logo-heading

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษในสัปดาห์ที่ 2 ได้หวดกันครบไปแล้วทั้ง 10 คู่ นักเตะที่โดดเด่นมีมากมายหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้แบบน่าโค้งหัวคารวะเสียเหลือเกิน

โดยเฉพาะแฮททริกของ 'เซร์คิโอ อเกวโร่' และนอกเหนือจากนั้นจะมีใครอีกบ้างวันนี้ทีมงานขอบสนามจึงคัดสรรมาให้ได้รับชมกันแล้ว ผู้รักษาประตู นีล เอเธอริดจ์ (คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้) ไม่รู้ว่านายทวารทีมชาติฟิลิปปินส์แขวนหลวงพ่ออะไรลงสนามถึงเหนียวหนึบขนาดพาต้นสังกัดรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ หลังจากเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย คงไม่แปลกที่สัปดาห์นี้เจ้าตัวจะได้รับตำแหน่งโกลยอดเยี่ยมไปครอบครอง   กองหลัง คีแรน ทริปเปียร์ (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์) กลายเป็นแบ็คขวาหมายเลข 1 แห่งเกาะอังกฤษไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ คีแรน ทริปเปียร์ รับก็ดียิ่งเกมรุกนั้นสะเด่าไม่ใช่น้อย และกับอาวุธใหม่ที่เป็นเครื่องหมายการค้าอย่างฟรีคิกที่แม่นยิ่งกว่าจับวาง ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว สตีฟ คุ๊ก (บอร์นมัธ) ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่เจ้าตัวฉายแววโดดเด่นได้ไม่ใช่น้อย การเคลียร์บอลได้มากถึง 11 ครั้งในเกมกับเวสต์แฮมและนอกจากนั้นยังขึ้นไปพังประตูสำคัญชัยพาทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญ ทำให้ทีมได้รับชัยชนะมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว เชน ดัฟฟี (ไบรท์ตัน & ฮอฟ อัลเบียน) ถึงแม้จะเสียไปถึง 2 ประตูแต่ว่านี้เป็นอีก 1 จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการพา 'เจ้านกนางนวล' เก็บชัยชนะเหนือแมนฯ ยูไนเต็ด การจัดการกับแนวรุกของปีศาจแดงทั้ง 'โรเมลู ลูกากู' หรือลูกกลางอากาศของ 'มารูยาน เฟลไลนี่' เจ้าตัวก็จัดการได้แบบเนียนกริ๊บเลยทีเดียว มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี) ถึงแม้ว่าจะปรับมาเล่นแบ็คซ้ายแบบเต็มตัวในซีซั่นนี้ภายใต้เจ้านายคนใหม่อย่าง 'เมาริซิโอ ซาร์รี่' แต่เจ้าตัวก็ยังคงฟอร์มได้แบบแจ่มแมวแวววับอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้นทีเด็ดของเขาคือการเติมเกมรุกสอดขึ้นไปทำประตูอย่างเช่นการพังตาข่าย 'ไอ้ปืนใหญ่' ในเกมล่าสุด กองกลาง ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) กองกลางพ่อลูกอ่อนผู้นี้ยังคงโชว์ฟอร์มลูกเล่นได้อย่างแพรวพราวไฉไลเป็นบ้าอยู่เหมือนเดิมเหมือนเดิม การสร้างสรรค์เกมรุกและการซัดฟรีคิกแบบปลิดวิญญาณยังคงเป็นหมายการค้าของเจ้าตัวเหมือนเดิมเสมอ เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล) ได้ออกสตาร์ทเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันและยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมนอกจากนั้นยังเป็นคนไว้ใจเสมอยามทีมได้ลูกจุดโทษ และประตูจากจุด 12 หลาล่าสุดนั้นเป็นการซัดเข้าไปครั้งที่ 13 จากการยิงจุดโทษ 15 ครั้งหลังสุด และนอกจากนั้น 48 นัดมาแล้วที่เมื่อไหร่เจ้าตัวลั่นสกอร์ได้ต้นสังกัดจะสะกดคำว่า ‘แพ้’ ไม่เป็น! อ็องโตนี่ น็อคการ์ต (ไบรท์ตัน & ฮอฟ อัลเบียน) โดดเป็นอย่างมากในแผงเกมรุกในวันที่ต้องเจอกับบิ๊กทีมอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด การมีส่วนร่วมกับทีมตลอดเวลาพลันที่ต้นสังกัดได้เปิดเกมรุกเข้าใส่ และยังต่อสู้กับพวกมิดฟิลด์ค่าตัวแพงของป๊ศาจแดงได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะนำมาซึ่ง 1 แอสซิสต์เป็นของขวัญให้กับเจ้าตัวในเกมนี้ กองหน้า ริชาร์ลิสัน (เอฟเวอร์ตัน) โดดเด่นไม่ใช่น้อยกับสีเสื้อใหม่และการบริหารงานโดยเจ้านายรู้ใจคนเก่า การประเดิมลงสนามเป็นตัวจริงถึง 2 นัด และตอบแทนความไว้ใจโดยการพังได้ถึง 3 ประตู ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ที่ 'เดอะ ทอฟฟี่' ลงทุนไปกำลังเฉิดฉายแสงแล้ว เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) คงไม่ต้องพูดให้มากความสำหรับหัวหอกจอมกระซวกประตูรายนี้ และกับ 3 ประตูในเกมกับฮัดเดอร์ฟิลด์นั้นส่งผลให้เจ้าตัวทำแฮททริกบนเกาะอังกฤษไปแล้วถึง 9 ครั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเจ้าของตำแหน่งที่ 11 ครั้งอย่าง 'อลัน เชียร์เรอร์' คงเกิดอากาศหนาวลั่นไม่ใช่น้อย ทรอย ดีนี่ย์ (วัตฟอร์ด) หัวหอกร่างใหญ่ของทีมแตนอาละวาดกำลังอยู่ฟอร์มที่เข้าฝักแบบเต็มขั้น โดยในเกมล่าสุดถือเป็นแข้งรายสำคัญที่พาต้นสังกัดบุกไปถล่มเบิร์นลี่ย์แบบสบายๆ 0-3 ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 1 ประตูพ่วงกับอีก 1 แอสซิสต์ พาแตนตัวนี้บินไปเกาะอยู่หัวตาราง ณ ปัจจุบัน  
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline