logo-heading

ราเยวัช วางคิวเก็บตัวทีมช้างศึกหนแรก 8 ต.ค.นี้ ก่อนบุกอุ่นเครื่องฮ่องกง และตรินิแดด และปลายเดือน 23 ต.ค.เก็บตัวรอบสองเพื่อลุยซูซูกิ คัพ และรอบสาม 19 ธ.ค. เก็บตัวลุยเอเชี่ยน คัพ ตามลำดับ

มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เผยถึงแผนการเตรียมทีมสำหรับสู้ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และ เอเชียน คัพ ในช่วงเดือนปลายปี 2561 ต่อต้นปี 2562 โดยทัพ “ช้างศึก” มีคิวป้องกันแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ต่อด้วยเอเชียน คัพ ในเดือนมกราคม 2562 ซึ่งราเยวัชมีแผนที่จะเก็บตัวเพื่อลงเตะกระชับมิตรกับฮ่องกง และตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ระหว่างวันที่ 8-14 ตุลาคม ก่อนที่จะเรียกเก็บตัวสำหรับซูซูกิ คัพ วันที่ 23-27 ตุลาคม โดยวันที่ 29 ตุลาคม นักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และบางกอกกล๊าส เอฟซี จะตามมาสมทบและฝึกซ้อมร่วมกันทั้งหมดจนเสร็จสิ้นทัวร์นาเมนต์ จากนั้นในวันที่ 19 -27 ธันวาคม จะเข้าสู่ช่วงเก็บตัวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเอเชียน คัพ และมีเกมอุ่นเครื่อง 1 เกม ก่อนจะรายงานตัวและเดินทางสู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 29 ธันวาคมต่อไป โดยทางด้าน มิโลวาน ราเยวัช ได้อธิบายถึงกำหนดการเตรียมความพร้อมดังกล่าวว่า “นี่คือแผนการทำงานของเราตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเอเชียน คัพ ซึ่งเราคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมชาติไทย” “ทีมงานของเราได้รับทราบข้อมูลว่า หลายๆ ประเทศส่งทีมเข้าไปเก็บตัวฝึกซ้อม ที่ยูเออีก่อนหลายสัปดาห์ อย่างอินเดีย คู่แข่งร่วมสายของเรา เขาจะบินเข้าไปที่โน่นตั้งแต่ 2 อาทิตย์ก่อนการแข่งขัน” “เช่นเดียวกับ อิหร่าน, เกาหลีใต้ และทีมอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะไปฝึกซ้อมที่นั่นประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น” “สำหรับทีมชาติไทย เนื่องจากเรามีซูซูกิ คัพ ที่อาจจะต้องเล่นรอบชิงฯถึงวันที่ 15 ธันวาคม ดังนั้นเราจะเก็บตัวที่เมืองไทยต่อ ก่อนบินไปยูเออีในคืนวันที่ 29 ธันวาคม” “เอเชียน คัพ ถือเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย และทีมชาติไทย ก็ไม่ได้ร่วมการแข่งขันมาถึง 12 ปีแล้ว ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้ดีที่สุด” ราเยวัชกล่าวทิ้งท้าย โดยทีมชาติไทย จะมีคิวอุ่นเครื่องเจอ ฮ่องกง ในวันที่ 11 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ก่อนจะพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ในวันที่ 14 ตุลาคม 2561 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดจำหน่ายบัตรแล้วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โดยทั้ง 2 คู่ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline