logo-heading

ท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนบอลทั่วโลกกับการสูญเสีย คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ไปอย่างไม่มีวันกลับจากเหตุการณ์ เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นหลายคนที่ออกมาชื่นชมและเปิดเผยถึงเบื้องหลังการช่วยเหลือต่างๆ นาๆ ที่ได้รับจากตระกูล ศรีวัฒนประภา และ บริษัท คิง พาวเวอร์

แม้ตัว "เจ้าสัววิชัย" จะจากไปแต่ทัพ "จิ้งจอกสยาม" ก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งคนที่น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักเต็มตัวแทนก็คงหนีไม่พ้น คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรลูกชาย คุณวิชัย ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่ามีน้ำจิตน้ำใจและเอาใจใส่ดูแลลูกน้องทีมงานได้ดีไม่แพ้คุณพ่อ และ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าชื่อดังของ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้ดีมีทุกวันนี้ได้เพราะ คุณอัยยวัฒน์ และตระกูล ศรีวัฒนประภา เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปย้อนดูกัน เลสเตอร์ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จในฤดูกาล 2015/16 โดยมี วาร์ดี้ ยิงกระจาย. ...หัวหอกวัย 31 ปี ย้ายจาก ฟลีตวู้ด ทาวน์ ทีมระดับนอกลีกมาร่วมทัพ "จิ้งจอกสยาม" เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าโคตรแพงสำหรับนักเตะนอกลีก แต่การลงทุนระดับ 50 ล้านบาท คุณต๊อบ และ คุณวิชัย ที่เป็นนักธุรกิจต้องคิดถี่ถ้วนอยู่แล้ว "คุณต๊อบ" อัยยวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร "a day" เมื่อปี 2016 ถึงเรื่องนี้ว่า "ที่จริงตอนแรกผมตั้งคำถามเกี่ยวกับเซ็นสัญญาครั้งนี้นะ ผมถาม ไนเจล เพียร์สัน (กุนซือในตอนนั้น) เกี่ยวกับนักเตะคนนี้ และดูรายงานสัปดาห์นึงเต็มๆ จนเริ่มรู้สึกว่า เออน่าจะเข้าท่านะ "แต่ผมก็ต้องตอบคำถามแฟนบอลด้วยเช่นกันว่า 'ทำไมเราถึงซื้อนักเตะนอกลีกตั้ง 1 ล้านปอนด์?' พวกเขาคงมองว่าผมคงเป็นเจ้าของสโมสรที่โง่ที่สุดในโลกแน่เลยถ้าทำอย่างนั้น ดังนั้นผมเลยถาม เพียร์สัน ว่า ถ้าผมมีงบให้ซื้อนักเตะแค่ 1 ล้านปอนด์เท่านั้นในซีซั่นหน้า คุณจะซื้อใคร? แล้วพวกเขาบอกว่า 'วาร์ดี้' ผมก็เลยบอกไปว่า 'งั้นเอาเลย'" แต่กว่าจะกลายมาเป็น วาร์ดี้ ที่เรารู้จักกัน ทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ วาร์ดี้ กลายเป็นเหมือนหนูตกถังข้าวสาร ได้ย้ายจากนอกลีกก้าวกระโดดขึ้นมาเล่นบนเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เงินจากที่ไม่เคยมีก็เริ่มมีเหลือใช้ ชื่อเสียงก็พอมีบ้าง นั่นทำให้เขาเหลิงและหลงระเริง เมาเละเทะทุกวัน แถมแฮงก์มาซ้อม จนคุณต๊อบต้องเข้าไปเปิดอกคุย "เขาไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อนดังนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ เขาเริ่มดื่มหนักทุกวัน จนมีคนมาบอกผมว่าเขามาซ้อมขณะที่ยังแฮงก์อยู่เลย ผมเลยไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง ผมถามเขาว่า 'คุณอยากจะจบอาชีพค้าแข้งของตัวเองอย่างนี้หรอ คุณต้องการจะอยู่ที่นี่ไปแบบนี้ใช่มั้ย? งั้นเราก็จะรอให้สัญญาคุณหมดแล้วเราก็ปล่อยตัวคุณออกไป อย่าคิดว่าเส้นทางของคุณจะไปได้ดีกว่านี้'" "เขาบอกว่าเขาไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตตัวเองดี เขาไม่เคยได้เงินเยอะขนาดนี้มาก่อน ผมเลยถามเขาว่า 'ความฝันของคุณคืออะไร? คุณคิดว่าชีวิตของคุณน่าจะเป็นยังไง?' คิดให้รอบคอบว่าคุณจะทำอะไรให้กับสโมสร ผมลงทุนกับคุณ คุณต้องทำอะไรตอบแทนกลับมา จริงมั้ย? หลังจากนั้นเขาก็เลิกดื่มและซ้อมหนักขึ้น เมื่อก่อนสภาพร่างกายของเขาไม่ได้ดีขนาดนี้นะ เรารู้ว่าเขามีสปีดต้นที่ดี แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะดีขนาดนี้ เขาปรับตัว เข้าฟิตเนส และกลายเป็นคนใหม่" นี่เป็นแค่หนึ่งในคนที่ต้องยอมรับตามตรงว่า "มีวันนี้เพราะตระกูล ศรีวัฒนประภา ให้" และเชื่อว่าการให้จากตระกูลนี้มันจะยังไม่สิ้นสุดแค่นี้แน่นอน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline