logo-heading

หากพูดถึง ปาทริซ เอวร่า แน่นอนผู้คนจะจดเขาในฐานะตำนานแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเหมือนจะเป็นฟูลแบ็กคนสุดท้ายที่อยู่ในยุครุ่งเรืองด้วย

อย่างไรก็ตามในโลกแห่งความเป็นจริงผู้ชายที่ชื่อ ปาทริซ เอวร่า คนนี้ในตัวพี่แกยังมีอีกหลายสิ่งที่หลายอย่างที่น่าสนใจ และคุณเองก็น่าจะยังไม่รู้ด้วย และนี่คือสิ่งที่ทาง 'ขอบสนาม' จะนำมาบอกเล่าเก้าสิบกันในวันนี้

มาจากครอบครัวตระกูลใหญ่

จากการให้สัมภาษณ์ของพี่แกเองเมื่อปี 2009 ปาทริซ เอวร่า บอกเองเลยว่าเจ้าตัวนั้นมาจากครอบครัวใหญ่ที่มีพี่น้องถึง 24 คน และทุกวันนี้สาเหตุที่พี่ยังไม่รีไทร์จากวงการลูกหนังเพราะ เอวร่า ต้องเป็นคนหาเงินเลี้ยงคนทั้งหมดในตระกูลทั้ง 24 ชีวิต 'ผมยังต้องเล่นฟุตบอลต่อไป เพราะต้องเลี้ยงดูพี่น้องอีก 24 คน ดังนั้นผมจึงหยุดไม่ได้ ผมต้องวิ่งต่อไป' นี่คือสิ่งที่ ปาทริซ เอวร่า เคยเอ่ยเอาไว้

เป็นคนดังในโลกโซเชี่ยล

นอกจากจะเป็นคนดังในวงการฟุตบอลแล้ว รู้หรือไม่ว่า ปาทริซ เอวร่า ยังเป็นคนดังในโลกออนไลน์อีกด้วย เพราะพี่แกเป็นคนติดการเล่น Instragram เป็นอย่างมาก และมักชอบสร้างรอยยิ้มและอารมณ์ขันให้กับแฟนๆ ที่ติดตาม ด้วยการอัดคลิปต่างๆ นาๆ เช่นการการล้อเลียนโน่นนี่นั่น, แต่งตัวล้อเลียนคนดัง, เล่นตลกขบขัน อะไรทำนองนี้ ซึ่งปัจจุบันในบัญชีแอคเคาท์ patrice.evra มีผู้คนติดตามมากถึง 5 ล้านคนเลยทีเดียว

พูดได้ 6 ภาษา

เหนเป็นคนลุยๆ อารมณ์ขันและบ๊องๆ แบบนี้ แต่หารู้ไม่ว่า ปาทริซ เอวร่า พูดได้ถึง 6 ภาษาเลยทีเดียวเชียวไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ, อิตาเลี่ยน, สแปนิช, โปรตุกีส, ฝรั่งเศส และช่วงที่ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พี่แกลงทุนไปร่ำเรียนภาษาเกาหลีเลยด้วย เพื่อเอาไว้คุยกับเพื่อนที่ซี้ที่สุดอย่าง ปาร์ค จี ซอง

ชีวิตค้าแข้งเคยลำบากสุดๆ

เห็นพี่แกประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนาน, เป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุด แถมยังเคยเป็นกัปตันทีมด้วย แต่หารู้ไม่ว่าชีวิตของพี่แกกว่าจะมาถึงจุดๆ นั้นได้ต้องเผชิญหน้ากับความลำบากยากเย็นแสนเข็นแค่ไหน ? เอวร่า ไม่ประสบความสำเร็จเลยตอนวัยเด็กช่วงไปทดสอบฝีเท้ากับทาง แรนส์, ล็องส์, ตูลูส และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในบ้านเกิด ซึ่งตอนนั้นพี่แกประจำการในตำแหน่งแนวรุก แต่ยังโชคดีที่พี่แกได้รับความสนใจจากทีมเล็กๆ ในอิตาลี ซึ่งชื่อว่า มาร์ซาล่า และ เอวร่า ได้เซ็นสัญญากับที่นั่น เล่นในตำแหน่งปีกและโชว์ฟอร์มได้โอเคทีเดียวกับการยิงไป 6 เม็ดจาก 27 เกม ก่อนจะย้ายไปดับกับ มอนซ่า ต่อมา เอวร่า ได้โอกาสกลับมายังบ้านเกิดใน ฝรั่งเศส โดยเล่นให้กับ นีซ และในช่วงแรกๆ พี่แกถูกดันไปเล่นเป็นกองหน้าด้วย แต่เนื่องด้วยสโมสรกำลังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ทำให้พี่แกต้องหมุนมาเล่นเป็นแบ็กซ้ายเป็นครั้งแรกนัดที่เจอกับ สต๊าด ลาวาลลัวส์ แต่กลับฉายแววได้ดีจนได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นตำแหน่งซ้ายยอดเยี่ยมในลีก ดิวิชั่น 2 หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดี โมนาโก ก็เลยกระชากตัวมาร่วมทีมในปี 2002 และก็ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้ต่อเนื่อง จนปี 2006 ก็ได้ย้ายมาปักหลักปักฐานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ช่วงปีแรกๆ ก็เจอปัญหาในการปรับตัวเช่นกัน

ตำนาน กังฟู คิก ภาค 2

หลังจบชีวิตที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องราวของ เอวร่า ก็ไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่ จนกระทั่งตอนย้ายมา โอลิมปิก มาร์กเซย เพราะพี่แกได้สร้างตำนาน 'กังฟู คิก' บทที่ 2 ต่อจาก เอริค คันโตน่า โดยเกิดขึ้นในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่เจอกับ วิตอเรีย กิมาไรส์ พี่แกถูกแฟนบอลพูดจาถากถางใส่ต่อหน้า ก่อนจะของขึ้นและเตะเข้าไปที่ก้านคอของแฟนบอลคนดังกล่าวอย่างจัง จากสิ่งที่เกิดขึ้น เอวร่า โดนปรับ 10,000 ยูโร และถูกแบนจากการแข่งขันของ ยูฟ่า 7 เดือน แต่ที่หนักกว่าคือ มาร์กเซย ได้จัดการฉีกสัญญาพี่แกทิ้งโดยทันที
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline