ผ่านพ้นไปแล้วครับ สำหรับโปรแกรมทีมชาติ ซึ่งนับเป็น "ฟีฟ่า เดย์" ครั้งสุดท้ายประจำปี 2018 ซึ่งหนึ่งในทีมยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ก็คงต้องยกให้กับ ฝรั่งเศส เจ้าของแชมป์ ฟุตบอลโลก 2018 ถึงแม้จะไม่ได้ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
แต่ทว่าก็มีเรื่องยอดดาวยิงแห่งทัพ "ตราไก่" มาฝากแฟนๆชาวขอบสนาม เพราะมันมีตัวเลขดาวซัลโวขยับขึ้น หลังจบเกมที่ ฝรั่งเศส เอาชนะ อุรุกวัย 1-0 มาดูกันว่า 5 ทำเนียบผู้กระซวกตาข่ายสูงสุดมีใครบ้าง
5. ซีเนอดีน ซีดาน : 31 ประตู
หนึ่งในตำนานแข้งที่ดีที่สุดแห่งประวัติศาสตร์วงการลูกหนัง เขาได้สร้างผลงานไว้บนผืนฟลอร์หญ้าให้คนรุ่นเขาได้ยกย่อง และ ให้คนรุ่นหลานได้ย้อนกลับไปดูว่า ซีเนอดีน ซีดาน สุดยอดมากแค่ไหน อย่างเช่นที่ "ซิซู" พาทัพ "ตราไก่" คว้าแชมป์ "เวิลด์ คัพ 1998" และ ยูโร 2000
ถึงแม้ ซีดาน จะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แต่ทว่าเขาคือกองกลางจอมถล่มประตูคนหนึ่งเลยก็ว่า เพราะไม่ว่าลูกจะมาในลักษณะไหน สามารถหวดเป็นประตูได้หมด ซึ่งการทำ 31 ประตู จาก 106 นัด ก็เป็นเครื่องวัดชั้นดี ซึ่งตั้งแต่เริ่มรับใช้ทีมชาติ ในปี 1994-2006 ซีดาน สามารถผลิตสกอร์ให้กับ ฝรั่งเศส ได้ทุกปี น่าเสียดายที่แมตช์อำลาทีมชาติ จบไม่สวยมากนัก
4. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ : 33 ประตู
ในภาพจำของทุกคนตอนนี้ เชื่อเลยว่าตอนนี้คงมองเป็น โอลิวิเย่ร์ เป็นดาวยิงเท้าบอดไปแล้ว เพราะอย่างในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์มาครอง เจ้าตัวผลิตสกอร์ไม่ได้เลย รวมถึงกับ เชลซี ต้นสังกัด ก็ยังซัลโวบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ ไม่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าเมื่อไหร่ที่ ชิรูด์ ได้สวมเสื้อทีมชาติฝรั่งเศส เขาเหมือนเป็นเพชรฆาตในกรอบเขตโทษเหลือเกิน อย่างเช่นนัดล่าสุดก็ซัดจุดโทษพาทัพ "ตราไก่" เฉือนเอาชนะ อุรุกวัย 1-0 ส่งผลให้เจ้าตัวสร้างสถิติทำประตูให้กับบ้านเกิดไปแล้วถึง 33 ประตู จากการรับใช้ชาติ 87 นัด !! ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะครับ .. นี่ถ้าได้อีก 1 ตุง ก็จะเทียบเท่ากับหัวหอกตำนานที่จะกล่าวคนต่อไป
3. ดาวิด เทรเซเก้ต์ : 34 ประตู
เชื่อเหลือเกิน วัยรุ่นยุค 90 หรือ ยุค 2000 จะต้องเอา ดาวิด เทรเซเก้ต์ มาเป็นหัวหอกไว้คอยโขกประตู ในเกมฟุตบอลยอดฮิตอย่าง "วินนิ่ง" บนเครื่อง เพลย์ สเตชั่น เพราะถ้าเปิดเข้าเป้าเมื่อไหร่ มีโอกาสเป็นประตูเมื่อนั้น แน่นอนในเกมเก่งขนาดนี้ ของจริงย่อมโหดมากกว่า
ดาวิด เทรเซเก้ต์ เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะกับทีมชาติ ภาพความสะใจที่เจ้าตัวเป็นคนซัดประตู "โกลเด้น โกล" เอาชนะ อิตาลี 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์ ยูโร 2000 ยังคงตราตรึงใจมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งในนามทัพ "ตราไก่" เขาซัลโวมากถึง 34 ประตู โดยใช้เวลาเพียงแค่ 71 นัด เท่านั้น นับว่าใช้เวลาเร็วมาก เฉลี่ยแล้ว 0.48 ประตู ต่อหนึ่งเกม
2. มิเชล พลาตินี่ : 41 ประตู
เชื่อว่าหลายๆคน เกิดมาไม่ทันได้ยลฟอร์มเทพของ มิเชล พลาตินี่ เพราะตำนานรายนี้ โลดแล่นบนโลกลูกหนัง ในยุค 70s กับ 80s ซึ่ง พลาตินี่ เปรียบเสมือนเป็นจอมทัพของทีม, มีความเป็นศิลปิน และ มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เรื่องการจ่ายบอลนี่โคตรคิลเลอร์พลาส และ สอดขึ้นไปทำประตูเป็นว่าเล่น
ก่อนหน้าที่ มิเชล พลาตินี่ ถือครองเป็นดาวซัลโวตลอดกาลทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยจำนวน 41 ประตู โดยมีอยู่ทัวร์นาเมนต์หนึ่ง ยูโร 1984 ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ พลาตินี่ บ้าคลั่งถึงขนาดยิงประตูคนเดียว 9 ลูก จากแค่ 5 นัด และ 9 ลูกที่ว่ามานี้ 2 ตุง เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ และ ชิงชนะเลิศ ก่อนจะพาทัพ "ตราไก่" คว้าแชมป์ไปครอง แต่ทว่าสุดท้ายแล้วสถิติดาวซัลโวของเขา ก็โดนทำลายลง
1. เธียร์รี่ อองรี : 51 ประตู
สุดยอดดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศส มีนามว่า เธียร์รี่ อองรี แทบไม่ต้องบนนยายสรรพคุณเกี่ยวกับฝีเท้านักเตะรายนี้อีกแล้ว เพราะเป็นโคตรแข้งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งความเร็ว, ทักษะ และ การจบสกอร์ ไม่อย่างนั้น อาร์เซน่อล คงไม่เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สำคัญแบบไร้พ่าย
ส่วนกับทีมชาติฝรั่งเศส อองรี รับใช้บ้านเกิด เริ่มตั้งแต่ปี 1997 จนถึง ปี 2010 ซึ่งอยู่ในยุครุ่งโรจน์ทั้งเป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก 1998 และ ยูโร 2000 พร้อมกับจารึกไว้ว่า "คิงอองรี" คือดาวซัลโวตลอดกาลทัพ "ตราไก่" 51 ประตู ซึ่งมีปี 2003 เคยซัลโวในปฏิทินเดียวถึง 11 ประตู ถ้าหากจะหาคนมาทำลายสถิตินี้ คงต้องรอดู อ็องตวน กรีซมันน์ กับ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ว่าจะคงเส้นคงวาขนาดไหน
