ผมคนจริง! "บิ๊กเจี๊ยบ" ตั้งโต๊ะแถลงยื่นเรื่องตรวจสอบความไม่โปร่งส.บอล

อดีตเลขาฯสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ  ตั้งโต๊ะแถลงถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารงานองค์กรลูกหนัง 3 ปีหลัง พร้อมทั้งยื่นถึงผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศให้ช่วยตรวจสอบ

พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก อดีตเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตั้งโต๊ะแถลงที่ห้องอาหารโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาฯ ชี้แจงประเด็นที่ไม่โปร่งใส่ในองค์กรลูกหนังไทยในช่วง 3 ปีหลังสุดหลังถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยเวลานี้ตนเองได้ยื่นเรื่องให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยตรวจสอบ บิ๊กเจี๊ยบ กล่าวว่า "ผมสิ้นสุดการเป็นเลขาฯ เพราะมีหนังสือเลิกจ้างแต่วันที่ 31 ต.ค.61 ตอนนี้หนังสือยื่นตรวจสอบสมาคมฯถูกส่งไปยังผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ไปตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.61 มีเรื่องที่สภากรรมการบางคน รับเงินเดือนจากสมาคมฯ ตั้งแต่เดือน มี.ค.2559 หรือประมาณ 1 เดือน หลังจากเลือกตั้ง โดยไม่ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมสภากรรมการ และที่ประชุมใหญ่สมาคมฯ  สามารถทำได้หรือไม่, ข้อสงสัยในวิธีการรับ-จ่ายเงินเดือนให้ผู้บริหารสมาคมฯ บางคน ที่อาจมีผลต่อเรื่องภาษี, การรับเงินเดือนแทนกัน, การให้โบนัส 1 เดือน ให้พนักงาน บจก.ไทยลีก  ในเอกสารระบุด้วยว่า ส่วนที่มีการบอกว่า สมาชิกไม่พอใจ และสภากรรมการเห็นชอบให้ปลดตนเองจากตำแหน่งเลขาธิการ เมื่อ 5 ต.ค.2561 แต่การประชุมสภาดังกล่าว ผิดข้อบังคับสมาคมฯ กล่าวคือ ส่งหนังสือเชิญประชุมไม่ถึง 7 วัน แต่ตนไม่ได้ร่วมประชุม เนื่องจากลาพักผ่อนไปต่างประเทศ จึงไม่ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงข้อกล่าวหา "ผมอยากฝากสื่อให้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ ผมมีหลักฐานอีกเยอะมากมาย แต่ผมจะไม่แถลงว่าใครดี ใครชั่ว แต่มันอยู่ที่การกระทำของแต่ละคนมากกว่า และอยากให้นำเรื่องแจ้งสโมสรสมาชิกให้รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในสมาคมฯ ซึ่งถ้าหากสโมสรไหนเห็นด้วยกับข้อความที่แถลงไปขอให้มาลงชื่อเห็นด้วยกับผม เพื่อให้กกท.ตรวจสอบบัญชีการใช้จ่ายของสโมสรทั้งหมด" "มีการทำผิดข้อบังคับของสมาคมฯ มีการนำภรรยามารับบเงินเดือนแทน เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง ผมคุยกับนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผมรับเงินเดือนเท่าคุณพาทิศ แต่ทำไมผมเสียภาษีเต็ม ผมก็แจ้งกับนายกฯ อะไรที่ไม่ถูกต้องผมก็พูด" บิ๊กเจี๊ยบ เผยต่อมาว่า "นายกสมาคมฯ เสนอให้ลาออกเอง แต่ไม่ยอมลาออก เพราะตนถือว่าตนไม่ผิด รวมทั้งที่ไม่รับตำแหน่งที่ปรึกษา เพราะรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ ถ้าอยู่ต่อ เรื่องแบบนี้ก็ต้องปิดลับ เพื่อให้สมที่นายกบอกว่า FAIR ให้ FAIR ทุกฝ่าย ข้อร้องเรียนนี้ นายกสมยศ ก็รับทราบ และบอกว่าข้องใจอะไรก็ยื่นร้องขอให้ตรวจสอบได้เลย" "ผมกับนายกเป็นเพื่อนกันมา 46   ผ่านร้อนผ่านหนาว แต่เรื่องงานเมื่อความคิดเห็นคนละอย่าง ก็ต้องแยกกัน เมื่อท่านนายกเห็นว่าทำได้ ผมเห็นว่าทำไม่ได้ ก็ต้องให้หน่วยงานกลางตรวจสอบ "ผมจะบอกว่า ผมมีสิทธิ์มากกว่านายกฯในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอีก จริงๆมีผม กับ บิ๊กหอย แค่ 2 คน วรวีร์ ติดโทษแบน แต่ผมก็เชิญ สมยศ มา ... ครั้งหน้าถ้าผมลงสมัคร ผมจะไม่รับเงินเดือนนายก จริงไม่จริงว่านายกสมาคมต้องไม่รับเงินเดือน ไม่เชื่อไปถาม วิจิตร เกตุแก้ว หรือ วรวีร์ มะกูดี ดูก็ได้" "ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมา 30 กว่าปี นายกพึ่งมาแค่ 3 ปี เรื่องนี้ไม่ต้องพูดเลย เพราะคนวงการฟุตบอลเขารู้จักผมดีอยู่แล้ว" "มีคนบอกว่าผมอยู่กับวรวีร์ก็อยู่ไม่ได้ มาอยู่กับชุดนี้ก็อยู่ไม่ได้ แต่จริงๆเป็นเพราะผมเลือกความถูกต้องมากกว่า เราแย้งไปในเรื่องที่เราเห็นว่าน่าจะเปลี่ยน แต่เขาไม่เปลี่ยน เราก็แยกทาง ก็แค่นั้น" "เรื่องทีมอุ่นเครื่อง โดยเฉพาะตริดิแดต แอนด์ โทเบโก ที่มาเตะ ส.บอลฯ มีองค์กรบริษัที่เป็นดีลเลอร์มารับหน้าเสื่อ แต่พอผมมาดูสัญญาว่าจ้าง ในฐานะเลขาฯ ผมว่ามันเป็นสัญญาทาสชัดๆ ยังไงสมาคมก็ขาดทุน ที่แปลกใจ ทำไมถึงไม่มีการเปิดประมูล ทำไมบริษัทนี้ได้บริษัทเดียว มันโปรงใส่หรือเปล่า" "ก่อนตริดิแดตฯจะมา ผมติดต่อเมียนมามาแล้ว สมาคมฯมาบอกว่า โค้ชไม่เอา  ผมไปถามโค้ช โค้ชบอกไม่รู้เรื่อง ผมทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาคมฯทุกอย่าง" "รวมถึงบริษัททัวร์ที่เข้ามาดูแล ก็เป็นเรตที่แพงเกินจากความเป็นจริง ทั้งในระหว่างที่ทีมชาติไทยไปต่างประเทศ รวมถึงรายการที่แข่งขันในไทย ผมมาวัดราคา ที่เราเคยได้ ราคาถูกกว่าปัจจุบันถึงล้านกว่าบาท" "อยากให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยตรวจสอบอย่างจริงจังครับ ถามว่าเรื่องนี้ผิดไหม ก็ตรวจสอบได้ ถ้าผิดจริงๆ มันเข้าข่าย มาตรา86 พรบ.กกท. สามารถสั่งปลดได้ตามขั้นตอน"