logo-heading

ซานติ กาซอร์ล่า มิดฟิลด์มากประสบการณ์ของ บียาร์เรอัล เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ช่วงชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังเป็นเวลาประมาณ 2 ปี โดยยอมรับว่าสาเหตุที่ทำให้ตนเองเกือบจะต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต มีต้นตอมาจากเชื้อแบคทีเรีย ที่กัดกินเส้นเอ็นบริเวณข้อเท้าจนแทบไม่เหลือชิ้นดี

ก่อนหน้านี้ อดีตมิดฟิลด์ อาร์เซน่อล ได้เคยโชว์ภาพสยอง ให้เห็นถึงแผลผ่าตัดบริเวณเอ็นร้อยหวายเท้าข้างขวาถึง 8 ครั้ง และ ต้องเสียเนื้อตรงเส้นเอ็นไปถึง 8 เซนติเมตร ถึงขั้นต้องใช้หนังจากท่อนแขน ไปช่วยแปะไว้ตรงรอยผ่าตัด ซึ่งมันร้ายแรงเกือบจะต้องตัดขาทิ้ง อย่างไรก็ตาม หลังจาก กาซอร์ล่า ต้องร้างสนามไปเกือบทิ้ง 2 ปี ก็กลับมาลงสนามได้สำเร็จ หลังจากย้ายมาอยู่กับ บียาร์เรอัล โดยเจ้าตัวได้เล่าช่วงชีวิตที่ต้องผ่านสถานการณ์อันเลวร้าย โดยระบุว่า "ผมติดเชื้อตอนที่อยู่ในห้องผ่าตัด และ มันเป็นความจริงที่แผลนั้นมันเปิดอยู่ ขนาดตอนที่ผมไปปั่นจักรยาน แผลที่เย็บไว้มันก็ฉีกออกมา แบคทีเรียเลยเข้าไปได้ อีกทั้งช่วงกลางคืนก็มีน้ำหนองไหลออกมาจากบาดแผลด้วย "ทุกครั้งที่คุณหมอเย็บให้ผม แผลมันก็ฉีกอยู่ตลอด ทำให้มีน้ำเหลืองออกมาเยอะขึ้น พวกเขาปลูกถ่ายผิวหนังให้กับผม แต่กลับไม่เห็นเลยว่ามีอะไรอยู่ในแผลผมบ้าง แบคทีเรียมันชอนไช และกัดกินเส้นเอ็นของผมทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยที่คุณหมอก็ไม่ได้ตรวจสอบด้วยว่ามันเป็นแบคทีเรียประเภทใด และ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเส้นเอ็นของผมโดนแบคทีเรียกัดกินไปมากขนาดไหนแล้ว" "หมอศัลยแพทย์บอกผมว่า ผมจะต้องเปิดแผลไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอเส้นเอ็น และเมื่อคุณหมอผ่าตัดผม พวกเขาเห็นเลยว่าเส้นเอ็นของผมหายไปประมาณ 10 เซนติเมตรแล้ว พวกเขาบอกว่า ผมโชคดีมาก เพราะจริงๆมันอาจโดนกัดกินมากกว่านี้ โดยตอนที่คุณหมอได้สร้างเส้นเอ็นผมขึ้นมาใหม่ พวกเขาตระหนักเลยว่าสภาพกระดูกของผมมันเลวร้ายขนาดไหน เขาสามารถใช้นิ้วแหย่ลงไปได้เลย มันให้อารมณ์เหมือนดินน้ำมัน ซึ่งมันอันตรายมาก ความจริงอันแสนโหดร้าย!ผมเกือบถูกตัดขาเพราะเชื้อ แบคทีเรีย : กาซอร์ล่า
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline