ตบอล แถมค่าเหนื่อยก็ได้รับมหาศาล มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ เด็กๆ และเยาวชน อยากจะโตขึ้นเป็นนักฟุตบอล ก็จะเริ่มฝึกฝนฝนเท้าตั้งแต่เด็ก เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง พร้อมกับรายได้ที่มหาศาล     ไม่ต้องห่วงครับ สมาคมฟุตบอลแดนมังกร เขาก็มีการจำกัดโควต้าต่างชาติเหมือนบ้านเรานี่แหละ โดยทุกทีมจะลงทะเบียนแข้งต่างชาติได้แค่ 6 ราย มีชื่ออยู่ในทีมแต่ละนัดได้ไม่เกิน 4 คน และส่งลงเล่นพร้อมกันได้มากสุดแค่ 3 คนเท่านั้น และต้องมีนักเตะจีนที่อายุไม่เกิน 23 ปี ลงเล่นไม่น้อยกว่าแข้งต่างชาติที่ลงเล่นในเกมนั้นด้วย   เห็นมั้ยครับ ทางจีนเขาดักไว้หมดแล้ว ใช้เงินซื้อมาแพงก็จริง แต่ก็ไม่ใช่มึงจะแห่ลงกันมาหมด มึงต้องลงในสนามได้แค่ 3 คน และต้องมีแข้งดาวรุ่งเลือดมังกรอีกอย่างน้อย 3 คน ลงไปหวดสนามเดียวกับมึง เพื่อฝึกปรือฝีเท้า เรียกได้ว่ากฏนี้ เฉียบมากครับ! เท่านั้นไม่พอ กฏของสมาคมฟุตบอลจีน ยังห้ามใช้ผู้รักษาประตูต่างชาติอีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เราไม่เคยเห็นข่าวลีกจีน สนทุ่มดึง เด เคอา เฝ้าเสา! 555   และทั้งหมดนี้คือที่มาของคำถามที่ว่า "ลีกจีน มึงเอาเงินมาจากไหนวะ?" หวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจมากขึ้นเน๊อะ นี่พยายามเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายที่สู๊ดแล้ว ทีนี้เราก็ต้องจับตาดูต่อไปว่า ลีกจีน จะบูมอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน เป้าหมายที่ สี จิ้นผิง ตั้งเอาไว้ว่าภายในปี 2050 จะต้องได้แชมป์โลก จะสำเร็จหรือไม่ แข้งดังคนต่อไปที่จะย้ายเข้ามาอีกคือใคร?

แต่ผมเชื่อเลยว่า ตรุษจีนปีนี้บรรดาเหล่าเจ้าของสโมสร ต่างไหว้พระขอพรกันว่า อย่าให้ทีมกูได้เจอแจ็คพ็อตไปซื้อนักเตะสันดานแบบ คาร์ลอส เตเบซ เข้ามาร่วมทีมเลยนะ สาธุ๊! เพราะนอกจากค่าตัวจะแพงหูฉี่ ค่าเหนื่อยสูงสุดในโลก ผลงานแสนกระจอก ปากมันยังหมาอีกด้วย พอย้ายออกไปด่าประเทศกูซะเละเทะเลย!!

ชิน ชินพัฒน์