อดิศักดิ์ : 6 ลูกของผมไม่สำคัญเท่าชัยชนะของทีม

กองหน้าวัย 27 ปี ชี้ชัยชนะของทีมสำคัญสุด หลังยิงคนเดียว 6 ประตู ช่วยทีมประเดิมคว้า 3 แต้มในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018

อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าทีมชาติไทย แสดงทัศนคติที่ดี เมื่อชี้ว่าชัยชนะของทีมสำคัญที่สุด หลังทำคนเดียว 6 ประตู ช่วยทีมชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0 ประเดิมคว้า 3 คะแนนแรก ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองหน้าวัย 27 ปี ยิงคนเดียวถึง 4 ประตูในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลัง จะมาบวกอีก 2 ประตู นอกจากกลายเป็นผู้เล่น ที่ยิงประตูในนัดประเดิมสนาม ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการแล้ว ยังทำให้เจ้าของฉายา ‘AK9’ เป็นผู้เล่นไทยรายแรก ที่ยิงดับเบิ้ลแฮตทริค หลังจากที่รุ่นพี่อย่าง วรวุธ ศรีมะฆะ ,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ,ศรายุทธ ชัยคำดี และ ธีรศิลป์ แดงดา เคยทำได้มากสุด 3 ประตูใน 1 เกม “เราพยายามมองเกมต่อเกม ก็ดีใจครับ ที่เราได้ 3 แต้มตามเป้าที่ตั้งไว้” “6 ประตูที่ยิงได้ เซอร์ไพรส์เหมือนกันครับ เพราะผมแค่อยากมีส่วนร่วมกับเกมให้มากที่สุด ผมไม่ได้โฟกัสเลยว่า ต้องยิงได้กี่ประตู ยิ่งเราเจ็บไปนาน มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาได้ ยอมรับว่าเหนื่อย และกดดันกับช่วงที่ผ่านมาเหมือนกัน” อดิศักดิ์ กล่าวต่อ “ช่วงที่เจ็บไป ก็คิดมากมาตลอดว่า จะกลับมาได้มั้ย ถ้ากลับมาได้แล้ว จะเล่นเข้ากับทีมได้หรือเปล่า อีกทั้งยังต้องกังวลว่าจะกลับไปเจ็บซ้ำอีก มันมีหลายเรื่องมากที่กังวล แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่ ในเมื่อเกมนี้จบไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป และกลับมาโฟกัสในเกมต่อไป” “ก่อนเกม ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องสถิติเลย แม้กระทั่งจบเกม ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย อย่างที่ผมบอก มันจบไปแล้ว เราพยายามโฟกัสในเกมต่อไป พยายามรับมือกับแรงกดดันที่มากขึ้น อีกอย่าง ที่ผมยิงได้ ส่วนสำคัญ ก็ต้องยกเครดิตให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน” “เราทำงานหนักกันจริงๆ ซ้อมเช้า และเย็น 3-4 ชั่วโมง ทุกคน พยายามสนับสนุนกันและกันอยู่ตลอด ไม่ว่าตัวจริงหรือตัวสำรอง อีกอย่าง สตาฟฟ์โค้ช ก็พยายามเตรียมทีมให้ดีที่สุด ดังนั้น ต้องขอบคุณทุกคน มากกว่า ผมคนเดียว” “หลังจากนี้ ทุกคนคงคาดหวังประตูจากผมมากขึ้น แน่นอน ผมก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่สำหรับผม ชัยชนะของทีมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” สำหรับโปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 นัดที่สอง ของกลุ่มบี วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7 HD