ฤดูกาลใหม่ของ 5 ลีกดังยุโรป ผ่านมาได้สักระยะนึงแล้ว หลายทีมผลงานดี หลายทีมน่าผิดหวัง เช่นเดียวกับนักเตะ บางคนที่คิดว่าดีก็ดันห่วย แต่บางคนที่คิดว่าจะห่วยกลับดี
อย่างเช่นวันนี้ที่ ขอบสนาม ขอนำเสนอคือ 5 นักเตะที่คิดว่าดับ หรือลืมไปแล้วว่าเคยเก่ง แต่ดันกลับมาคืนฟอร์มเทพอีกครั้ง เมื่อได้ย้ายมาอยู่กับอีกทีมในฤดูกาลนี้ จะมีใครบ้างไปดูกัน
1.อังเดร ซิลวา (เซบีย่า)
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนเปิดซีซั่นที่แล้ว อังเดร ซิลวา ถือว่าเป็นแข้งที่โคตรเนื้อหอม เพราะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยผลงาน 44 นัด 21 ประตู จนมีหลายทีมตามจีบ แต่สุดท้ายกลายเป็น เอซี มิลาน ที่คว้าหัวใจชายหนุ่มคนนี้ไปครอง สนนราคาค่าตัว 38 ล้านยูโร เซ็นยาว 5 ปีเต็ม มั่นใจว่าต้องใช่แน่ๆ
ทว่าพอเอาเข้าจริง แข้งวัย 22 ปีนั้นปรับตัวเข้ากับระบบทีมและลีกอิตาลีไม่ได้ จังหวะขาดๆ เกินๆ มีดีแค่วูบวาบ และตกเป็นตัวสำรองแบบแทบจะถาวร เสร็จสรรพจบฤดูกาล ลงเล่นในลีกไปรวมแล้ว 24 นัด ยิงได้แค่ 2 ประตู แน่นอนว่าไม่ดีพอที่จะอยู่ต่อไป แต่ด้วยอายุยังไม่เยอะ ทำให้ "ปีศาจแดง-ดำ" ยังไม่คิดจะขายขาด ปล่อยให้ เซบีย่า ยืมตัวไปใช้งานเพื่อโอกาสลงเล่น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย
การย้ายมาอยู่กับ เซบีย่า เหมือน ซิลวา ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ยึดตำแหน่งตัวจริงได้แบบถาวร ลงเล่นในลีกไปแล้ว 8 เกม ซัดไป 7 ลูก ช่วยให้ เซบีย่า บินสูงรั้งจ่าฝูงในตาราง ลา ลีกา สเปน อยู่ในขณะนี้
2.ปาโก้ อัลกาเซร์ (ดอร์ทมุนด์)
2 ฤดูกาลที่ต้องตกเป็นตัวสำรองแบบถาวรกับ บาร์เซโลน่า ทำให้หลายคนคิดว่าแกคงหมดอนาคต ไม่น่าจะกลับไปผลิตประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนตอนเล่นให้ บาเลนเซีย อีกต่อไปแล้ว เพราะลงเล่นรวมไป 50 นัด ยิงได้แค่ 15 ประตู ไหนจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอีก
แม้กระทั่งตอน ดอร์ทมุนด์ ตกลงยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่เลย และเพิ่งหายเจ็บเมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมานี่เอง ทำให้ช่วงต้นซีซั่นไม่ได้ลง แต่พอหายปุ๊ปพี่แกก็เริ่มยิงปั๊ป ตอนนี้ลงเล่นไป 4 นัด เล่นซัดไป 8 ประตู โหดสัสรัสเซียจริงๆ ล่าสุดกับทีมชาติสเปนก็เพิ่งยิงอีก 2 ลูก อัด เวลส์ ไป 4-1
3.มาเตโอ โควาซิซ (เชลซี)
ถ้าว่ากันตามตรง โควาซิซ คือส่วนเกินของ เรอัล มาดริด มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน ไปร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากดาวรุ่งพุ่งแรงที่หลายทีมต้องการตัว กลายเป็นแค่ตัวสำรองที่ถูกส่งลงเล่นช่วงท้ายเกม หรือได้ลงไปยืดเส้นยืดสายในเกมที่ไม่สำคัญนัก สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในดีลการย้ายทีมของ ติโบต์ กูร์กตัวส์
