logo-heading

ไร้เทียมทานจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างเด็ดขาดไล่ต้อนเอาชนะ อาร์เซน่อล ไปแบบขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์ "คาราบาว คัพ 2018" ไปครองเป็นแชมป์แรกในซีซั่นนี้ ผลงาน "เรือใบสีฟ้า" โดดเด่นขนาดไหน ส่วน "ไอปืนใหญ่" ใครผ่าน ใครแย่ ทีมงานขอบสนามจะมาตัดเกรดให้รับชมกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคลาดิโอ บราโว่ (6.5) ไม่ค่อยมีงานยากมากนักตลอด 90 นาที แต่มีช็อตเหวอออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษแล้วเตะวืด โชคดีไม่เสียประตู แต่ที่ยังให้คะแนนเนี่ย ให้เพราะความดีความชอบจากการเซฟลูกยิงของ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง กับ ใช้ขาดักลูกหลุดเข้ามาของ อเล็กซ์ อิโวบี้ ไคล์ วอล์คเกอร์ (8) ทำหน้าที่เกมรับฝั่งขวาได้อย่างไร้ติ ที่สำคัญหุบเข้ามาช่วยเซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้ด้วย โดยสามารถบล็อคลูกยิงคู่แข่งถึง 2 ครั้ง แว็งซ็องต์ ก็องปานี (9) อาการบาดเจ็บคืออะไร ? ก็องปานี เล่นเหมือนคนไม่เคยมีปัญหาเดี้ยงมาก่อน ทั้งสปีดวิ่งเบียดกับ โอบาเมยอง ได้แบบชิลล์ๆ, ขึ้นมาทำประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-0 ช่วงนำขาด 3-0 นึกว่าตัวเองเป็น เดอ บรอยน์ หรือไม่ก็ ซิลบา เพราะขึ้่นมายืนสูงกว่ากองกลางเสียอีก นิโคลัส โอตาเมนดี้ (7.5) ตำแหน่งดี ยืนเยี่ยม เกมรุก อาร์เซน่อล แทบไมได้กระดิก และมีจังหวะช่วยสกัดจังหวะช่วงท้ายเกม ไม่ให้ทีมเสียประตู คว้าแชมป์ไปแบบคลีนชีต ดานิโล่ (7.5) อาจจะไม่โดดเด่นเท่า วอล์คเกอร์ แบ็กขวา แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้สร้างข้อบกพร่องอะไรให้กับทีม แถมยังเป็นคนแหวกผู้เล่น อาร์เซน่อล และไหลยบอลไปให้กับ ดาบิด ซิลบา พลิกตัวเข้าไปยิงนำ 3-0 แฟร์นานดินโญ่ (6.5) แฟร์นานดินโญ่ โชคดีเหมือนกัน ที่มีจังหวะไปเข้าช้าใส่ผู้เล่น อาร์เซน่อล ทั้งที่มีใบเหลืองติดตัว จากนั้นก็มีอาการบาดเจ็บ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม อิลคาย กุนโดกัน (7) อาจจะไม่โดดเด่นเมื่อมองรูปเกมโดยรวม แต่การครองบอลของเขา, การออกบอล มักทำให้ทีมเล่นบอลจังหวะต่อไปได้ดีเสมอ แถมเป็นคนยิงยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ให้ ก็องปานี สะกิดเปลี่ยนทาง ดาบิด ซิลบา (8) เซ้นส์บอลของ ดาบิด ซิลบา เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองมากๆ โดยเฉพาะลูก 3 ด้วยการปล่อยบอลไหล จากจังหวะพิงกองหลังคู่แข่ง ก่อนพลิกตัวเข้าไปยิงผ่านมือ ออสปิน่า นำ 3-0 ตอกฝาโรง เควิน เดอ บรอยน์ (7) เกมนี้ เดอ บรอยน์ ค่อนข้างเงียบผิดปรกติ การจ่ายบอลช่วงครึ่งแรกดูขาดๆเกินๆ แต่อย่างน้อยเป็นตัวเริ่มจากการทำให้ทีมได้ประตู 2 ด้วยจังหวะเตะมุม เลรอย ซาเน่ (7) ดูแล้ว เลรอย ซาเน่ ยังไม่ค่อยฟิตเต็ม 100 % เพราะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ เลยไม่ค่อยได้โชว์ความหวือหวามากนัก แต่กระนั้นก็ปั่นป่วนแนวรับ อาร์เซน่อล ได้ดีเหลือเกิน เซร์คิโอ อเกวโร่ (6) เรื่องความเฉียบคมต้องยกให้เขาคนนี้ อเกวโร่ สามารถชิงเหลี่ยมเอาชนะ ชโคดราน มุสตาฟี่ มาได้ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ดาวิส ออสปิน่า ก่อนจะกระดกข้ามหัวเข้าไปอย่างเหนือชั้น ยิงให้ทีมนำ 1-0 สำรอง แบร์นาโด้ ซิลวา (6) ได้ลงมาอยู่ในสนามมากกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ไม่ค่อยมีบทบาทอะไร มีหน้าที่เชื่อมเกมในจังหวะบุก กาเบรียล เชซุส (6) สลัดเดี้ยงกลับมาลงสนามในรอบเกือบ 2 เดือน ได้อีกครั้ง และได้อยู่ในสนามได้ประมาณ 15 นาที นอกจากมาวิ่งเพื่อเคาะสนิม ก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ฟิล โฟเด้น (-) ลงสนามมาก็เกือบจะครบ 90 นาทีอยู่แล้ว ได้โอกาสสัมผัสบอล ด้วยการเลี้ยงไต่เส้นแค่นั่น คะแนนก็เลยไม่มีให้ อาร์เซน่อล ดาวิด ออสปิน่า (5.5) ตรงเป็นตุง ! ออสปิน่า ไม่สามารถป้องกันลูกยิงของ แมนฯ ซิตี้ ได้เลย เมื่อถูกซัดตรงกรอบ แถมมีเล่นจังหวะหวาดเสียวอีกตั้งหาก โดยเฉพาะการไหลบอลผ่านหน้า อเกวโร่ คาลั่ม แชมเบอร์ส (6) ถูกใส่ชื่อลงสนามเป็นตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์เช่นกัน เพราะเป็นกองหลังที่โปรไฟล์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่กระนั้นเกมกลับทำผลงานในตำแหน่งกองหลัง 3 คน ได้ดีที่สุด ชโคดราน มุสตาฟี่ (5) ตัวเกมทำให้ อาร์เซน่อล เสียประตูแรก เพราะไปยืนอยู่ข้างหน้า อเกวโร่ และประกอบค่อนข้างห่าง จังหวะที่โดนยิง พยายามจะป้องว่าโดนกระแทก แต่เปล่าเลย มันเป็นเหลี่ยมการชิงบอล ซึ่งเขาเสียท่าสุดๆ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ (5.5) แทบไม่สามารถช่วยอะไรแนวรับได้เลย จะมีเพียงแค่ตามมาสกัดในจังหวะเกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ ส่วนการถ่ายบอลก็ดูค่อนข้างช้า ! เอ็คตอร์ เบเยริน (6) เบเยริน มีพลังและความมุ่งมั่น และรับมือกับ เลรอย ซาเน่ ได้ดี แต่เมื่อภาพรวมของทีมค่อนข้างแย่ ก็เลยช่วยทีมมากไม่ได้ นาโช่ มอนเรอัล (5) ประสานงานกับเพื่อนได้ไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับ วิลเชียร์ แถมยังมาบาดเจ็บแผ่นหลังต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปอีก อาร่อน แรมซี่ย์ (5) แรมซี่ย์ เคยเป็นฮีโร่พาทีมคว้าแชมป์ แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้ สปีดดูเชื่องช้า แถมก็ไม่สามารถสู้กับกองกลาง แมนฯ ซิตี้ ได้เลย แต่ยังพอมีจังหวะถ่ายบอลขึ้นหน้าได้บ้าง กรานิต ชาก้า (4.5) ตอกย้ำเรื่องหนึ่งในผู้เล่นที่ อาร์เซน่อล ซื้อมาแล้วห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แบบที่หลายคนวิจารณ์กัน พลังขับเคลื่อนเกมไม่มี ตัดบอลไม่ได้ วางบอลก็ไม่ตรงเพื่อน แจ็ค วิลเชียร์ (7) เป็นคนที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกและเกมรับของ อาร์เซน่อล สามารถเรียกฟาวล์และลูกตั้งเตะให้กับทีมได้อยู่ตลอด มีช่วงท้ายออกอาการหัวร้อน เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เมซุต โอซิล (5) ประกาศตามหาคนหาย หากบอกว่า โอซิล ไม่ได้ลงสนาม ก็คงเชื่อเหมือนกัน เพราะเขาแทบไม่ได้บอล สร้างสรรค์เกมอะไรไม่ได้เลย เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวัง ปิแอ เอเมอริค โอบาเมยอง (5) เมื่อกองกลางไม่ได้บอล แล้วกองหน้าอย่าง โอบาเมยอง จะไปเหลืออะไร จริงๆเขามีโอกาสยิงให้ทีมขึ้นนำก่อนด้วย 1-0 แต่ทำได้ไม่ดีพอ โดยจังหวะซ้ำจ่อๆหน้าประตู พอหมดจังหวะนี้ก็หายเข้าไปในกลีบเมฆ สำรอง เซอัด โคลาซินัช (5) ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับ โคลาซินัช เพราะ แมนฯ ซิตี้ ก็เริ่มผ่อนเกม หลังจากนำ 3-0 และไม่ค่อยบุกเจาะทาง โคลาซินัช แดนนี่ เวลเบ็ค (6) เวลเบ็ค ลงสนามมา ก็ตอนที่ อาร์เซน่อล ตามหลังไปแล้ว 0-3 เขาสามารถทำให้เกมรุกดูมีความหวือหวาขึ้นมาได้ แต่ก็พังไม่มีอะไรมากกว่านั้น อเล็กซ์ อิโวบี้ (6) มีโอกาสได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายจังหวะที่กำลังจะถึงบอล ถูกทาง เคลาดิโอ บราโว่ ออกมาตัดบอล ไว้ได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline