4 แข้งที่เคยเล่นให้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ในยุคที่เปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ลีก

พูดถึงเกมบิ๊กแมตช์ในคืนวันเสาร์นี้ก็คงไม่พ้นคู่ระหว่าง อาร์เซน่อล ที่มีคิวเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

ทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นชื่อว่าเป็นทีมยักษ์ใหญ่ระดับทวีปยุโรป และยามเจอกันทีไรก็เป็นต้องสนุกและดุเดือดอยู่ตลอด เช่นเดียวกับวันนี้ก็จะเป็นแบบนั้นแน่นอน ส่วนเรื่องผลแพ้ชนะจะเป็นใครนั้นก็คงต้องไปลุ้นกันตอนเกมได้สิ้นเสียงนกหวีดลง แต่ถ้าพูดถึง อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล จริงๆ ที่ผ่านมาในยุคหลังจากเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก มันก็มีผู้เล่นอยู่จำนวนหนึ่งที่เคยมีความสัมพันธ์กับทั้ง 2 ทีมโดยผ่านการค้าแข้งในสีเสื้อ 'ปืนใหญ่' และ 'หงส์แดง' มาแล้ว จะมีใครมั่งนั้น ? วันนี้ 'ขอบสนาม' จะพาไปดูกัน

นิโกล่าส์ อเนลก้า

Gerard Houllier's decision not to sign #Anelka proved his undoing at #LFC | @thisisanfield https://t.co/IESWM8V5GF pic.twitter.com/4mJidC6Zzd

— B/R Football (@brfootball) March 14, 2016

ถูกมองว่าเป็นแข้งจอมพเนจรคนหนึ่งในโลกลูกหนังเพราะที่ผ่านมาชีวิตพี่แกผ่านการค้าแข้งมามากมายกับหลายสโมสร แถมส่วนใหญ่เป็นทีมบิ๊กเนมด้วยซึ่งแน่นอนว่ามันมี ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล อยู่ในนั้นสำหรับเส้นทางชีวิตของ นิโกล่าส์ อเนลก้า พี่แกถูกซื้อตัวจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาร่วมทัพ 'ไอ้ปืนใหญ่' ตอนกุมภาพันธ์ 1997 ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น แต่ช่วงแรกๆ ผลงานอาจจะไม่ได้ปังอะไรมากมาย จนกระทั่งมาถึงซีซั่นที่ 3 หรือปีสุดท้าย อเนลก้า จัดการระเบิดตาข่ายไปถึง 19 ประตูจากจาก 46 เกม พร้อมกับมีเกียรติประวัติคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพี่แกยังได้รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 1999 อีกต่างหาก ก่อนจะถูก เรอัล มาดริด พรากตัวไปหลังจบซีซั่น แต่เหมือนชีวิตที่ สเปน จะไม่โอเคเท่าไหร่ อเนลก้า ก็เลยย้ายกลับไปทีมที่แจ้งเกิดขึ้นมาอย่าง เปแอสเช แต่จากนั้นไม่นานก็ได้โอกาสย้ายกลับมา อังกฤษ อีกครั้งแต่เป็นการย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยสัญญายืมตัว แต่ก็ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเพราะอยู่แค่ครึ่งปีเอง และได้เล่นไปแค่ 20 นัดเท่านั้น

ยอสซี่ เบนายูน

You can also follow me now on my official Facebook account..https://t.co/FIGhpfxQJ9 pic.twitter.com/2uVgu4Dz23

— Yossi Benayoun (@YossiBenayoun15) March 2, 2016

ยอสซี่ เบนายูน คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนัง อิสราเอล เขาถูกเซ็นสัญญาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2007 ด้วยค่าตัว 6.57 ล้านปอนด์ และก็โชว์ฟอร์มได้เยี่ยมทีเดียวจนยึดตำแหน่งตัวจริงได้ทันที ได้ลงเล่นทั้งหมด 134 นัด ยิงได้ 29 ประตู แต่น่าเสียดายที่ปีสุดท้าย เบนายูน ดันไปมีปัญหากับ ราฟาเอล เบนิเตซ ก็เลยทำให้ต้องระเห็จย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในปี 2010 อย่างไรก็ตามชีวิตที่ เดอะ บริดจ์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดเพราะไม่สามารถเบียดขึ้นไปเป็นตัวจริงของทีมได้ ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัว 1 ปีไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ในช่วงฤดูกาล 2011-12 โดยได้ลงเล่นไป 25 นัด ยิงได้ 6 ประตู

โคโล่ ตูเร่

Football birthdays:

Hector Bellerin (23)
Max Kruse (30)
Brad Jones (36)
Kolo Touré (37)
Alessandro Nesta (42)

That CB pairing ? pic.twitter.com/YhvAjlI9SJ

— Squawka Football (@Squawka) March 19, 2018

ย้ายจาก เอเอสอีเอส มิโมซาส มา อาร์เซน่อล ตอนปี 2002 และช่วงนั้น โคโล่ ตูเร่ ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สดคนหนึ่งในยุคนั้นของ พรีเมียร์ลีก และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ได้ด้วย พี่แกเล่นเกมลีกไป 226 นัดให้ 'ไอ้ปืนใหญ่' ก่อนย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2009 แต่ชีวิตที่นั่นไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะจากที่มีบทบาทมากๆ พี่แกก็ค่อยๆ โดนบทบาทลดลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นแค่อะไหล่สำรองซะงั้น ก่อนจะย้ายไป ลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัวในปี 2013 และก็ช่วยให้ทีมเกือบไปถึงฝันทั้งการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลที่ แอนฟิลด์ ด้วย ก่อนจะย้ายไป เซลติก ในเวลาต่อมา

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

Throwback to when Chamberlain joined us days after we played Arsenal said:
"We're in good form after beating Arsenal 4-0 last week" pic.twitter.com/mWxevHHxGe

— Zaahid Bahadur (@Zaahid_LFC) November 2, 2018

เด็กปั้นจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ย้ายมา อาร์เซน่อล ตอนปี 2011 ช่วงวัยกำลังสดๆ เลยทีเดียว อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ไปทั้งหมด 7 ฤดูกาล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ 2 สมัย เบ็ดเสร็จก็ 198 นัด ยิงได้ 20 ประตูซึ่งในช่วงนั้นจริงๆ ก็มีช่วงเวลาที่พี่แกเจ็บบ่อยเหมือนกัน ปัจจุบัน 'ดิ อ็อกซ์' ย้ายมาสังกัดอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้วพร้อมกับปรารถนาที่จะผันตัวเองจากตำแหน่งปีกหรือแนวรุกริมเส้นมาประจำการในบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งเป็นความฝันตั้งแต่วัยเด็ก แชมเบอร์เลน ใช้เวลาปรับตัวอยู่พอสมควรจนสุดท้ายก็สามารถเอาชนะใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ และเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในช่วงหลัง แต่ชีวิตของพี่แกเหมือนบุญมีแต่กรรมบังเพราะในช่วงที่กำลังเล่นดีก็ต้องมาเจ็บหนักและต้องพักยาวซะงั้น