ตอนที่ย้ายมา เชลซี หลายฝ่ายก็คาดว่ามาแล้วก็คงก้นด้านเป็นตัวสำรองเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะกองกลาง เชลซี อัดแน่นไปด้วยตัวดีๆ ตัวดังๆ ทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เชส ฟาเบรกาส และ จอร์จินโญ่ เป็นต้น ซึ่งตอนแรกมันก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นแหละ แต่เมื่อเจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นก็ทำผลงานได้ดี จนตอนนี้ดูทีท่าว่าน่าจะเอาชนะใจ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยึดตัวจริงได้แล้ว
4.เรนาโต้ ซานเชส (บาเยิร์น มิวนิค)
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรนาโต้ คือโคตรดาวรุ่งแห่งยุค หลายทีมต่างรุมล้อมให้ความสนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีม สุดท้ายก็เป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่โชคดีได้ลายเซ็นเจ้าตัวไปครอง สนนราคาเบื้องต้น 35 ล้านยูโร ที่ควักจ่ายให้ เบนฟิก้า
แต่การซบทีมใหญ่แบบก้าวกระโดดทำให้ เรนาโต้ พบเจอกับอุปสรรค เขาไม่สามารถปรับตัวได้ การเล่นกับทีมที่เต็มไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ อาจจะทำให้เกร็ง และดูเหมือนก้าวกระโดดเกินไป จนไม่สามารถแสดงฝีเท้าที่ดีเหมือนตอนเล่นให้ เบนฟิก้า ได้ ซีซั่นแรกกับ "เสือใต้" ได้ลงไปรวมทุกรายการ 25 นัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวสำรอง และเจ้าตัวก็ทำประตูไม่ได้เลย
ฤดูกาลที่แล้วถูกปล่อยให้ สวอนซี ยืมตัว แต่ขนาดไปอยู่กับทีมเล็กอย่าง สวอนซี ก็ยังงัดฟอร์มเก่งไม่ได้ แถมเจ็บอีก ลงเล่นไปรวม 15 นัด ดูเหมือนดาวรุ่งจะกลายเป็นดาวดับอับแสงซะแล้ว ทว่ามาซีซั่นนี้ แม้ผลงานโดยรวมของ บาเยิร์น จะง่อยกว่าที่คิด แต่ฟอร์มของ เรนาโต้ กลับโดดเด่นจนเป็นที่จับตามอง และถูกกลับมาพูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง ตอนนี้ดูเหมือนจะยึดตำแหน่งตัวจริงในทัพ "เสือใต้" ได้แล้วด้วย
5.เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง (ซัสซูโอโล่)
หนึ่งในแข้งติสท์แตกจอมพเนจร จริงๆ ปีที่แล้วกับ แฟรงค์เฟิร์ต พี่แกก็ทำผลงานได้ดี มีช่วยช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ด้วย ซึ่งเจ้าตัวเหลือสัญญาอีกตั้ง 2 ปี แต่ก็อย่างว่าด้วยความติสท์ ที่ไม่ทราบเหตุผล อยู่ๆ ก็ขอยกเลิกสัญญา เหมือนกับที่ทำกับ ลาส ปัลมาส เมื่อ 2 ปีก่อน แล้วก็ย้ายมาอยู่กับ ซัสซูโอโล่
กลายเป็นว่า ซัสซูโอโล่ โชคดีไปเลย ได้แข้งติสท์แต่ฝีมือแจ่ม ยิ่งมาเล่นกับทีมระดับกลางๆ แบบนี้ยิ่งดูดีหนักเข้าไปใหญ่ ตอนนี้พี่แกเล่นเป็นเหมือนเพลย์เมกเกอร์ แต่ฟอร์มแจ่มแจ๋ว 8 นัด 4 ประตู พา ซัสซูโอโล่ รั้งอันดับ 8 ของตารางอยู่ในขณะนี้ ปีนี้คงไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้นแล้วหละ ขอแค่พี่ปริ๊นซ์แกอย่าติสท์แตกขอยกเลิกสัญญาอีกละกันนะ
ชิน ชินพัฒน์
